Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
เธšเน‰เธฒเธ™เธ„เน‰เธ™เธซเธฒLatest imagesเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)

 

 เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"

Go down 
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 2:46 pm

กรูไม่ใช่เกย์….จริงๆนะ..ฮือๆเลิกจีบกรูซะทีเหอะ
โดย เซ็งเป็ด



....เมิงขออะไรหน่อยได้มั๊ย......
......ขออะไร
......ขอหัวใจเมิงอ่ะ หัวใจตรูมันเรียกร้อง
แมร่งงงงงงง ประโยคพรรค์นี้ผมได้ยินบ่อยมากกกกกก
ได้ฟังที่ไรปวดไปถึงตับ จุกทุกที คิดได้ไง
เรื่องของเรื่องคือผมเป็นน้องใหม่ แล้วมันทำงานมาก่อน
ทีนี้มันคงแอบชอบผมมั้ง หน้าตาก็ดีทำไม๊ ทำไมไม่ไปเอาผู้หญิง
ผมเคยถามมัน....มันบอก กรูไม่ชอบตีฉิ่ง....ไอ้กร๊วก...
ทุกเช้าวันจันทร์ผมจะเจอน้ำเต้าหู้ตั้งอยู่บนโต๊ะ เมื่อก่อนมันซื้อปาท่องโก๋ด้วย
แต่พอผมบอกว่ากินปาท่องโก๋ทีไรนึกถึงแฟนทุกที มันก็ไม่ซื้อมาให้เห็นอีกเลย
........ทำไมมันถึงคิดว่าผมจะชอบมันน่ะเหรอครับ มาดูเหตุผลมัน

1. ก็เมิง(มันเรียกผมว่าเมิง)เดินตูดบิดนี่หว่า
2.เครื่องประทินโฉมเมิงเยอะจัด
3.เมิงทิ้งแฟนเมิง แสดงว่าเมิงไม่ชอบผู้หญิง...(ที่จริงเค้าทิ้งผม)
4.ถึงเมิงจะเตะบอลแต่ เมิงเล่นบอลไม่เก่ง เมิงเล่นวอลเล่เก่งกว่า
5.เมิงไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่เหมือนตรู
6.ที่สำคัญตรูว่าชาติที่แล้วเมิงต้องเป็นเมียกรู ไม่งั้นกรูไม่รู้สึกกับเมิงแบบนี้หรอก.......

.........................................................................................

คิดดูผมต้องทนกับคำพูดเล้าโลม เอ้ย แทะโลมแบบนี้เกือบทุกวัน
วันไหนมันอารมณ์ดี มันก็จะร้องเพลงออกมาให้ฮากันทั้งแผนก
" อาจเป็น.......เพราะเรา........คู่กันมาแต่ชาติไหน"
ชาติสุนัขสิว่ะ แมร่ง....ผมอายจนต้องสำรอกคำนี้ออกมาอ่ะ
คิดดูว่าผมต้องทนกับมันขนาดไหน
จริงมันเป็นเพื่อนที่ดีนะ แล้วผมก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเกย์ และมันก็บอก
เสมอว่า"เมิงว่ากรูเป็นเกย์อีกคำเดียว เมิงเป็นเมียกรูแน่คืนนี้"
ผมรีบเอาเข็มกับด้ายมาร้อนแล้วเย็บปากตัวเองทันที
....."ทำไมห้องเมิงสะอาดจังว่ะ" มันถาม ผมก็บอกว่าผมเป็นภูมิแพ้
มันก็บอกว่า"ก็ให้กรูมาอยู่ด้วยสิ กรูจะได้รับความทุกข์ไว้เอง"
คือบอกไม่ถูกมันจะพูดประมาณพี่แท่งอ่ะ ผมว่าถ้าผมเป็นผู้หญิงผมคงว่ามันโคตรรรรรเสร่อเลยแหละครับ
แต่จะไปต่อล้อต่อเถีงกับมันมากไม่ได้ มันจะปล้ำเอาทุกที

.........................................................................................
มีอยู่ครั้งนึงออกไปทำงานไฟล์เดียวกันต้องขับรถออกไปด้วยกัน และรอกว่าเครื่องจะลงก็ต้องนอนรอในรถ
อยู่ๆมันก็บอกว่า
"ถ้าเมิงเป็นผู้หญิง กรูว่าเมิงเอ๊กซ์น่าดู เมิงว่าเมิงจะนมใหญ่ป่าว"
"นมกรูใหญ่รึป่าวไม่รู้ แต่ถ้ากรูเป็นผู้หญิงแล้วเมิงคิดแบบนี้กับกรู กรูจะเป็นทอม"
"ถึงเป็นทอมก็รัก" ผมอึ้ง แล้วก็อึ้ง ขนลุกซู่ๆ

...........................................................................
มันบอกว่า" เป็นไปได้มั๊ยที่คนเราไม่ใช่เกย์แต่จะชอบผู้ชายด้วยกัน"
ผมก็เลยย้อนถามมันไปว่า"แล้วผู้ชายที่ชอบผู้ชายเมิงเรียกอะไร"
มันบอก"เกย์"
แล้วก็มองหน้าผมบอกว่า "เดี๋ยวเถอะเมิง เดี๋ยวโดนกรูยัดเยียดความเป็นผัวให้แล้วจะรู้สึก"
แมร่ง คำนี้คือคำที่มันชอบขู่ ตอนแรกโกรธ หลังๆขำว่ะ
ผมพยายามถามว่าทำไมถึงไม่ไปจีบผู้หญิง
มันบอกว่าไม่รู้สิ มันก็ชอบผู้หญิงนะ ผู้ชายคนอื่นมันก็เฉยๆนะ แต่กับผม
พออยู่ใกล้แล้วมันเสียวซ่าน(มันใช้คำนี้จริงๆ พร้อมทำหน้าหื่น)
ตอนแรกผมนึกว่ามันล้อเล่น แต่หลังๆมันไปถึงบ้าน
ซื้อข้าวของไปฝากแม่ ที่เด็ดสุดเคยซื้อ นมตราหมีไปฝากแม่
แล้วบอกแม่ว่า "ให้แม่ เพื่อคนที่คุณรัก" แม่จะชอบมันมาก เพราะมันโคตรปะเหลาะ ชอบคุยกับแม่
สักพักก็บอกว่า ขอลูกแม่สักคนได้ป่าว แม่ก็บอกน้องนุ่นแม่ไม่ให้ เอาน้อง....(ผมเอง)ไปแทน
เข้าทางมันเลยครับ บอกงั้นมันจะให้แม่มาขอ ดูมันเลวววววว...

.....พอตกดึกมันจะขอนอนที่บ้าน มันบอกว่า" บ้านอ้อย รกจะตายยยย"
ผมต้องขู่มันอ่ะ ว่าถ้ามันไม่กลับไปบ้าน ผมจะไม่ให้มาที่บ้านอีก มันถึงยอม.........

.........................................................................................
เคยมีครั้งนึงเมื่อตอน เมษา ผมกลับบ้าน มันกลับบ้าน มันโทรมาบอกว่า
" หวัดดี เมิงรู้ป่าวกรูอยู่ไหน"
มันเพิ่งส่ง ข้อความาบอกผมว่าตอนนี้มันอยู่ยุดยาแล้วเมื่อ 5 นาทีก่อน
"ไม่รู้ อยู่หนาย"
"กรูว่าแล้ว แมร่งเมิงไม่เคยสนใจกรู ไอ้เอี้ย"แล้วมันก็วางไป มันคงคิดว่าผมจะโทรไปง้อ

....................................................................
..................................................................
20นาทีผ่านไป....มันโทรมา บอกว่าทำไมผมไม่โทรหามัน
ผมบอกไปว่าโทรหาทำไม มันก็บอกว่าก็แฟนกันเค้าต้องห่วงใยกันสิไอสาดดดดด
แล้วก็หัวเราะๆแหะๆ คุยตามเรื่องตามราวของมันไป.....
.......มีอยู่ช่วงนึงผมโคตรรำคาญมันมาก ผมบอกว่า "ให้ตายกรูก็ไม่เอาเมิงหรอก เลิกยุ่งกับกรูซะที"
มันก็หง๋อยนะ แล้วก็ไม่คุยกับผมอีกเลย จนผมเองรู้สึกผิดน่ะแหละ
เพราะช่วงนั้นมันเหมือนคนอกหักซึ่งความรู้สึกผมคือ เมิงเป็นอะไร ทำไมต้องกินเหล้า
ทำไมต้องไม่มาทำงาน ทำไมไม่มองหน้าไม่คุยกับกรู อกหักเพราะกรูเนี๊ยะนะ
กรูเป็นเมียเมิงตั้งแต่เมื่อไหร่ จนหลังๆมันโทรมครับ เหมือนอาตี๋ติดยา
ผมทนสภาพมันไม่ไหวก็ ไปหามันที่บ้าน ไปคุยกับมัน

.........................................................................................
ตอนแรกมันไม่ยอมเปิดประตูครับ เคาะกันข้อมือแดง หลังๆไม่ไหว ใช้ถีบ....
จนสุดท้ายต้องบอกว่า...อ้าว ไม่อยู่เหรอ...งั้นกรูไปหล่ะ ....ยังไม่ทันหันหลังเลย
ประตูเปิดผ่าง เกือบโดนหน้า "แมร่ง เมิงจะเล่นตัวทำเอี้ยอาราย เมิงดูข้อนิ้วก็แดงหมดแล้ว"
"ก็เมิงไม่บอกว่าใคร กรูนึกว่าเป็นไอ้เติ้ลมาทวงค่าบอลกรู(ช่วงนั้นบอลโลกฟีเวอร์)
โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าเล่นตัวที่แท้เอือกหนีเจ้าหนี้
....มันบอกให้ผมเข้าห้องมัน ผมชะโงกหน้าเข้าไปดู พลางใช้วิจารณญาณตรึกตรองและใคร่ครวญ
เอามือกอดอกแล้วเกาคาง "อืม บ้านอ้อยนี่รกจะตายจริงๆ" ผมแกล้งเฉไฉ
เพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าห้องมัน เพราะคิดว่าถ้าก้าวเท้าเข้าไป ขากลับมีหวังได้เดินขาถ่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าไม่ดีแน่
" ไม่ต้องกลัวกรูปล้ำเมิงหรอก" มันรู้ทัน
"กรูรู้ว่ากรูทำให้เมิงรำคาญ เพราะกรูก็รำคาญตัวเองเหมือนกันที่ทำกับเมิงแบบนี้ แต่กรูไม่เคยทำแบบนี้กับใครนะ เมิงเข้าใจป่าว"
ผมพยักหน้า สายตาจับจ้องไปที่มือที่มันไขว้หลัง เพราะยังระแวงกลัวจะโดนลากเข้าห้อง
แรงชายอย่างผมจะไปสู้แรงความอย่างมันได้เยี่ยงไร
"แต่กรูคิดแล้วนะ ว่าต่อไปกรูจะไม่ทำอย่างนี้อีก เมิงเป็นเหมือนเดิมกับกรูได้มั๊ยวะ"
ผมบอกได้" แต่เมิงต้องสัญญากับกรูก่อนนะว่า เมิงจะไม่คิดอะไร เอี๊ยๆกับกรูอีก กรูกลัวอ่ะ"
มันบอก" เมิงนึกว่ากรูไม่กลัวตัวเองเหรอ กรูว่าคนที่เค้าอ่านในพันทิพย์ต้องหาว่ากรูโรคจิตแน่ๆ(อันนี้เติมเอง อิๆ)
ผมพามันไปกินข้าวเพราะเห็นว่ามันเริ่มผอมแล้ว คาดว่ามันต้องแ**กเหล้าแทนน้ำ เล่นกามแทนกินข้าวแน่นอน

........................................................................................


เนเธเน‰เน„เธ‚เธฅเนˆเธฒเธชเธธเธ”เน‚เธ”เธข เน€เธกเธทเนˆเธญ Thu Jun 07, 2007 3:57 pm, เธ—เธฑเน‰เธ‡เธซเธกเธ” 1 เธ„เธฃเธฑเน‰เธ‡
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 2:52 pm

"เมิงห่วงกรูมั่งป่าว"
"ห่วงดิ เมิงรู้ป่าว พี่เต้ย(โทษนะพี่เต้ยที่เอาชื่อมาใช้ เพราะพี่นั่นแหละตัวดี ยุดีนัก)
เค้าคิดจะเอาเมิงออกแล้วเพราะเมิงกินแรงคนอื่น"
"ห่วงกรูจริงๆอ่ะ" สายกรุ้มกริ่ม ยังกะเห็นผมเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์
" ป่าว กรูล้อเล่น" แล้วผมก็ลุกไปซื้อน้ำ กลับมาเห็นมันนั่งยิ้ม คงอารมณ์ดีแล้วหล่ะมั้ง ผมก็เลยนั่งเป็นเพื่อนมัน
สักพักเสียงโทรศัพท์ดัง ไม่โชว์ชื่อ มันก็รับ
...คุยสักพักหน้าซีดเป็นตูดเด็ก
"ไอ่ ชะลอรีเอ่ะ โทรมา ทวงค่าบอลกรู" เพื่อนมันชื่อชลอ แต่มันเรียก ชะลอรีเอ่ะ เพื่อนมันได้ยินคงชอบชื่อนี้นะ หวังว่า.....
"กรูยื้มตังส์เมิงก่อนได้ป่าว" ว่าแล้วต้องมาแนวนี้ ตอนนั้นผมคิดว่ามันคงยืมแล้วเชิดหนีแน่ๆ
ในห้วงแห่งมโนธรรมนั้นเองก็เลยคิดแผนกำจัดมันออกไปจากชีวิตได้ คือ......การให้มันยืมเงิน แล้วถ้ามันเชิดเงินจริงๆ ผมก็จะทำเป็นโกรธ
แล้วก็หาเรื่องให้มันออกไปจากชีวิตได้ซะที ว้าอ่าๆๆๆๆ ล้ำเลิศๆ
"จะเอาเท่าไหร่" มันทำหน้างง เพราะปกติไม่เคยให้ใครยืมเงินแม้แต่หัวหน้าที่เงินเดือนเยอะกว่าผม
"ซะๆ สาม พะ พัน" จะตะกุกตะกักไปทำไม 3พันจ้างให้เมิงออกไปจากชีวิตกรู กรูว่าคุ้มแล้ว จ้างมือปืนแมร่งเป็นหมื่น ผมคิดในใจ
ผมไม่ลังเลควักให้มันไปทันที มันบอกว่ามะรืนวันพุธใช่มั๊ย เดี๋ยวมันหามาคืน
ผมบอก เออ แล้วก็ขอตัวกลับ มันอาสาออกมาส่งหน้าปากซอย ผมบอกว่าไม่ต้อง
มันบอก"ไม่ได้ ถ้าเมิงเป็นอะไรไปกรูต้องเสียใจไปตลอดชีวิต" เออ กรูซึ้งอย่างแรง ไอ่โกโบริ
.........................................................................................
พอกลับถึงบ้าน แม่ถามไปไหนมา รู้ป่าวลูก...(แม่เรียกมันลูกอ่ะ คิดดู ลูกผีลูกคนอ่ะดิ.)โทรหาได้สัก5-6 ครั้งได้มั้งทำไมไม่เอาโทรศัพท์ไป
ผมนึกในใจ เอาอีกแล้วสาดดด อยากจะบอกแม่ว่าก็เพิ่งมาจากหอมันนั่นแหละ จะโทรทำเอี๊ยอะไร
มือถือก็เอาไปจะโทรเข้าบ้านทำสามง่ามหาพระแสงอะไร
มารู้ทีหลังมันอยากรู้ว่าผมแว๊บไปไหนรึป่าว จะบ้าตายกับมัน
ผมคิดตอนนั้นคาดว่า ถ้าแผนนั้นไม่ได้ผล เห็นทีคงจะต้องจ้างการ์ดของนายกมาจัดการแมร่งนี้แล้วมั้ง
ประมาณว่าพามันไปประท้วงม๊อบนายก พอใกล้นายกมาถึงก็ถีบมันออกไป ให้การ์ดนายกเหยียบ อิๆล้ำเลิศอีกแล้ว.......
สรุปว่าผมจะบ้าแทนมันเองซะแล้ว
........วันจันทร์...น้ำเต้าหู้กลับมาอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม
แสดงว่า มันกลับมาเป็นโรควัวบ้าอีกแล้ว ที่พิเศษไปกว่านั้นมีปาท่องโก๋มาด้วย ชักเริ่มเอ่ะใจ

.........................................................................................
10โมงผ่านไปยังไม่เห็นหน้ามัน ชักยังไงๆ เลยถามพี่เต้ยบอกเห็นไอ....รึป่าว
พี่เต้ยก็นะ รู้เห็นเป็นใจส่งเสริมเด็กในทางผิด จะให้น้องโดนกินถั่วดำให้ได้ ล้อผมอีก
หาว่าเป็นห่วงก็ทำไมไม่ยอมๆมันซะหล่ะ (พูดเหมือนบางคนในห้องนี้เลยอ่ะ) มันกลับยุดยาบอกว่ามีธุระที่บ้านวันพุธเย็นๆกลับ..
...เออ งั้น2 วันนี้จะเป็นวันที่ผมทำงานอย่างมีความสุขที่สุดแน่ๆ คืดในใจ

......วันจันทร์ ผ่านไปโดยไร้เสียงโทรศัพท์ "หมาจะเกิด :-) หมาจะเกิด:-)" ชอบจริงๆเลยเพลงนี้เหมาะกับมันที่ซู๊ดดดดดดดดดดดด

......วันอังคารผ่านไปก็ยังคงเงียบเหงา ผมรู้สึกแปลกอ่ะ (อายว่ะ ถ้าจะบอกว่าก็เป็นห่วงมันนิดหน่อย แต่ไม่มากถึงขั้นไม่ต้องทำอะไร)
เพราะมันไม่เคยหายไปนานเกิน 2 ชม ไม่มีใครกวนประสาทและทีนก็เลยเหงาๆ
ก็เลยตัดสินใจโทรเข้ามือถือมัน แต่ว่า มันปิดเครื่อง ทีนี้ก้เลยชักเป็นห่วงแต่ไม่มากนะครับ อย่าเข้าใจผิด
กลับบ้านไป ก็รอให้แม่บอกว่า ลูก...โทรมาหาแน่ะ แต่แม่ก็ไม่ว่าอะไร มันชักจะยังไงกันหว่า
หรือว่า โดนใครอุ้มไปนั่งยางซะแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเสียใจแย่ เสียใจที่ทำไมไม่เอาไปฝัง จะได้เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ได้ประโยชน์ ว่าไปนั่น

........พอไม่มีมันมากวนส้นทีนมันก็เหมือนขาดๆอะไรไปเหมือนกันนะครับ
คือคนมันเจอทุกวัน หมาหยอกไก่เช้าเย็น อยู่ดีๆหายไปก็เคว้งๆ
แต่ไม่ได้ชอบมันนะ จริงๆ ให้ตายเหอะ........จะมีใครเชื่อผมมั่งเนี๊ยะ

.........................................................................................
กลายเป็นกระทู้ที่น่ากลัวไป ณ บัดดล ตกใจแทบสิ้นสติที่เห็นกระทู้ตัวเองได้รับความสนใจมากขนาดนี้
....คือว่าไม่คิดว่าเรื่องอุจาดแบบนี้จะกลายเป็นที่ถูกใจของชาวปันติ๊บไปได้ อิๆ
.....เอางี้แล้วกันถ้าอยากรู้กันมากนักก็จะเล่าความเป็นมาเป็นไปเรื่องผมกับมัน(และวันอัศจรรย์ไรของเรา)....
...มันเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานผมเข้ามาก่อนผม ครึ่งปีมั้ง
เป็นเด็ก ม.เอกชนไงเลยจบก่อน ม.รัฐบาล จริงๆก็รุ่นเดียวกันนั่นแหละ
เอ๊ะ หรือผมอ่อนกว่ามันฟ่ะ ...ผมเข้ามาวันแรกก็เจอมันนี่แหละ on duty วันนั้น
ผมว่ามันก็เฉยๆนะ แมนๆ หน้าตาเหมือนแมงวัน ตาโตๆ โปน อิๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร
(หน้าเหมือนคนนั้นอ่ะ นึกไม่ออก คนที่เป็น af 2 อ่ะ ที่อยู่แกรมมี่ ที่ร้องเพลงเพราะๆ ตาโปนๆเหมือนกัน โทดทีนะนึกไม่ออก นึกออกจะมาโพสบอก หรือถ้าใครทราบเบาะแสก็บอกด้วยนะครับ ว่านักร้องมันชื่ออะไร จะได้หายข้องใจกัน)
แต่รู้สึกว่าไอ่นี่มันเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงอวดเก่งเจงๆ

........มันชอบมาสอนงาน ถ่ายเอกสารมันยังสอนเลย
ผมบอกไม่ต้องสอนผมหรอก ตอนฝึกงานก้ถ่ายแต่เอกสารนี่แหละ
จนจะเปิดร้านเองแล้ว......เรื่องน้ำเต้าหู้ มันเริ่มซื้อมาให้ตั้งแต่วันแรกที่ผมยืนดูดไวตามิลล์
พอมันเห็นปั๊บเท่านั้น รีบแถ...เเทเเด็ดเเทแด็ดแท็ดแถ เข้ามาทันที บอกชอบกินน้ำเต้าหูเหรอ ผมบอก ป่าว พอดีหิวเลยกินรองท้อง


............ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋จะมาอยู่บนโต๊ะ ทุกวัน
มันบอกว่าลูกสาวร้านปาท่องโก๋ชอบมัน ซื้อแต่เต้าหู้ทีไร แถมปาท่องโก๋มาให้ทุกที....

.....จนวันนึงผมบอกว่ากินปาท่องดก๋แล้วนึกถึงแฟน (ผู้หญิงนะ)
วันรุ่งขึ้นมันซื้อมาแต่น้ำเต้าหู้อย่างเดียวเลย
ผมถามว่า" อ้าวแล้ววันนี้ปาท่องโก๋ไม่มาเหรอ หรือว่าลูกสาวเจ้าของร้านไม่ชอบเมิงแล้ว"
มันบอกถ้ากินปาท่องโก๋แล้วแสลงก็ไม่ต้องกิน กรูไม่เอาแล้ว มันให้กรูก็เอาให้วินมอไซต์หน้าปากซอย...สันดานเลวเล็กน้อย
......ผมบอกว่าแสลงอะไรของเมิงก็ไม่แพ้(ตอนนั้นยังไม่เกท)ซะหน่อย
มันบอกให้ผมอ่ะกิรนแต่น้ำเต้าหู้เยอะๆ จะได้แข็งแรง
มันบอกว่ามันชอบคนอวบๆ.......
ชักเอะใจ เมิงจะขุนกรูไปทำไก่ตอนวันไหว้รึไง............
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 2:56 pm

ตอนแรกๆเราพูดเพราะๆกันครับ ผม.. คุณ... ครับ
แต่มันจะติดพูดคำว่าจ๊ะจ๋า ซะส่วนใหญ่ ซึ่งก็ชวนอ๊วกดีไม่น้อย
ตอนนั้นบอกไม่ต้องพูดจะจ๋า ก็ได้ กรูไมใช่นักร้องคาเฟ่

มันก็ไม่ยอม มาดีแตกเอาตอนที่ต้องCO งานกัน
เริ่มใช้อารมณ์ น้ำเสียงและกำลังปลุกปล้ำกันมากขึ้น
จนมาหลังๆจาก คุณ เป็นเมิง จากผมเป็น กรู
จากนั้นบรรดาสรรพสัตว์น้อยใหญ่ก็พาเหรดกันออกมาให้เราได้พูดกันไม่ขาดปากกันทีเดียว
"เอ้ย ไอ้...ไมเมิงไม่กินน้ำเต้าหู้ว่ะ สาดดกรูซื้อมาเสียของ"
" กรูแ**กไม่ลงแล้ว ซัดข้าวไปเมื่อเช้าแล้ว"
แล้วมันก็จะทำหน้าบร้าทันทีพอรู้ว่าผมกินข้าวไม่รอมัน
ผมไม่เข้าใจมันเหมือนกันแหละครับ บางทีเหมือนเด็กเหลือขอ
บางทีก็เหมือนเด็กขาดความอบอุ่น บางทีก็เป็นเด็กเอาแต่ใจ
สงสัยที่บ้านโอ๋จัดแน่นอน ผมคิดแบบนั้น
................................................................
วันนึงมันโทรศัพท์มา บอกมาออกมาหากรูหน่อย มีธุระด่วน
ผมก็ถามมันว่าเรื่องอะไร มันบอกเรื่องคอขาดบาดตาย แมร่งได้ยินก็ลนลานเลยสิครับ
กลัวมันจะโดนพวกโต๊ะบอลกระทืบตายคารีบอกซ์
ออกไปโทรศัพท์อะไรก็ลืม มาถึงมันยืนรอหน้า เซเว่น
ผมถามว่า"มีอะไร..เรื่องคอขาดบาดตาย"
มันบอกว่า" พรุ่งนี้มันไม่มีกางเกงใส่ไปทำงานเพราะว่ามันลืมไว้ที่บ้าน" อิ๊บอ๋ายแมร่ง ในใจอยากเอา adidas คู่ 500ต่อเหลือ 320 จากข้าวสาร ถอดออกมาบรรจง ค่อยๆยัดปากมันจริงๆ
"เมิงไปพานพุทธเป็นเพื่อนกรูหน่อยสิ" นี่คือสิ่งที่มันวางแผนล่อผมออกมาเพื่อจะชวนไปเป็นเพื่อนมัน......

มันว่า

.........................................................................................

หลังจากนั้นมันก็ทำเนียนมาตีซี้กับผมมากขึ้นครับ
ถึงขั้นใช้อำนาจมืด ล๊อบบี้ให้หัวหน้า signงานคู่กับมันตลอด
จนหลังๆ ที่ทำงานเริ่มล้อมากขึ้น พี่ๆเค้าจะเรียกผม น้องรัก และเรียกมันว่าน้องยม
ซึ่งก็ไม่ชอบเลยครับ แต่ดูท่ามันจะดีใจไม่น้อยที่มีกองเชียร์หนุนหลังมัน
ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเชียร์ให้ผมกับเอากัน
ผมบอกว่าเอ้ย กรูไม่ชอบกินถั่วดำนะเว้ยแมร่ง ตื้อกรูอยู่ได้
...มันบอกว่า" กรูก็ไม่ชอบเหมือนกันแหละ กรูว่ากรูจะลองกินพร้อมเมิงนี่แหละ"
แล้วก็ทำสายตาซอกซอนเข้าลึกทุกซอกมุม ผมทนไม่ไหว เกรงว่าถ้าขืนนั่งอยู่ ของเหลวขลุกขลิกที่จุกอยู่ในลำคอจะพุ่งปรี๊ดใส่หน้ามัน.............
ผมจะรวบรวมสำนวนที่มันใช้แทะโลมผมเท่าที่นึกออกนะ
....สมมุติวันนั้นอารมณ์ดี ไม่ว่าจะด้วยชนะบอล หรือ ตอนเย็นมีนัดจะไปแ**กเหล้าเคล้านารีกับเพื่อนมันก็ตามแต่ ทันทีที่มันเจอหน้าผม
...." รู้ป่าว เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืน"
...."ทำไม"
.....ไม่อยากหลับตา หลับตาทีไร เห็นแต่หน้าเมิง"
สิ้นคำพูดนั้นทุกอย่างรอบตัวเงียบกริบ ได้ยินแต่เสียงจั๊กจั่น จี๊ดๆๆหน้าร้อนเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น
.................................................................
" เฮ้ย จะรีบเดินไปหาป๊ะเมิงเหรอ กรูหนักนะ"มันบ่นเนื่องจากต้องหิ้วเอการคนเดียว
ผมหยุดและเดินกลับไปจะไปช่วยมันถือ
" ทำไร ไม่ต้อง กรูบอกแล้วไงว่ากรูจะดูแลเมิงเอง"
T_T แป่วววววววววว ผมก็เลยให้มันสะพายเป้ให้ผมอีกใบ
ให้มันดูแลซะให้เอียนไปเลย
.......................................................................
" พรุ่งนี้หยุดไปไหนรึป่าว"
ผม"ไม่ไปอ่ะอยู่บ้าน"
"งั้นกรูไปบ้านเมิงได้ป่าว"
ผม" ไม่ด้ายยยยยยยยย !!! บ้านเมิงก็มีกลับบ้านเมิงดิ สาดดดด
บ้านกรูซื้อข้าวแ**กนะเว้ย ไม่ได้ทำนาเหมือนบ้านเมิง"
มันทำหน้าเจื่อนๆ สะใจผมอย่างแรง แต่มันยังไม่หมด
"งั้นก็ซื้อข้าวหน้าปากซอยบ้านกูไปก็ได้ เมิงไม่ต้องให้แม่เมิงหุงข้าวเผื่อกรูนะ"
"โคตรหน้าด้านเลยว่ะ เมิง"
"จะว่ายังไงพี่ก็ทน ขอให้พี่เป็นคนเจ้าของหัวใจน้องเอยยย ชะเอิงเอย ห่าเหว อะไรมันไม่รู้
ท่อนนี้จำไม่ได้ ประมาณนั้นแหละ มันฮัมเป็นเพลงไง
ผมนะ ไม่รู้จะทำไงกับมันดีแมร่ง หน้าด้าน
สุดท้าย มันก็มานอนเอกขเนก ผลาญอากาศบ้านผมอีกจนได้
...................................................................
และถ้าในเคสที่มันเสียบอล หรือ โดนพี่เต้ย หัวหน้าเล่นงาน มันจะอารมณ์หมองทันที
" เฮ้ย กรูเรียกทำไม ไม่หัน ไอ่สาด เดี๋ยวพ่อฟาดด้วยปากให้สำนึก"
1หล่ะ
" แมร่งกวนส้นกรูนัก จับปล้ำซะดีมั๊ย" แล้วมันก็ปล้ำผม
ผมก็นะ จะสะดีดสะดิ้งก็แมร่งไม่ใช่ผู้หญิง จะทำตัวยังไงก็ทำไม่ถูก
แมร่งจะร้องก็อาย ได้แต่ร้อง"เฮ้ย แมร่งไปไกลๆกู ไอ่...บร้า แมร่ง โรคจิต เฮ้ย "
มันก็จะพร่ามอยู่แต่ว่า " มา กรูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้เมิง ๆๆๆๆๆ เสร็จกรูแน่"
แล้วก็เอาคางที่มีขน[^_^]มาถูที่คอ เพื่อนๆ พี่ที่ทำงานเฮกันใหญ่
อย่างกะเชียร์ มวย เห็นผมเป็นอะไรกันว่ะ...........
พอมันได้แกล้งผม มันก็หายบ้า อารมณ์บรรเจิดเหมือนเดิม
กลายเป็นผมแทนที่ต้องอารมณ์ค้าง เจ้ยยยยม่ายช่ายยย
อารมณ์เสียเพราะมัน วันนั้นทั้งวันก็เป็นอันรู้กันว่า
"ไม่เมิงกับกรูต้องตายไปข้างนึง"
กัดกันทั้งวันจนคนที่ออฟฟิสรำคาญอีก............เฮ้อออ........ผมหล่ะเหนื่อย
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:00 pm

เอาหล่ะ........เข้าเรื่องที่ค้างไว้ตอนที่แล้วเมื่อวาน ก็แล้วกันนะ
เรื่องที่มันยืมเงินผมไปแล้วมันบอกจะมาคืนวันพุธ...........
สุดท้ายมันก็หายไป 2วัน ผมโทรไปก็ปิดเครื่อง จนผมนึกว่ามันโดนแก๊งค์โต๊ะบอล อุ้มไปเตะเป็นลูกบอลซะแล้ว

......เช้าวันพุธผมลองโทรไปหามันดู โทรติดครับ
เสียงรอสายมันนะ"ก็มันไม่เคยรักใคร ไม่เคยตกหลุมรักใคร"
เพลงใครก็ไม่รุ แต่ฟังยังไม่จบก็รีบกดวางอ่ะ เพราะกลัวมันรับ(อ้าวยังไง).........
ไม่เกิน นาที โทรมาทันใจอย่างกับสั่งได้
"เป็นเอี้ยไร โทรมาแล้ววาง"
ผม"ป่าว กรูแค่อยากรู้วางเมิงตายรึยัง กรูจะได้ทำบุญไปให้
"ปากดีนะเมิง........ยังไม่ตายหรอกเว้ย แค่ปางตาย"
"อะไรของเมิงปางตาย"
"เมิงไม่ต้องสนใจหรอก กรูเอาเงินที่ยืมมาคืน เย็นนี้มาเอาที่ห้องกรูนะ"
ผมนึกเสียดายในใจ แผนการที่จะใช้การยักยอกเงินของมันล้มเหลว
แผนจ้างมือปืนเริ่มแว๊บเข้ามาในสองอีกครั้ง.........
"เจ้ยย เมิงเอามาให้กรูดิเอี๊ย ยืมเงินกรูไปแล้ว ยังให้กรูตามไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวอีก"
"ถ้ากรูไปไหว กรูเอาไปให้เมิงแล้ว ไอ่สาดเห็นใจกรูหน่อย กรูก็คิดถึงเมิงไม่น้อยกว่าเมิงคิดถึงกรูหรอก" T_T

.........ท่านผู้อ่านครับ จากที่ท่านได้อ่านมาข้างต้นไม่มีคำไหนที่ผมบอกว่าผมคิดถึงมันเลย มันเลวววววววว

........แต่ใจนึกก็นึกสงสัยทำไมมันบอกว่ามันมาไม่ไหว มันต้องเป็นอะไรแน่ๆ หรือว่า ชะตามันใกล้ขาดแล้ว คิดเช่นนั้น หัวใจดวงน้อยก็พองโต อิๆ

.........................................................................................
ตกตอนเย็นเมื่อตระหนักแล้วว่า ต้องไปหามันที่บ้านแน่ๆ
เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เหมือน เอาอ้อยเข้าปากช้าง เอาปลาทูไปให้แมว
เอาเนื้อเข้าปากเสือ เอาถั่วดำไปประเคนให้มันซดถึงห้อง
ผมก็เลยจัดแจงแต่งตัวเองให้ดึงดูดอารมณ์ทางเพศให้น้อยที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดคดีข่มขืนด้วยการ

........ใส่กางเกงบอลขาสั้น ใส่บอกเซอร์ ให้เห็นเรียวขาและขนหน้าแข้งพองาม
จากนั้นท่อนบนใส่เสื้อกล้ามรัดๆพอเห็นกล้ามหน้าอกและขนจักแร้น้อยๆ
อืมมมมม บร้าๆๆๆๆ ล้อเล่นครับ
อยากให้ผมแต่งอย่างงั้นไปอะดิ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะ
ผมเลือก กางเกงยีนแบบกระดุม(ถอดยาก) ไม่พอยังรัดเข็มขัด(ตอนแรกจะเอาเชื่อฟางมาผูกเงื่อนตายด้วยซ้ำ)
แล้วก็ใส่เสื้อกล้ามไว้ข้างใน (กันมันเห็นหัวนมแล้วเกิดบ้าขึ้นมาผมก็แย่)
แล้วก็ใส่เสื้อยืดทับด้วยแจ๊คเก็ทอีกที ตอนแรกใส่แว่นดำและหมวกไหมพรมไปด้วย
แต่แม่ทักว่าจะไปปล้นใคร เสียself เลยถอดออก(อันนี้ล้อเล่น)

...........ไปถึงบ้านมันเย็นๆ 6โมงกว่ามั้ง เคาะประตู2-3ก๊อก
มันก็ตะโกนบอกให้เปิดเข้ามาเลย ผมยังลังเล กลัวเปิดเข้าไปมันจะโปะยาสลบเอา(คิดมากจริงๆนะ)
ค่อยๆบรรจงแย้มประตูเข้า พอเห็นว่าปลอดภัยดีแล้วเลยย่างเท้าเข้าไปก้เห็นว่า ห้องอ้อยยังคงรกเหมือนเดิม.....

......ผมมองหามันรอบห้องไม่เจอ เลยตะโกนถามว่ามันอยู่ไหน มันบอก "เดี๋ยว กรูขี้อยู่"
โอเคชัดเจน ทั้งภาพและเสียง บวกกลิ่นด้วยนิดหน่อย เฮ้อ..

.....ผมนั่งรอมันสักพักใหญ่เลยหล่ะ ตอนแรกนึกว่ามันจะพลาดท่าตกส้วมตายซะแล้ว
เพราะมันไม่ธรรมดา ส้วมชักโครกที่คนธรรมดาเยี่ยงเราๆท่านๆควรจะนั่งลงไปให้สบาย
แต่มันไม่.....มันยังคงรักษาธรรมเนียมเก่าแก่โดยการขึ้นไปเหยียบบนโถแล้วนั่งยอง สูบบุหรี่..อืมมม
ที่รู้เพราะเคยเห็น ว้าฮ่าๆๆๆ เห็นกันหลายคนด้วยเพราะพี่ๆเค้าแกล้งมัน
ผมเลยพลอยเห็นไปด้วย มันบอกว่า "มันไม่ชอบนั่งทับรอยใคร แม้แต่รอยตูดตัวเอง"

.........ทันทีที่มันออกมาผมก็พบว่า......................
.........
.........................................................................................

-ตามันเขียวปั๊ด ทั้งสองข้างเลย
-ปากแตกห้อเลือด
-ชายโครงเป็นปื้นยังกับใครเอาแข้งมาประทับ

ท่าทางมันดูอิดโรย เดินมาเหมือนโครงกระดูก เห็นแล้วสงสาร+สมเพช เพราะตอนนั้นในใจคิดว่ามันคงโดนพวกโต๊ะบอลเล่นเอาแน่นอน
" เอ้ย เป็นอะไรเมิงว่ะ ไปเป็นลูกตะกร้อให้ใครซ้อมว่ะ
เออ แต่กรูว่า นี่ไม่ใช่แค่ซ้อมว่ะ นี่มันลงสนามแข่งจริงๆแล้วนะเนี๊ยะ"
ผมว่าของผมไปเรื่อย......ห้องของมันอับเจงๆ มิน่าถึงชอบไปสิงบ้านคนอื่นแหะๆ
"หุบไปเหอะเมิง เอา..เงินกรูคืนให้ ขอบใจที่ให้ยืม"
"เมิงไปเอามาจากไหน ไปยืมใครมาอีกหล่ะ เกี่ยวกับที่โดนซ้อมปางตายมารึปลาว"
"แมร่ง ถามสาดดด กรูเอามาให้ก็เอาไปเถอะ ไม่ต้องรู้ว่ากรูเอามาจากไหน กรูไม่ได้ไปขายยาบ้าก้แล้วกัน"
"กรูไม่กลัวเมิงขายยาบ้าหรอก กรูกลัวเมิงไปขายก้นอะดิ 555"
"ไอ่สาดดด ก้นกรูกรูก็หวงนะ กรูจะเก็บให้เมิง"
"อุ๋ยยย เงียบไปเลย จะตายอยู่แล้วยังจะปากดี"

................................................................

ผมนั่งเงียบๆซึ่งก้ไม่แปลก แต่มันนั่งเงียบๆนี่ดิแปลก(ไม่ได้อยู่รอให้มันปล้ำนะ แต่ตอนอยากรู้จริงๆว่ามันไปโดนใครกระทืบมา)
..."กรูถามเมิงคำเดียว ถ้าเมิงเห็นกรูเป็นเพื่อน เมิงบอกกรูมา ว่าไปทำอะไรมา"ผมคั้น
"ไม เป็นห่วงเหรอ" มันยังคงไม่หมดพิษสง
"บอกมาก่อนว่าเป็นห่วงกรูป่าว"
ผมโคตรรรกระอักกระอ่วนเลยตอนนั้น
ในที่สุดก็"เออ"
"เออ อะไร พูดดีๆ เพราะๆด้วย"
"เออ กรูเป็นห่วง"
"เมิงพูดกรูกับกรูได้ยังไง แมร่งไม่สุภาพเลย ผู้ดีที่ไหนเค้าพูดกันเอาใหม่"
มันอมยิ้ม ผมเห็นหน้ามันแล้วเท้าเริ่มกระดิก อาจต้องซ้ำให้ตายสนิทก็คราวนี้..........แต่ก็ยอม

"ครับ ผมเป็นห่วงคุณอย่างแรงนิ" .............
.................................................................

ตอนแรกมันบอกว่ามันไปมีเรื่องกับเด็กแถวบ้าน ผมบอกไม่เชื่อ
เพราะบ้านไม่มีเด็กวัยรุ่นเลย สุดท้ายผมบอกว่า ถ้ามันไม่เห็นผมเป็นเพื่อน
ผมก็ไม่จำเป็นต้องรู้อะไร แล้วผมก็จะไม่คิดว่ามันเป็นเพื่อนอีกต่อไป มันถึงยอม
........" กรูยืมเงินเมิง 3พัน เอาไปให้ไอ่ชะลอรีเอะ ทีนี้กรูไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน ยืมใครก็ไม่ได้ เลยต้องแบกหน้ากลับบ้าน"

ผมฟังก็ยังไม่เห็นว่าจะทำให้มันเจ็บตัวได้ตรงไหน

" กรูกลับบ้านไปขอพ่อ พ่อกรูถามว่าเอาไปไหน กรูบอกกรูเสียบอล แล้วเมิงก็เห็นอย่างที่เห็นนี่แหละ"
มันสลดลงอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
"แล้วทำไมเมิงไม่บอกพ่อเมิงดีๆว่ะ"
"พ่อกรูพูดดีได้ที่ไหน ตั้งแต่เกิดมากพ่อพูดกับกรูน้อยกว่าที่พ่อซ้อมกรูอีก"
ผมฟังแล้วสะท้อนใจพิกล
"แล้วทำไมเมิงไม่บอกแม่"
"แม่กูตายไปนานแล้ว พ่อกรูอยู่กับแม่เลี้ยง"
อิ๊บอ๋าย ผมทำอะไรลงไปนิ่ ผมเห็นตามันแดงๆอ่ะ ตกใจครับ
เพราะไม่เคยเห็นมันเป็นอย่างนี้มาก่อน.....ผมบอกให้มันระบายมา
ผมจะนั่งฟัง เพราะเห็นว่าตอนนี้เหมือนมันเก็บอะไรอยู่ในใจ

.........................................................................................

"แม่กรูตายตั้งแต่กรูอยู่ป.3 เส้นเลือดในสมองแตก กรูอยู่กับพ่อ แล้วก็เมียใหม่พ่อ"
อืมมม วงเวียนชีวิตอีกแล้ว
" พอกรูอยู่ ป.5 แม่เลี้ยงกรู ก็มีน้อง กรูต้องดูน้อง กรูโดนซ้อมเพราะน้องนี่แหละ
กรูเคยทิ้งน้องไปเล่นกับเพื่อนพ่อกรูรู้ แมร่ง ก้านคอกูสลบเหมือด"
ผมฟังไปก็กลืนน้ำลายเอือกๆ ทำไมโหดจังว่ะ แม่ผมอย่างมากก็ฝ่ามือ แต่นานๆที
" กรูเลยออกมาอยู่วัดจนจบ ม.3 ถึงได้ไปเรียนต่อไง แล้วกรูก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย"
"อ้าวแล้วเมื่อสงกรานต์ที่เมิงบอกว่าอยู่บ้านหล่ะ"
"กรูไปอยู่กับหลวงพี่ที่วัดก็คนที่ทำงานเค้ากลับบ้านกันหมด แต่.....กรูไม่มีที่ไป"
...โหผมฟังแล้ว เล่นเอาน้ำตารื้อเหมือนกัน ก็เริ่มเข้าใจมันนิดหน่อยแล้วหล่ะว่า มันเป็นโรคจิตเพราะอะไร
"แล้วทำไมเมิงไม่คุยกับพ่อดีๆหล่ะ"
"กรูเคยแล้ว กรูซื้อของไปฝากตอนเงินออก เค้าไม่มองหน้ากรู ไม่พูดกับกรูสักคำ กรูนั่งอยู่ในบ้านเหมือนส่วนเกิน พ่อกับแม่เลี้ยงนอนห้องนึง น้องกรูห้องนึง แล้วเมิงจะให้กรูอยู่ไหน เค้ากินข้าวกันโดยที่มีกรูนั่งอยู่ ไม่เห็นเค้าจะเอ่ยปากชวนกรูสักคำ แค่นี้กรูก็พอรู้แล้วว่ากรูเป็นส่วนเกินของชีวิตเค้าแล้ว"

"ทำไมพ่อเมิงถึงทำแบบนี้อ่ะ เอ่อ คือเหมือนเกลียดเมิงอ่ะ"

"กรูก็ไม่รู้ กรูไม่เห็นเค้าจะอะไรกับกรูเลย กับแม่กรูก็เหมือนกัน กรูว่าเค้าคงไม่ได้รักแม่กับกรูมั้ง เห็นแม่บอกว่าโดนคลุมถุงชน"
อืมมม เน่าสนิท ลำพังห้องมันก็เหม็นอับจะแย่อยู่แล้ว นี่ยังเน่าเพราะเรื่องที่มันเล่าอีก เหม็นหนักกว่าเก่า แต่ผมก้เห็นใจมันนะ............
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:06 pm

ผมนึกขึ้นได้ว่าที่มันโดนซ้อมเพราะผม(ถึงจะไม่เกี่ยวกันเลยก็ตาม)

"ทีหลังบอกกรูก็ได้ว่าไม่มีเงิน หรือไม่ก็ค่อยจ่ายกรูก็ได้ กรูไม่ซีเรียสหรอก มีอะไรปรึกษากรูได้"

"กรูไม่อยากทำให้เมิงรู้สึกไม่ดีกับกรู กรูสัญญาว่าจะคืนกรูก็จะคืน
เพราะเมิง...คือคนที่กรูไว้ใจที่สุด" ค่อยยังชั่วนึกว่ามันจะหยอดอีก

ตอนนั้นผมเห็นใจมันนะ เริ่มเข้าใจมันหลายๆอย่าง
แล้วก็เริ่มคิดว่า บางทีมันอาจไม่ได้ต้องการให้ผมไปเป็นเมียมัน
แต่มันอาจแค่ให้ผมเป็นเพื่อน....แค่เพื่อน
ซึ่งผมว่ามันแยกไม่ออกมั้งระหว่างคนรักกับเพื่อน
เพราะที่ฟังๆมามันไม่ค่อยได้ประสบพบเจอกับความรักเท่าไหร่
....คิดมาถึงตอนนี้ก็...มิน่าหล่ะ มันชอบไปปะเหลาะแม่ผม
บางทีมันอาจต้องการความอบอุ่นจากใครสักคนก็ได้

" เมิงไม่ต้องสงสารกรูหรอก กรูขอแค่เมิงรักกรูมั่งก็พอ"

T_T.........อิ๊บอ๋าย...โธ่เว้ย นึกว่าผมเข้าใจถูก แต่มันยังคงอยากได้ผมเป็นเมียอยู่ดี.....เฮ้ออ...
เอาเหอะ ตอนนั้นมันไม่สบายใจผมก็เลยไม่อยากต่อล้อต่อเถียง....

อยู่ดีๆมันก็ลุกขึ้นบอกว่า........เมิงช่วยกรูหน่อย
(แมร่ง เอาแล้ว มันจะให้ช่วยตัวเองให้มันเหรอ ผมคิดไปไกลถึงพิจิตรแล้วตอนนั้น)...
........."ช่วยไปหยิบอัลบั้มรูปหน่อยดิ กรูจะเอาอดีตให้เมิงดู"

............เฮ้อ โล่งอก แหะๆ

.........................................................................................

ผมลุกขึ้นไปเอาอัลบั้มรูปมาให้มัน ผมก็เอามือตบเบาะ แป่ะๆ(ฝุ่นกระจาย) บอกมานั่งใกล้ๆ มันจะเล่าความหลังให้ฟัง
"เนี๊ยะรูปกรูตอนเรียน ม.ปลาย นี่เพื่อนกรู ที่ครู คนนี้กรูสนิทสุด"
"แล้วตอนนี้ไปไหนหมดอ่ะ"
มันก็อึ้งๆไป ผมก็เลยพอเดาออกว่า คงไมใครทนคบมันได้เหมือนผมอีกแล้วหล่ะ
มาถึงรูปหลัง " นี่ไงรูปแม่กรู สวยป่าว แม่กรูไม่เคยตีกรูเลยนะ" เสียงมันสั่นๆอ่ะ
" กรูรักแม่กรู" แล้วมันก็ร้องไห้เลยครับ แมร่งผมทำอะไรไม่ถูกเลยอ่ะ
คือไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จะจับมือก็ไม่ดี จับโอบไล่ก็ไม่กล้า
จะสวมกอดก็กลัวมันปล้ำ สุดท้ายเอามือตบหลังมัน 2-3แปะ
เท่านั้นแหละครับ มันกอดผมแน่นบัดซบ ร้องโฮเลยครับ
มันบอกมันคิดถึงแม่ คนเรา....

.....ผมไม่รู้จะปลอบยังไงด้วยความที่ไม่เคยต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้
เลยบอกไปว่า "ไม่ต้องร้องหรอก กรูให้เมิงยืมแม่กรูก็ได้นะๆๆๆ"
เฮ้อ นึกแล้วยังอดขำตัวเองไม่หาย พูดไปได้ยังไงว่ะกรู
.....แต่ก็ได้ผลนะ มันก็หัวเราะออกมาได้ ค่อยยังชั่ว............................

"เมิงไปแ**กเหล้าเป็นเพื่อนกรูหน่อยได้ป่าว"
"เอ่อ...อืม"
"รังเกียจกรูอ่ะดิ พอรู้อย่างงี้"
เอาเข้าไป เราก็เลยต้องตามน้ำไป ออกไปแ**กเหล้ากันมัน
พร้อมทั้งต้องหอบหิ้วสังขารที่ยับเยินของมันไปด้วย จะรอดมั๊ยเนี๊ยะกรู...........
ผมเป็นคนขับรถ เพราะคาดว่าถ้าปล่อยให้มันขับ คงได้ตายคู่....ผมปล่อยให้มันเลือกร้าน(สปอยสุดชีวิตครับวันนั้น)
แล้วก็ตามคาด มันเลือกร้านเพื่อชีวิตสุดกู่เลยครับ
ผมน่ะ มันแนว เด็กรัชดา เด็กสลิม ต้องมานั่งร้านนายหัว ก็ช้ำใจพออยู่แล้ว
ยังต้องมานั่งฟังมันร้องเพลงคาราบาว (จริงๆเพลงเค้าก็ดีหรอก แต่ไอนี่มันร้องเลยแย่ไปเลย)

.........................................................................................

เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่ากรอกเข้าปากมัน ยังกับตูดมันรั่ว
กรอกเท่าไหร่ไม่เต็ม ผมก็ได้แต่นั่งจิบ(เพราะปกติไม่ดื่ม เป็นพวกคออ่อน)
แล้วก็ฟังมันพล่ามเรื่องที่มันอัดอั้นเต็มที่ ก็แปลกดีเหมือนกันนะผมว่า
ชีวิตมันก็บัดซบดีเหมือนกัน ผ่านอะไรมาเยอะมาก
โดนปล้น โดนยกพวกต่อย พัวพันพนันบอล

"เฮ้ย เมิงกรูขออะไรเมิงอย่างดิ" ผมตะเบ็งเสียงแหกปากแข่งกับเพลงเด้นซ์ วู วูวู วู่ วู ๆๆๆ เค้าเป็นใครนะคะ เค้าเป็นใครนะคะ
บ้าบอ คอเกือบแตก
"เมิงไม่ต้องขอกรูเลย เมิงมองตากรูดิ" (ตาแดงเถือก มีขี้ตาอีก เฮ้อ เพื่อนกรู)
"เมิงจะเอาอะไรบอกกรูได้ กรูให้เมิงได้ทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตกรู" เอากับมันดิ
"กรูไม่เอาหรอกชีวิตเมิงน่ะ เก็บไว้คนใจบุญเค้ามาไถ่ชีวิตเหอะ ไอ่โคกระบือเอ้ย"
โดนตบศรีษะไป 1ป๊าด ครั้งนี้ยอม ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตายลูกเดียว
"เมิงเลิกเล่นพนันบอลได้มั๊ย กรูขอ"

สิ้นเสียงตะโกนใส่หูของผม เเหล้าจากปากมันพุ่งพรวดออกมา
"อะไรว่ะ เมิงให้กรูเลิกเล่น แล้วกรูจะเอาที่ไหนแ**ก"
"ให้มันรู้ไปว่าเมิงจะอดตายเพราะเลิกเล่นพนันบอล ถ้าเป็นแบบนั้นนะ กรูเนี๊ยะแหละจะหามเมิงไปส่งมูลนิธิครูน้อย"
"ขอกรูคิดดูก่อน ของอย่างงี้ จะให้เลิกปุ๊บปั๊บได้อย่างไง สาดดด"
พูดไม่พูดปล่าวกอดคอผม แล้วโยกหัวไปมาประสาคนมาววววววว
"งั้นกรูเลิกคบกับเมิงตอนนี้เลย ถ้าเมิงยังไม่รับปากกรู เพื่อนชั่วๆ กรูตัดทิ้งแป๊บเดียว"
"แม่งทามมายเมิงพูด...เอิ๊ก กับกรูพรรค์นี้หา ไอ่ เพื่อนเลว ไอ่ชั่ว
เมิง..เอิ๊กนี้มันเลวจิง เอิ๊ก จิง" พายายามเลียนแบบตอนมานมาวววห้ายยเหมือนเท่ซูดดดดด....
"จะเลิกมั๊ย" ผมยังคงยื่นคำขาด"
"ได้ เพื่อคนที่กรูรัก กรูทำได้" อืมมม ต้องอย่างงีสิ รู้สึกว่าความหล่อของผมจะมีประโยชน์ก็วันนี้แหละ
เอิ๊กๆ เมาเหมือนกัน ซัดไปหลายแก้ว

.........................................................................................

หลังจากที่ผมคาดคั้น บีบคั้นและขืนใจให้มันยืมสัญญาว่าจะเลิกเล่นพนันบอลได้สำเร็จด้วยมายาที่มีอยู่น้อยนิด
(กร๊ากกกกกกกกกกก)ได้สำเร็จ ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ....

"พูดง่ายๆแบบนี้ตั้งแต่แรกกรูก็คงไม่ต้องแหกปากตะโกนแสบคอ"
"พ่อกรูขอ กรูยังไม่ยอม นี่กับเมิงกรูถึงยอม เห็นยังสาดด ว่ากรูรักเมิงแค่หนาย เอิ๊ก เอ๊อะ" เสียงเรอของมัน ทำเอาโต๊ะข้างหันขวับ.......
คราวนี้ผมต้องยอมให้มันแทะโลม ไม่อยากขัดคอมัน
" เออ กรูดีใจที่เมิงยังเชื่อกรูสักคน" ผมเริ่มอารมณ์ดี กรึ่มๆ ยกแก้วเหล้าดวดรวดเดียวพรืดดดด หายไปค่อนแก้ว..........
วู วูวูวู่วูๆๆ ผมชักจะมันกับเพลงปัญญาอ่อนนี่ซะแล้ว
หัวเริ่มโยก โปกๆ ความถี่ในการยกเหล้ากระดกเริ่มถี่ขึ้น
ในขณะที่มันเอาแต่นั่งมอง สักพักนึงผมลุกขึ้นไปเต้นเพลงที่กล่าวมาข้างต้น ในที่สุดความมันส์และความเมาก็ไม่เข้าใครออกใคร............

......ผมออกเสตปได้ไม่กี่ท่า ยังไม่สุดดี มันเดินออกมาลากผมกลับไปนั่ง คงทนเห็นภาพไม่ไหว พาลจะปลงสังขารเอาง่ายๆมั้ง.....

"เมิงรู้ป่าว เมิงนั่งร้องไห้ดังลั่น กรูโคตรอาย"
มันเอามาเล่าให้ฟังทีหลัง
" น้ำตาเมิงไหลเยอะกว่าน้ำตากรูอีก เอี๊ย กรูคิดถึง...(ชื่อแฟนผม) เมิงโทรหามันให้กรูหน่อย กรูอยากคุยกับมัน แมร่งพร่ามอยู่แต่ประโยคนี้ กรูเป็นคนเอาเมิงกลับ แต่เมิงกลับเรีกหา....แฟนเมิง เอี๊ย รู้งี้กูปล่อยให้นอนจมกองอ๊วกอยู่สิ้นเรื่อง แมร่ง เนรคุณ" ดูมันพูด

.................................................

ขามาผมหอบหิ้วสังขารมันไปเฮฮา ขากลับ มันหิ้วสังขารที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าและบุหรี่กลับมาแทน ตลกโคตรรรร
"กรูบอกแล้ว ว่ากรูไม่กินเหล้า เอิ๊กๆ
ผมพูด............
.........................................................................................
เหตุการณ์ต่อไปที่จะเล่าเป็นเรื่องราวที่มันเล่าให้ฟัง ข้อเท็จจริงจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้
..............................................................
ขามาผมขับพามันมา ขากลับมันขับผมนั่งคอพับนั่งเพ้อถึงแฟนเก่า
"เมิงจะร้องไห้ทำซากอาราย เมิงทิ้งเค้าเอง แล้วทีหยั่งงี้จะเรียกเค้าทำม้ายยย หุบปาก" มันเอามือมาอุดปากผม

ที่จริงแล้วผมกับแฟนเก่าเราคบกันมาตั้งแต่ ปี 1 แต่มาเลิกกันเพราะเค้าไปมีคนใหม่
แต่ด้วยความอาย ผมบอกคนที่ออฟฟิสว่าผมทิ้งเค้า
(สันดานเลว เชิญท่านด่าได้ตามอัธยาศัย)
แล้วมันก็เข้าผิดมาโดยตลอดว่าแฟนผมทิ้งผม
ผมยังคงร้องไห้คร่ำครวญ มันบอกว่า "กรูไม่รู้จะปลอบเมิงยังไงแล้ว ปล่อยให้แหกปากไปอย่างงี้แหละ "
ผมยังคงคร่ำครวญไม่หยุด
" ไก่ (นามสมมุติ) พี่ขอโทษ ไก่กลับมาเหอะ ไก่จะไปทำไมบราซิล รอนิญโญ่มันดีตรงไหน ไก่กลับมาหาพี่เถอะ" (อันนี้แต่งเอง เพราะจำไม่ได้ว่าเพ้ออ่า อะไร รู้แต่ว่าร้องให้เค้ากลับมา)
"ไก่ กลับมาเถอะ อย่าไปเลย บราซิล(มุขนานไปหน่อย ขออภัย) เหอะ เหอะ เหอะ เอออออออ"
"เฮ้ย ไอ่สาดดด เมิงอย่ามาอ๊วกในรถกูนะ ไอ่ เอี๊ยเมิง เดี๋ยวกรูจอดทางข้างหน้า อ๊วกให้หมากินดีกว่าอ๊วกทิ้งในรถกรู เสียดายของ จะถึงแล้ว กลืนไปก่อน อืดๆ กลืนๆ ใกล้ถึง..........T_T"
ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงมัน พรวดดดดดดดดด "อ๊วกก เอ่อ อ๊วกกกกกกกกกกกกก"
3พรวด พรวดแรก หน้าตักตัวเอง อีก 2 พรวดฝากไว้ที่ตักมัน

"แมร่ง อ๊วกที่ไหนไม่อ๊วก อ๊วกรดไข่กรู เดี๋ยวกรูให้เลียซะให้เข็ด"
ผมเองยังไม่อยากจะเชื่อ ผมว่าผมคงไม่บร้า อ๊วกไปดมไข่มันไปหรอกมั้ง
นอกจากมันจะจับกดหัว 555
ผมจำอะไรไม่ค่อยได้ตอนนั้น เพราะในสมอง มันเวียนๆ lเหมือนตัวเองกำลังลองลอยอยู่ในปุยเมฆ (เห็นภาพยัง)
แต่หารู้มั๊ยว่าคนที่ลำบกต้องลาก ผมถูลู่ถูกังคือคนที่ผมคิดว่าจะทำให้มันสบายใจ อิๆ
มันหามผมมาโยนทิ้งไว้ในห้องอ้อย....รกจะตาย ย ย ย
ไม่น่าเชื่อว่า มันจะมาจบที่ห้องอ้อย..................................ยังครับ ยังไม่จบ
หลังจากที่มันโยนผมลงบนกองที่นอน(จริงๆเหมือนเล้าหมูมากกว่า) ผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย จนกระทั่ง
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:11 pm

ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการหนักหัว เหมือนใครเอาปุยเมฆเป็นตันๆมาทับ
ตาลืมขึ้น ๆ ๆ แสบตาว่ะ
........ลืมตาเต็มที่สำรวจรอบข้าง อยู่ไหนว่ะเนี๊ยะ ยังนึกไม่ออก
พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ก้มลงสะบัดหัว 2ที ผับๆ เกาลงมอง.
อ๊ากกกกกกกกก เสื้อหายไป เสื้อหายไปไหน ใครถอดเสื้อ ก้มลงมองเป้า ทำไมเป้ากางเกงเปียก ใครทำอะไรกรู ใคร....
เวิ้งๆๆๆๆๆ สติสัมปะชัณญะเริ่มกลับมา เมื่อคืน เมานี่หว่า กินเหล้าไปเยอะ แล้วกลับมากับไอ่....
"ไอ่....!!!!!! เมิง ตายยยยยยยยยยยยยยย"

.........................................................................................
ผมลุกพรวด......... เมิงอยู่ไหน กรูอุตส่าห์ไว้ใจ เมิง...
ผมมองหามันทั่วห้องไม่เห็น เลยวิ่งไปนอกระเบียง
เจอมันไม่ใส่เสื้อ นุ่งบ๊อกเซอร์ ยืนสูบบุหรี่ บุ๋ยๆ สบายอารมณ์นะเมิงผมคิดในใจ
"ป๊าบ " ผมตบไปที่กบาลมัน 1ดอก มันทำท่าตกใจ
"เป็นเอี๊ยอะไรแต่เช้าหา ตบกรูทำป๊ะเมิงเหรอ(จริงๆมันพูดว่า พ่อ แต่เกรงว่าจะไม่สุภาพ)
"ไอ่สาดดด เมืองทำเอี๊ยอะไรกรู"
........มันทำตากรุ้มกริ่ม เอามือมาสะกิดที่ตูดผม
"หลับสบายมั๊ยหล่ะ ที่รัก" ผมจี๊ดไปถึง โสตประสาท กระกทั่งกับฆ้อน กรดิกชนกันดิ๊กๆ
"กรูอุตส่าห์เห็นเมิงเป็นเพื่อน คิดไว้ใจ เมิงนี่มานเลวสาดดด กรูเป็นผู้ชาย เมิงก็เป็นผู้ชาย เมิงมันวิปริตผิดเพศ เลวอย่างงี้กรู มิน่าพ่อเมิงถึงไม่เอา"
"ปั๊ก".........เลือดออกเลยครับ ผมโดนมันชกปากอ่ะ ตกใจดิครับ ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำ
"เมิงพูดอย่างงี้ได้ไง ทำไมเมิงพูดอย่างงี้ เมิงเมาอ๊วกใส่ตัวเมิงเองใส่กรู ใส่รถกรู กรูหามมาบนห้อง ถอดเสื้อให้ เช็ดอ๊วกที่กางเกงให้ โน่น แหกตาดู เสื้อเมิงแขวนอยู่โน่น อ๊กวเมิงกรูไม่เคยรังเกียจ แต่กรูรังเกียจคำที่เมิงพร่ามออกมาเมื่อกี้ ..........กรูจะบอกอะไรให้ ต่อให้เมิงนอนแก้ผ้ากรูก็ทำอะไรเมิงไม่ได้........เพราะกรูทำไมเป็น"
ฟังแรกๆสำนึกครับ มาเกือบหลุดหัวเราะเอาตอนที่มันบอกว่าทำไม่เป็นนี่แหละ ต้องกลั้นไว้แทบตาย
พูดจบมันเดินชนผมโครมใหญ่ก่อนหายไปในห้องน้ำ

.........................................................................................

ผมตัดสินใจนั่งรอมันอยู่ในห้องเพื่อรอเคลียร์กับมัน เพราะใจยังรู้สึกผิด
ไม่ได้รู้สึกผิดที่ตบหัวมันหรอกนะ แต่ผิดที่พูดเรื่องพ่อมันอย่างนั้น...........ระหว่างที่นั่งเอาน้ำแข็งประคบปาก ในใจก็คิดทบทวนอะไรไปเรื่อยเปื่อย
........ที่ผ่านมา ถึงผมจะรำคาญมันบ้าง หงุดหงิดบ้างและก็ขยะแขยงเป็นบางครั้งด้วยก็เถอะ
แต่ผมยอมรับว่าอยู่ใกล้มันแล้วสบายใจ อุ่นใจด้วย(เคยมีปัญหากับมอไซค์รับจ้างหน้าซอยบ้านมัน.....
โทรกริ๊งเดียว ลงมาเคลียร์ให้ มอไซค์จ๋อยไปเลย) มันไม่เคยทำให้ผมเสียความรู้สึกนะ(มันจะเสียใจเพราะผมมากกว่า)
เอาใจใส่ เพื่อนผมคนอื่นที่ผมดีกับมัน มันยังดีไม่เท่ากับที่เพื่อนคนนนี้ดีกับผมเลย.....
คิดแล้วก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่พูดไม่ดีกับมันเมื่อกี้
"เอา...ประคบปากไว้ เดี๋ยวเจ่อ กรุไม่อยากโดนแม่เมิงด่า" มันยื่นผ้าห่อน้ำแข็งมาให้ แล้วก็เดินออกไปนอกระเบียง

"กรู ขอโทษ" ผมตะโกนบอกมัน

.................มันยังคงเงียบ เหมือนโกรธ..เล่นตัว

" กรูขอโทษ เมิงได้ยินป่าว"
"ได้ยิน"
..........
.............
.........
...........
..........
............มันก็ยังเงียบอยู่
"แล้วเมิงจะให้กรูทำไง"
"กรูไม่อยากให้เมิงพูดเรื่องพ่อกรูอีก กรูเจ็บพอแล้ว เข้ามั๊ย"
"เข้าใจ" ผมพนักหน้า งึดๆ
.................มันลงมานั่งข้างๆ ผมหล่ะกลัวใจมันจริงๆ แต่มันคงไม่ทำอะไรหรอก เพราะมันทำไม่เป็น อิๆ...
"เจ็บมากป่าว ไหนกรูดูสิ" มันจับที่หน้าผมดูผลงานที่มันทำ
"เจ็บสิแมร่ง โอ้ย เมิงจะเอานิ้วจิ้มกรุทำหอกอะไร เจ็บโว้ย"
"กรูขอโทษนะ กรูทำเมิงเจ็บ"
"เออ ไม่เป็นไรหรอก หายกัน"
"งั้นกรูกลับบ้านก่อนนะ เจอกันที่ทำงานตอนเย็นโว้ย"
ผมลามันก่อนเดินออกมา มันเดินมาส่งที่หน้าประตู
"อ้าว ไม่ไปส่งกรูหน้าปากซอยแล้วเหรอ ไม่กลัวกรูโดนวินมอไซค์ตืบเหรอ"ผมแซว
"ไม่อ่ะ กูของีบสักเดี๋ยว เมื่อคืนแมร่งสาดที่ไหนไม่รู้ทั้งกรน ทั้งพร่ามจนกรูนอนไม่ได้

.................แหะๆ กรูเอง...............

.........................................................................................

เดินลงมา ผ่านรถที่มันจอดไว้ ชะโงกหน้าไปดู ย้อนรอยที่ทำไว้เมื่อคืน
ปรากฎว่าสะอาดเอี่ยม แสดงว่ามันกินไป เอ้ย..เช็ดไปแล้ว
เมื่อคืนคงเช็ดอ๊วกกรูทั้งคืน สะใจ 555 กรูบอกแล้วว่า กรูไม่กินเหล้า ยังจะพากรูไปกิน ดี สม...
..........สักแป๊บครับ ยังไม่ทันถึงบ้านดี มันโทรเข้ามือถือ ตอนแรกว่าจะไม่รับ เพราะเอียนมันเต็มทีอยู่กับมันทั้งคืน
" เออ เฮ้ย กรูจะโทรมาย้ำกับเมิง เมิงอย่าบอกแม่เมิงนะว่า โดนกรูชกปาก"
"เออ แต่เมิงต้องเล่าให้กรูฟังให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน" แล้วมันก็เริ่มเล่าตั้งแต่ที่คุณๆท่านๆชาวพันทิพย์ได้อ่านมาข้างตนนั่นแหละ

"เมิงถอดเสื้อกรู แล้วเมิงทำอะไรอีก"
" กรูก็เช็ดตัวให้เมิง เช็ดหน้าให้เมิง แล้วก็เอาเสื้อเมิงไปเหยีบน้ำตากให้"
"แค่นั้นจริงๆเหรอวะ"
"เอ่อ อืม ..."น้ำเสียงมีเลศนัย "กรุแค่นอนกอดเมิง....เอ่อ .....ก็เมิงนั่นแหละ เอาหมอนข้างกรูไปขี่ กรูนอนไม่หลับถ้าไม่ได้กอดหมอนข้าง กรูก็เลย.......กอดเมิง"ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ " ไอ่ เอ้ย"

มันวางโทรศัพท์ทันที ผมว่าแล้ว คนอย่างมันไม่ดีจริงหรอก แต่จะว่าไปก็อุ่นดีเหมือนกันนะ อ้าว อิๆ............

.........................................................................................

ตอนเย็นวันนั้นผมขับรถไปทำงานเข้ากะดึกตามปกติ สักพักก็มีเพื่อนที่ทำงงานสายการบินแถบตะวันออกกลางสายหนึ่งโทรมาบอกว่า เค้ากำลังจะรับสจ๊วต.......
.............ฟังแล้วก็อืมมม น่าสนนะ แต่ว่าต้องไปอยู่ประเทศเค้า ยังไงดี คุยกันไปคุยกันมาพอพูดเรื่องเงินตาโตเลย เอาก็เอาลองดู
............ผมเก็บเรื่องสมัครงานใหม่ไว้ไม่บอกใครแม้แต่มัน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก มันอีกแล้ว แมร่งงงง....
...." ถึงบริษัทยัง รอกรูด้วยนะ"
"ทำไมต้องรอว่ะ กรูไม่เข้าใจ"
"เอาเหอะ เมียรอผัว มันจะอะไรนักหนา"
"เมียกับผีเมิงอะสิ ใครเป็นเมียเมิง"
"แหมไม่ต้องอายหรอก ดูสิหน้าแดงเป็นตูดลิงแสมแล้ว คริๆ" มันรู้ได้ไงว่าผมหน้าแดงว่ะ
"แค่ได้นอนกอดกรู เมิงเรียกกรูเมียเมิงแล้วเหรอ ว้าฮ่าๆๆ ถ้ากรูยอมเป็นเมียเมิงจริงๆ เมิงจะทำเป็นเร้อ" ผมท้าทาย
"เอ้ย ที่กรูไม่ทำเมิงไม่ใช่ทำไม่เป็นหรอก แต่กรูไม่อยากทำเท่านั้น กรูอยากให้เมิงยอมสยบกรูด้วยใจโว้ยยย.....ลองเมิงได้กับกรุนะ ขี้คร้านแมร่งจะสะกิดกรูทั้งคืน ทีนี้แหละถึงตากรูเล่นตัวมั่งเมิงอย่ามาว่ากรูแล้วกาน"
"อุบาทว์โคตรนะเมิง พอเหอะ กรูขีเกียจอ๊วกใส่รถกรู เก็บไว้อ๊วกใส่รถเมิงดีกว่า" ตาผมเหลือบไปเห็นร้านขายน้ำเต้าหู นึกได้ว่า มันคงไม่ได้ซื้อมาหรอกเพราะว่าตื่นเอาเย็นร้านหน้าซอยมันคงวายไปแล้ว
"น้ำเต้าหู ถุงนึงครับ" ในใจคิดจะกินเอง แต่ก็นะ
" เอ่อ ป้า เอาอีกถุงครับไม่หวาน" มันกินไม่หวาน เศษเงิน 5-10บาทซื้อไปให้มันเห้อะ คิดในใจ....
..............................................................

ผมมายืนรอมันหน้าบริษัท ตอนนั้นไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเชื่อมันด้วยก็ไม่รู้ มันบอกให้รอ ก็รอ...เชื่อง!!!!
สักพักรถฮอนด้าร้ายๆ(ผมเรียกว่าอิฮ้อนด้าร้าย) ก็มาเทียบ
"ทำไมไม่เหยียบตีนกรูไปเลยวะ อีกนิดเดียว" ผมพูดประชดเพราะเห็นว่าเกือบชนผม มันเปิดประตูใหม่สตาร์ทรถ ทันที
"เมิงทำอะไร สาดดด"
"อ้าว เอี๊ยก็เมิงให้กรูเหยียบตีนให้อ่ะ อะไรของเมิง เอาแต่ใจจริงๆ" ผมส่ายหน้าทันที ไม่รู้ว่า ซื่อ หรือบื่อกันแน่
" เอากรูซื้อน้ำเต้าหู้มาฝาก"
ผมยื่นน้ำเต้าหู้ให้มัน มันทำท่ายังกะเห็น ซีดานมายืนอยู่ตรงหน้า(มันบ้าซีดาน)
" เมิงซื้อน้ำเต้าหู้ให้กณุเหรอ" มันทำท่าบีบน้ำตาด้วยความตื้นตัน
"เวอร์ๆ ไปแล้วหล่ะ เดี๋ยวกรูก็เทให้หมาแมร่งแ**กเลย มันรีบคว้าไปทันที
"เมิง กรูไม่กินนะ กรูจะเก็บไว้จนมันเป็นเต้าหู้แล้วเอาไปตั้งบนหิงบูชา"
........................ส้นทีน.........................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:12 pm

" วิ๊ดวิ๊วๆ คู่รักยม ขย่มโลก" เสียงพี่เต้ย หัวหน้า แมร่งแซวมาแต่ไกล
ผมรีบฉีกรัศมีออกมาจากที่เดินข้างมัน ฉิ่งไปเดินคนละข้างทางด้วยความอาย ในใจก็ก่นด่า
ขย่มบ้านเมิงสิ ไอ่พี่เต้ย ()ไม่กล้าด่าออกเสียงกลัวโดนไล่ออก
"อย่ามาแซวเมียผมนะพี่ เดี๋ยวโดน พี่ก็พี่เหอะ ผมไม่ไว้หน้านา"
มันรีบเสียบทันทีที่เห็นจังหวะ สมแล้วที่เป็นแฟนบอลฝรั่งเศส
เสียงโห่รับจากพวกบ่างทั้งหลาย แฮ้วขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
อีเย็นอย่างผมรึจะทนไหว รีบฉิ่งไปห้องอาหารด้วยความละเหี่ยวใจ............
"แมร่งขึ้นมาแ**กไม่รอกรู ชาติหน้าเกิดเป็นหมูร้อยชาติ"
"ตามกรูมาทำไมอีก กรูอายคน เมิงไปนั่งโต๊ะอื่นไป ชิ่ว"
ผมโบกมือไล่หยอย
"ไอ่สาดดด เมิงกล้าไล่ผัวเมิงเหรอ"
"ไอ่เอี๊ย คำก็ผัว 2คำก็ผัว กรูอายคนเค้าเมิงรู้มั๊ย ไอ่ชิบหา...ย"
มันเงียบ.................
..............
...........
...................
.....................
..................
..............
"นี่...(มันเรียกชื่อผมครังแรกในรอบปีมั้ง) เราว่าเรามาพูดกันเพราะดีกว่ามั๊ย ผัวเมียเค้าไม่พูดคำหยาบต่อกัน มันเป็นลางไม่ดี"
ผมไม่พูดอะไร ตักข้าวใส่ปากต่อ เพื่อนที่มาทีหลังเดินถือจานข้าว หัวเราะกระซิกๆไม่มีใครมานั่งร่วใต๊กับเรา 2คนเลย
"ว่าไงครับ ผมว่าเรามาพูดดีๆเพราะๆกันดักว่ามั๊ย"มันว่า
"เรื่องของเมิง"......
"นี่ผมรู้ว่าคุณ..(ชื่อผม)..ชอบกินไข่ อ่ะผมให้"
.................
"ทานน้ำอะไร เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำ........อ่ะไม่ตอบงั้นเอาน้ำโอเลี้ยง เดี๋ยวมานะจ๊ะ" มันพูดนะจ๊ะอีกแล้วหลังจากที่หายไปนานเป็นชาติ
ผมนั่งทานอยู่แป๊บนึง โทรศัพท์จากเพื่อนก็โทรมา....
ผมลุกเอาจานไปเก็บแล้วก็ออกไปเลย เพื่อนบอกวันที่สายการบินตะวันออกกลางตจะสมัคร
ประมาณกลางกรกฏาคคมพอดี ให้ผมเตรียมตัวไว้ ผมก็อืมๆลองดู.........
...........................................................................

".....(มันเรียกชื่อผมทางวิทยุ)" เพราผมออกมาทำไฟล์แล้ว
"ว่า ว่า" ผมตอบวิทยูไป
" ไอ่สาดดด ทำไมไม่รอกรู ไอ่เวร เดี๋ยวเจอกรูเมิงตายแน่สาดดดด"
แมร่งผมหน้าชาเลย มันวิทยุมาคนได้ยินกันทั้งบริษัทแน่ๆ
ส่วนใหญ่เค้าใช้เรื่องงานเท่านั้น สักเดี๋ยวใจพี่เต้ยวิทยุแซว
"เฮ้ย เรื่องผัวเมียเอาไว้ก่อน เอางานก่อน ไอ่...เมิงอย่าเล่นมันถึงตายนะเว้ย เอาพอหลาบจำ" แล้วก็หัวเราะ.....
สักพักเพื่อนร่วมงานคนอื่นเอาอีก กดวิทยุพูดอีก
"ถ้าพรุ่งนี้ไอ่...มันลาให้ไปหาที่ห้องไอ่..ได้เลย ผมว่าตายคาห้อง 555"สนุกกันจัง..........

.........................................................................................
ผมบึ่งรถจากสนามบินเข้าออฟฟิส เจอมันนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าออฟฟิส
"ไหนเมิงบอกจะพูดกับกรูเพราะๆไง ดีแตกเหรอ" ผมรับใส่กอ่นที่มันเล่นผม
" คนอย่างเมิงพูดดีได้ไม่นาน" แล้วมันก็ลุกขึ้นลากมือผมไป ในรถตู้
"เมิงฟังกรูนะ กรูรู้ว่าเมิงรู้ ว่า กรูคิดยังไงกับเมิง"
"อะไรเมิงเนี๊ยะ ไม่ต้องมานั่งใกล้กรูก็ได้" ยิ่งว่ามันเหมือนยิ่งยุ
"อ่ะ เมิงมานั่งตักกรูดีกว่ามั๊ย" ผมถ้าอีกครั้ง
"ไม่ต้องเฉไฉ กรูถามเมิงคำเดียวว่าเมิงรู้สึกยังไงกับกรู"
สีหน้ามันเอาจริงครับงานนี้ ผมนั่งแคะเล็บก้มหน้า
ในรถตู้เงียบได้ยินแต่เสียงแอร์
"เมิงเป็นเพื่อนกรูคนนึง" ผมว่า
"แค่เพื่อนเหรอ......เท่านั้นเองเหรอ"....
......มาถึงตอนนี้นะครับ ผมยอมรับว่าผมกลัวทำร้ายจิตใจมัน
ความรู้สึกผมจริงๆคือมันเป็นเพื่อน เพื่อนที่พิเศษ แต่ไม่ใช่คนพิเศษ
มันมีค่ามากกว่าเพื่อนธรรมดา จะให้ผมกอดมันก็ได้ จูบมันก้ได้ แต่ผมไม่รู้สึกอะไรมากกว่าเพื่อนที่พิเศษ
แต่ว่า...........ไอ่เพื่อนพิเศษมันพิเศษแค่ไหนนั่นคือสิ่งที่ผมไม่รู้

"ช่ายเมิงคือเพื่อนกรู แค่เพื่อน".....มันนิ่งไปเลยอ่ะ เงียบไปเลย ผมเองก้กระอักกระอ่วนใจเหมือนกัน
"ไม่เป็นไร ตอนนี้เมิงคิดว่ากรูเป็นแค่เพื่อน แต่กรูเชื่อสักวันกรูจะเป็นมากกว่านี้เว้ย เมิงคอยดู" แล้วมันก็กรธโดดผลุงออกจากรถตู้ไป ปล่อยให้ผมนั่งงง
อะไรของมันเนี๊ยะ นึกว่าจะสำนึก เวร!!!!
.....................................................................

ช่วงหลังจากนั้น ผมทุ่มเทกับเรื่องสมัครงานใหม่มาก อ่านภาษาอังกฤ และก็ฝึกสัมภาษณ์ทุกคืน
แล้วพอดีช่วงนั้นเสก็ตเราไม่ตรงกันมันเข้าดึก ผมขอพี่เต้ยเข้าเช้าเพราะกลางคืนผมจะอ่านหนังสือ
"แมร่ง พี่เต้ย ย้ายเสก็ตผมไปเช้าด้วยเส่ นะพี่" มันตื้อพี่เต้ย
"ไม่ได้ เมิงไปอยู่เช้าหมด ปล่อยเด็กใหม่ให้อยู่บ่ายเละหมด"
"โห่ พี่นะๆๆๆๆ " มันเข้าไปบีบไหล่พี่เต้ย ผมนั่งมอง ส่ายหัวด้วยความระอา
"ไม่ได้เว้ย กรูละเซ็งผัวเมียคู่นี้จริงๆ"

...........................................................................

วันสมัครงานวันแรก ผมลางาน วันโทรมาแต่เช้า
"เมิงลางานไปไหน" ผมบอกว่าพอดีจะไปต่อใบขับขี่
มันก็อือๆๆ เล่าเรื่องที่มันเจอตอนผมไม่อยู่ เจอคนนั้นคนนี้ แอบขโมยกินโน่นกินนี่ผมก็ฟังๆ
วันนั้นผมสมัครงานเสร็จประมาณเกือบ 6 โมงแล้วหล่ะ ขับรถออกจากโรงแรมเห็นร้านขายเต้าหู้ ใจนึกถึงมันพิกล....

.........................................................................................
ผมไม่เจอหน้ามันเลยเป็นอาทิตย์ เพราะกลางคืนผมอ่านหนังสือ
ปิดโทรศัพท์ กลางวันทำงาน ห้ามพกโทรศัพท์ นอกจากวิทยุ....
ชีวิตมันหลวมๆยังไงไม่รุ
...........................................................

เพื่อนโทรมาบอกว่าผมผ่าน นัดสัมภาษณ์อีกอาทิตย์นึง อืมมมใกล้เข้ามาแล้ว...
ผมคิดในใจ...แต่ตอนนั้นมันก็ว้าวุ่นนะ มันเหมือนมีผีเสื้อมาบินว่อนอยู่ในท้องบอกไม่ถูก
แต่ที่รู้คือ ไม่อยากจากไอ่...ไป กลัวไม่มีใครกวนประสาท

.......................................................................
10 โมงเช้าวันเสาร์....
"เป็ดๆ(สมมุติว่าผมชื่อเป็ดไปเลยแล้วกันนะ จริงไม่ใช่นา) ลูก...โทรมา" ผมลุกไปรับโทรศัพท์
"เออ ว่าไง"
"กรูคิดถึงเมิงว่ะ ไม่รู้เป็นบร้าอะไร"
"กรูบอกให้มั๊ย ก็เมิงเป็นบร้าไง ไอ่บร้า มีอะไร"
"วันนี้ไปจตุจักรกันนะ"
"ไม่เอากรูมีธุระ"
"อีกแล้ว ตามใจ กรูก็แค่ลองชวนดู แค่นี้แหละ"
จ๋อยไปเลย สมน้ำหน้า
ผมอาบน้ำกะว่าจะอ่านหนังสือต่อที่บ้าน
อาบไปอาบมาทำไมมันนึกถึงหน้าไอ้แมงวันก็ไม่รู้(รู้แล้วว่าหน้ามันเหมือน อ๊อฟ ปองศักดิ์) ต่อไปเราก็คงเจอกันน้อยลงหรือไม่ก็...............................จะไม่ได้เจอกันอีกเลย
" เออ เมิงจะไปจตุจักรอีกรึป่าว"
"ไม่แล้วว่ะ กรูไม่มีเพื่อนไป" อืม น่าสงสาร ณ บัดดล
"กรูไป ไปป่าว"
"อะไรเมิงหาไอ่เฮี้ย...กรูเดาใจเมิงไม่ถูกแล้วสาดดด"
"จะไปไม่ไป" ผมยื่นคำขาด
"ไป" มันกระแทกเสียงเหมือนโดนบังคับ
สรุปวันนั้นทั้งวันผมกับมันได้ไปเดินหัวดำอยู เจเจ
.........................................................................................
วันพุธผมหยุด เลยได้ทีแว๊บไปสัมภาษณ์งานมา
ก็เรื่อยๆไม่มีอะไร เพราะไม่คิดว่าจะได้อยู่แล้ว
เสร็จจากภารกิจก็เกือบค่ำ แล้วก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย
จนกระทั่งเมื่ออาทิย์ที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์ว่า

.............ผ่านสัมภาษณ์ครับ นัดตรวจร่างกายรอคอนเฟิร์มอีกที ......
ผมดีใจลิงโลด กระโดดโลดเต้น วิ่งไปกอดแม่บอกว่า ได้เป็นสจ๊วต....แล้วหล่ะแม่
แม่ก็ดีใจด้วย เพราะรู้ว่านี่คือความฝันของผม
"แล้วโทรไปบอกลูก.....หรือยัง" ผมสะดุดทันทีเลยอ่ะ
เพราะว่าดีใจจนลืมนึกถึงมันไปเลย
"ยังแม่ เดี๋ยวโทรบอกมันทีหลังก็ได้"
ผมเดินขึ้นห้องไปด้วยความหงอยเหงาในใจแปลกๆ
เมื่อกี้ยังดีใจอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้มันเคว้งๆยังไงไม่รู้
ผมยอมรับว่าผมนึกถึงมัน เดินวนไปวนมาในห้อง........
อยู่ดีๆ ผมหยิบโทรศัพท์ โทรไปหามันเฉยเลยเหมือนคนโดนยาสั่ง
พอได้ยินเพลงเรียกเข้าผมกดวางทันที(อีกแล้ว...เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ควรทำ)
ไม่นานเกินรอ มันโทรกลับมา แต่ผมดิไม่กล้ารับ รอจนมันต้องโทร 2ครั้งน่ะ
"เออ มีอารายยย"เสียงมันง่วงนอน
"ปล่าว มือกรูไปโดน..โทดที"
"เฮี้ย......" ตู๊ดๆๆๆๆๆ แหะๆมันวางหูใส่ผม
ผมยังคงกระวนกระวายใจไม่หาย เดินไปเดินมา สุดท้ายก็โทรไปหามันอีกที
"อารายเมิงอีก อยากเป็นเมียกรูเหรอ เดี๋ยวแมร่งจัดให้ชุดใหญ่เลย สาดดดด กูจาน้อนนนนนนนน" มันลากเสียงสูง
"เออ เมิง .....เมิงมานอนบ้านกรูมั๊ย....." กรึ๋ยๆๆๆพูดไปแล้วทำไงดีหว่า.....
"จริงเหรอ มันทำเสียงตื่นเต้น เออ กรูไป กรูออกไปตอนนี้เลยนะ"
"เออ ตามใจเมิง แม่กรูให้ชวนนะ อย่าคิดว่ากรูอยากให้เมิงมานอนด้วย" โบ้ยไปให้แม่เลยงานนี้อิๆ.............
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:26 pm

พอดีผมเล่าไปเกินกว่านี้นิดหน่อยแล้วหล่ะครับ
แต่มันหายไปแล้ว บางท่านอาจได้อ่าน แต่บางท่านยังไม่ได้อ่าน
แต่มันไม่ได้มีสาระอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องกังวลไปครับ.......
...............................................................

หลังจากที่ผมโทรไปตามมันมานอนเป็นเพื่อนที่ห้อง
มันก็มาอย่างรวดเร็วในชุดนอนเตรียมพร้อม
มืออีกข้างหนีบหมอนเน่าที่มันคอยเอาวิสัญญีตัวเอง
เพื่อจะให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น (แต่กรูไม่ได้อยากโดนดมยากับเมิงด้วยนิ)
หลังจากที่มันทักแม่ผมซึ่งนั่งดูอุ้มรักเรียบร้อย พร้อมกับทำฉอเลาะ
(ซึ่งผมเล่าในตอนที่หายไป) ผมก็ลากมันขึ้นมาบนห้องผมเป็นอันสำเร็จ
"โห นี่ห้องเมิงเหรอ ไมน่านอนจังวะ" ตุ๊บ กรูยังไม่เชิญเมิงนั่งเลย เมิงเล่นกระโดดลงบนเตียงกรูเลย
"นี่รูปเมิงตอนเด็กๆเหรอ"
"อย่าเล่นได้มั๊ย เดี๋ยวกรูก็ไล่แมร่งไปนอนโซฟาอีกหรอกสาดดด" ปกติถ้ามันนอนที่บ้านผม มันจะนอนเฝ้าหมาที่โซฟา
"แมร่ง งกว่ะ ใจน่ะ อย่าแคบ เข้าใจมั๊ย ใจน่ะ" มันเอามือจิ้มที่หน้าอกผม
"ว่าแต่ตอนเด็กๆเมิงหน้าเหมือนลิงถือลูกท้อนะ"
"เออ ขอบจายยย...กรูไปอาบน้ำก่อนนะ"
ผมจัดแจงหยิบผ้าเช็ดตัว เสื้อ กางเกง ไปเปลี่ยน ในห้องน้ำ
"ถอดตรงนี้ดิ ไม่ต้องอายกรูหรอก ผู้ชายด้วยกัน กรูไม่ถือหรอก" มันยิ้มแสยะ
"แต่กรูถือ ไอ่สาด อย่าหื่นนักสิว่ะเมิง ถ้าหื่นนะ ว่าวออกซะมั่ง"
"เมิงช่วยกรูสิ กรูเบื่อ" "ไอ่เเยดเป็ด

.........................................................................................
ะหว่างที่ผมอาบน้ำอยู่ เสียงมันก็ตะโกนถามเป็นระยะๆ
"นี่รูปใครว่ะ"
"นี่ถ่ายที่ไหนเหรอ"
"ครอบครัวเมิงอบอุ่นดีนะ กรูอิจฉาว่ะ ให้กรูเป็นลูกแม่เมิงคนดิ.....เป็นลูกเขยนะ"
...................
.................
.............
...........
........
.......
......
....
...
..
.
"ทำอะไรอยู่ทำไมเงียบ ว่าวอยู่เหรอ........" ปังๆๆ เสียงมันเคาะประตู
"เปิดประตูดิให้กรูช่วย"
.......................
.......................
โครม ซู่!!!!!!!!!!!!!!!!! ผมเปิดประตู เอาขันตักน้ำรดหัวมัน
"ว้าฮ่าๆๆๆๆ" หัวเราะอย่างบ้าคลั่งทะเลเดือด
"เมิง กรูเปียก" เสียงมันกัดฟันกรอดๆ ผลั่วะ มันดันประตูเข้ามา แล้วก็ปิดปัง......เอาตายอ่า กรูหาเรื่องแล้วมั๊ยหล่ะ

.........................................................................................
ผมติดอยู่ในห้องน้ำกับมัน 2 คน ใจแมร่งโคตะระสั่นเลยตอนนั้น สั่นกลัวนะ ไม่ได้สั่นสู้
"เออ กรูขอโทษ เมิงออกไปก่อนนะ กรูจะเสร็จแล้ว นะ นะ"
"ม่าย เมิงเสร็จกรูแน่" แล้วมันก็รุกเข้ามา รุกเข้ามา เยี่ยงมัจจุราชที่ตามคร่าพรากวิญญาณ(เวอร์ไปเหรอ โอเคๆ เพลาๆหน่อยก็ได้)
"เฮ้ยยย ไอ่...เมิงจะทำอะไรอ่ะ เอ้ยยยย หายใจลึกๆ นึกถึงบาปบุญคุณโทษไว้นะ เอ้อ ไม่ใช่นึกถึงจรรยาบรรณ เอ้ยย!!!"
ตอนนั้นผมหน้าซีดเผือด
ผมหลังชนฝาแล้วตอนนั้น มันเอามือเอื้อมมาข้างหลังผม
ผมนะ หายใจขัดๆ เหมือนจะเป็นลม เสร็จแน่แล้วกรู ตูดกรูไปแน่คืนนี้ โธ่!!! ตอนแรกตั้งใจจะเรียกแม่ ปากกำลังจะร้อง
ซู่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! แมร่ง เล่นกรูตกใจหมด
มันเอื้อมไปหยิบขันข้างหลังตักน้ำมารดหัวผมแทน
เล่นเอาเข่าแทบทรุด
"ไหนๆกรูก็เปียกแล้ว กรูขออาบน้ำด้วยคนนะ"

.........................................................................................
ผมกองลงไปอยู่กับพื้นห้องน้ำ
"เมิงทำกรูตกใจหมด"
"อาราย เมิงนึกว่ากรูจะทำอะไร กรูแค่จะเอาคืน กรูบอกแล้ว กรูจะทำเมิงก็เพราะเมิงเต็มใจเท่านั้น"
อือออออ กรูรักเมิงว่ะ คิดในใจนะ ไม่กล้าพูด
(ผิดหวังกันอ่ะสิท่า คนที่กะลังอ่าน คริๆ ผมไม่ใจง่ายหรอกขอโตด)
"กรูสระผมให้" มันบอกพลางกดหัวผม ผมนั่งลงบนขอบชักโครก
"ผมเมิงสวยดีเนอะ ใช้ยี่ห้อนี้นี่เอง วันหลังกรูใช้มั่ง"ผมว่ามันก็คงตื่นเต้นเหมือนกันแหละ เสียงมันสั่นเครือ
" โห เมิง สุดยอด เลย นวดเก่งนี่หว่า"
"เออ ดิ ตอนเด็กๆ กรูนวดให้แม่ กรูบ่อย" ผมเงียบ(เพราะเคลิ้ม)
"เมิงรักแม่เมิงมากมั๊ย" ผมถาม มันยังคงขยำหัวผมอย่างนุ่มนวล
"เจ็บมั๊ย"มันถาม ขณะกะลังเล่นกับหัวผม ผมสั่นหัวงึกๆ
"รักสิ ที่กรูรู้จักความรักได้ เพราะคน 2 คน.....แม่กรู ....กับเมิง" อีกแหละ เฮ้อออ
"ตอนที่กรูไม่มีแม่กรูเหมือนตกนรก เลยเมิงรู้ป่าว กรูหมดอาลัยตายอยาก คิดไม่ออกว่ากรูจะอยู่ไปทำไม" มันยังคงพูดต่อ
"แล้วตอนนี้หล่ะ" ผมถาม เพราะอยากรู้แค่ว่ามันยังคิดแบบเดิมอีกรึปล่าว
"ตอนนี้เหรอ ไม่ว่ะ ตอนนี้กรูมีเมิง" โห กรูไปทำอะไรให้เมิงผูกพันได้ขนาดนี้ว่ะ
"ถ้ากรูไม่มีเมิงอีกคน เท่ากับชีวิตกรูเป็นศูนย์ เพราะลำพังชีวิตกรูก็ไม่มีค่าอยู่" น้ำลายผมแห้งทันที กลืนไม่ลงมันฝืดคอ
เมิงจะรู้มั๊ยว่ากรูกำลังจะไปจากชีวิตเมิง เมิงจะว่ายังว่ะ
"
.........................................................................................

เราคุยภาษามนุษย์ที่สุดก็ช่วงนี้แหละครับ ผมว่ามันยังมีเรื่องในใจอีกมากที่ผมยังไม่รู้

แต่จะทำไงได้ เมื่อถึงตอนที่ผมอยากรู้เรื่องชีวิตมันก็ทำได้แค่รับรู้แล้วหล่ะ
" อ้าว ก้มลง สิ กรูจะล้างหัวให้"
ผมทำตามอย่างว่าง่าย
"อ้อย(สมมุติว่าชื่ออ้อยแล้วกันนะ)....ถ้าวันนึงกรูไม่อยู่ เมิงจะทำไงว่ะ"
"ไม่รู้สิ ตอนแม่กรูตาย แม่กรุก็ไม่บอกรูก่อนเหมือนแหละ...อีกอย่างกรูไม่อยากคิดหรอก ทำไม....เมิงจะไปไหน"
"ปล่าว กรูแค่ถาม ถ้าเมิงกวนส้นกรูมากๆ วันนึงกรูอ่านหนีเมิงไปก็ได้"
"โอเค กรูสัญญา กรุจะไม่กวนตีนเมิงอีกแล้ว พอใจยัง" ผมพนักหน้า
"พอใจยังคร๊าบบบ" มันเอื้อมมือมาขยำนมผม
"ไอ่บร้า กรูจั๊กเดียม พอแล้ว ล้างหัวให้กรู กรูเสร็จแล้ว"
"คร๊าบ พ่อทูนหัว" เออ เพิ่งรู้ว่า
.........................................................................................
มันหายไปห้องน้ำนาน คาดว่าอี้แตกระหว่างที่ลื่น คริๆ
"เมิง ว่าวไม่ยอมราดน้ำ กรูลื่นเลยเห็นปล่าว"
"สาดดด กรูเห็นหน้าเมิง เสปิม กรูตกใจไหลไปอยู่สมองหมดแล้ว ไม่ต้องกลัวหรอก"
.............................................
ผมแต่งตัวของผมเองเรียบร้อย หูก็ฟังเพลงที่มันร้องเองแต่งเองของมัน
แต่จำเนื้อไม่ได้ รู้แต่ว่าขำอ่ะ ขำทั้งน้ำตา มันร้องประมาณเพลงฉ่อยอ่ะ
ร้องจีบใครสักคน(ซึ่งก็คือผมนั่นแหละ) ผมฟังไปหัวเราะไป
น้ำตาก็ปริ่มๆ "เมิงอย่าทำให้กรูรู้สึกแบบนี้ได้ม้ายยยยยย" ผมตะโกน
"รู้สึกอะไร" อ้าวเวนมันได้ยินด้วย
"ปล่าว กรูพูดเล่น" "บร้ารึปล่าว พูดคนเดียวก็เป็น"
เออ กรูบร้า แล้วไอ่ตัวที่ร้องเพลงฉ่อย เพลงอีแซวอยุ่ในห้องน้ำนี่คือคนดีงั้นเหรอ
มันอาบน้ำเสร็จออกมาร้อง เฮ้ยย กรูไม่ได้เอาชุดมา
"เดือดร้อนกรูอีกนะเมิง"
"ก็ใครหล่ะ ทำกรูเปียก" มันตัดพ้อ
ผมเดินไปหยิบชุดนอนให้มัน
"โห นี่เมิงใส่ชุดอย่างงี้เหรอ " ชุดนอนมันแปลกตรงไหนว่ะ คิดในใจ
"จะใส่ไม่ใส่ "
"เออ ใส่ " ............................."แมร่ง เป็นไงกรูเหมือนไอ่บร้าเชนป่าว" ผมงง ใครคือไอ่เชน
" เออ เหมือนๆ"ผมตอบขณะนี่กะลังนอนรอมันอยู่บนเตียง(จ๊าก ไม่ได้นอนรอนะ ) มันกระโดดโครมลงบนเตียง........................
"เตียงเมิงนุ่มจัง"
"เออ เป็นไง ดีกว่านอน หลุมหลบภัยห้องเมิงใช่ป่าว"
"ก็ห้องเค้ารกนิ ไม่มีใครจัด แฟนก็ไม่มี ไม่มีใครรัก" มันพูดเชิงน้อยใจ
"ไปเรื่อยนะเมิง กรูจะนอนแล้ว ปิดไฟ"
" โอเค " ไฟดับสนิท สมองผมก็ตื้อสนิทเหมือนกัน
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:40 pm

ท่ามกลางความมืดและเงียบสงัด ผมได้ยินเสียงหัวใจผมเต้นอย่างชัดเจน เพราะความตื่นเต้น บวก ตื่นตระหนก
ที่ต้องมานอนร่วมเรียงเคียงหมอนกับชายที่ตัวเงอไม่เคยไว้ใจ
กระซิกๆ แต่มีอีกเสียงนึงที่ยังคงก่อกวนเสียงเต้นของหัวใจผม
"เอ้ย" ผมเอาแขนกระทุ้งมันเบาๆ "หายใจเบาๆสิวะ หายใจอย่างกะวัว"
"เออ ให้กรูหยุดให้ใจไปเลยดีมั๊ย" แน๊ ช่วงนี้รู้จักประชดประชัน "เออ เอาดิ"
แล้วก็เงียบไปอีกสักพัก
"เป็ด... กรูขอกอดเมิงได้มั๊ย " จึ๋ย ผมฟังแล้วจั๊กเดียม
"เมิงไม่ตอบกรูถือว่าเมิงอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วน๊า" พูดเสร็จ แมร่งมาเลยครับ
ท่อนแขน วางพาดแหมะ บนหน้าอกผม ผมนอนแข็งไปทั้งตัว
"ท่าไมหายใจแรง" มันยังมีหน้ามาถาม
"แมร่ง เมิงก็ลองนอนให้ผู้ชายกอดมั่งสิวะ แล้วจะรู้"
สักพักมาแล้วครับท่อนขาพาดขวางอย่างไม่เกรงใจ
"เอาขาเมิงลงไปอีก จะโดนไข่กรูอยู่แล้ว แมร่งชักเอาใหญ่" มันค่อยลากขาลงไป
ผมนอนนิ่งไปสักพัก หาจังหวะ คุยเรื่องนั้นกับมัน แมร่งร้อนก็ร้อน เกร็งก็เกร็ง กลืนน้ำลายไม่ลงคอ
"ตัวเมิงนุ่มจัง หอมด้วย" เฮ้ออออออออ ผมทำอะไรอยู่เนี๊ยะ

.........................................................................................
มันกอดผมแน่น ยังกะลูกลิงกอดแม่ ผมน๊าก็ยอมมันช่วงนั้น
มันบอกว่า"กรูไม่เคยกอดใครมานานแล้วตั้งแต่แม่กรูเสีย"
"เออ เมิงเห็นกรูเป็นแม่เมิงเหรอ สาดดดดด"
"ปล่าว แต่กรูอยากให้เมิงเป็นแม่คุณทูนหัวของกรู กรูจะรักเมิงไปจนกว่ากรูจะตาย"
"โห แมร่ง จะรักกรูถึงพรุ่งนี้เองเหรอ" ผมแซว เพราะกะว่าถ้ามันทำไร พรุ่งนี้ตายแน่
" เอ้ย สาดด กรูไม่ตายเร็วขนาดนั้น แช่งกรูเหรอ"
แล้วเด็กผีโกยเถอะโยมก็เข้าสิงมัน มันจีเอวผมจนเตียงขย่ม(ถ้าใครอยู่ข้างล่างคงคิดว่าเราล่อกันแหง๋ม)
.."พอเมิงกรุหายใจไม่ทัน" ผมหัวเราะ หายใจไม่ออกเลย เหนื่อยด้วย มันก็ยังกอดผมแน่นเหมือนเดิม
"ขอกรูกอดเมิงอย่างงี้ทั้งคืนนะ"
"เออ แต่เมิงช่วยเอาหมอนเน่าออกไปไกลๆหน้ากรูหน่อยเถอะ เดี๋ยวหน้ากรูเป็นสิว" มันหยิบหมอนเน่ามันออกมา ยัดจมูกผม
" เอ้ยยยยยยยย" ผมกลั้นหายใจ กะว่าสงสัยได้ตายเพราะหมอนนรกนร่แน่เลย สักพักมันก็เขว้งหมอนออก
ผมเขกกะโหลกมัน 2 โป๊ก กอดจะโดนกอดเหมือนเดิม
"มีความสุขจังเร้ยยยยกรู" เออ เมิงสุข แต่กรูทุกข์ขนัด
"เมิงเล่านิทานให้กูฟังหน่อย"
"เมิงจะบร้าเหรอ สาดด โตเป็นกระซู่ ยังจะฟังนิทาน"
มันก็อืมๆๆ เพลียๆ
ผมเลยนึกออกเล่านิทานที่แต่งเองเลย เรื่อง "กรูจะทิ้งเมิงไปแล้วนะ ไอ่ฟาย ฮือๆๆT_T" (อันนี้แต่งเองนะ คริๆ)
ผมเริ่มเล่าตั้งแต่ กาลครั้งนึงนานมาแล้วมีเด็กวัด 2 คน บราๆๆๆๆ แต่งเองสด มันก็นอน อืมๆๆ ไป ......... จนมาถึงกลางเรื่องผมวกเข้าเรื่อง
"อ้อย(ขอยืมชื่อที่ชาวพันทิพย์ตั้งให้หน่อยนะ) กรูมีเรื่องจะบอก"
"อืม"
"กรุเคยบอกใช่ป่าวว่ากรูอยากเป็นกระจ๊วต"
"อืม"
"วันนั้นเพื่อนกรูโทรมา........................ให้กรูสมัครที่สายการบิน......"
".........(เงียบ)............"
"กรูเลยลองสมัครดู ปรากฎว่า..........."
ผมหายใจยาวววว "กรูสอบได้ว่ะ แล้วๆ แล้วกรู เอ่อ กรู ต้องไปอยู่ (รัฐนึงแถบตะวันออกกลาง) "
" กำหนดตรวจร่างกายกรูวัน ที่ 24 สค(คือพรุ่งนี้ของผม) แล้วกรูต้องไปวันที่....(ขอไม่บอกนะ กลัวแฟนขับ ไปขับไล่).....กรูจะไม่ได้อยู่กับเมิงอีกแล้ว เมิงได้ยินมั๊ย"
เอะ ทำไมมันเงียบผิดปกติ ผมลองย้ำอีกครัง "ได้ยินมั๊ย"
มันยังไม่ตอบ เลยเอามือสะกิด "เฮ้ยๆไ ไร้ซึ่งอาการตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น เวร แมร่ง หลับไปแล้วววว
โอ้ยยยยยยยยย กรูอุตส่าห์ เฮ้อ..........

.........................................................................................
ผมผล๊อย หลับไปตอนไหนไม่รู้ รุ้แต่นานน่ะ กว่าจะหลับ
เพราะอึดอัด ตื่นมาอีกที ไม่เห็นมันแล้ว
แม่บอกว่า " อ้อย สั่งไว้ว่า มันไปทำงานก่อน เข้างานกะเช้า"
"มันกลับไปกี่โมงแม"
" 5 โมงได้มั้ง"
..................................................................
วันเดียวกันนั้นเองผมตัดสินใจลาพักร้อน 3 วัน
(ก็ตั้งแต่วันแรกที่ตั้งกระทู้หน่ะแหละ...จนถึงวันนี้) ผมไปทำงานเข้ากะเย็นเลยไม่ได้เจอมัน
ตอนเย็นโทรหามันไม่ได้เพราะ เค้าห้ามใช้โทรศัพท์ ตอนอยู่ในสนาม
วันนั้นผมก็ยังไม่ได้คุยกับมัน จนมาถึงวันจันทร์ผมหยุดพักร้อน
จนถึงวันนี้ ผมก็ยังไม่ได้คุยกับมัน มันโทรมาที่บ้านบ้างแต่ก็คุยได้แป๊บเดียว(ตอนวันจันทร์ที่ผมบอกว่าผมต้องไปแล้ว มันมาอีกแล้ว นั่นแหละ แม่เรียกว่ามันโทรมา) เพราะว่าผมหยุดมาต้องลากกะทำงานแทนผม
.............................................................

พรุ่งนี้ผมไม่ได้อยู่โพส เพราะต้องไปตรวจร่างกายที่เวชศาสตร์การบิน กะว่าวันเสาร์ ว่าง จะคุยกับมันให้รู้เรื่อง .........................

.................................................... ยังไงผมรบกวนฝากกระทู้นี้ด้วยนะครับตอนผมไม่อยู่ 2-63 วันนี้ ช่วยจัดกระทู้ไม่ให้มันเน่า(สั่งเสีย)
แล้ววันเสาร์ผมสัญญาว่า ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าสุดท้ายเรื่องของเรามันจะจบยัง
................ท้ายนี้แล้วก็ฝากไว้ให้ช่วยหน่อยนะครับ

1.ผมควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้
2.ควรจะมีวิธีบอกมันยังไงให้มันเสียใจน้อยที่สุด
3.ถ้าเป็นเพื่อนๆ เพื่อนๆจะเลือกใครระหว่าง
เอ่อ (ไม่รู้จะใช้คำว่ายังไง)มัน กับงาน
4. คิดว่าต่อไปผมควรจะทำยัง เฮ้อออ สับสนเล็กน้อย เอาเป็นว่า วันนี้ผมแค่นี้ก่อนนะครับ ยังไงฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:45 pm

นื่องจากไม่ทราบว่าเกิดอาเพศประการใดกระทู้นี้ดั๊นเผยแผร่
ลามไปถึงกระทู้ thaicabincrew
ซึ่งที่นั่นเพื่อนที่ผมรู้จักก็เยอะแยะจนทำให้.................
คืนวันพุธผมเข้านอนแต่หัวค่ำ ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้
ตื่นมามีเบอร์แปลกๆ โทรมาประมาณ 4-5 ครั้ง ผมโทรกลับไป...
...."อะโหล ใครครับ"
" น้องเป็ดเหรอ(กลายเป็นชื่อจริงไปแล้ว ใครๆก็เรียกเป็ด...นี่คือที่มาของ...เซ็งเป็ด) พี่โบ้เอง หวัดดีครับ"
ครับของพี่โบ้ดูหลวมยังไงไม่รู้ คาดว่าถ้าพูดค่ะ จะชัดถ้อยชัดคำกว่า
ย้อนประวัติของบุคคล(มือ)ที่สามท่านนี้หน่อย
นักแสดงท่านนี้อดีตชาติเคยทำงานบริษัทเดียวกับผม
เข้ามาก่อนผมกับไอ่อ้อย พอผมทำงานได้ประมาณไม่ถึง 2เดือน
ท่านก็อพยพย้ายถิ่นฐานไปปักหลักอยู่สีลม
ที่ที่ท่านคิดว่าศิวิไลย และเหมาะกับ life style ท่านที่สุด
ผมกับพี่โบ๊สนิทกัน แต่พี่โบ้กับไอ่อ้อย ไม่สนิท เพราะไอ่อ้อยมันบอกว่า
"กรูว่าพี่แก่ ติ๋มๆยังไงไม่รู้ เมิงว่าแกเป็น...รึปล่าวว่ะ"
พี่โบ้แกไม่ได้ปกปิดเลย ทุกคนทั้งแผนกรู้กันหมดว่าแกปัย มีแต่ไอ่กระบื่อนี้คนเดียวที่ดูไม่ออก......ไหนว่าผีเห็นผีวะ
.........................................................................................
"นี่แก ชั้นไปอ่านเจอเรื่องนึงใน......ชั้นว่ามันคุ้นๆนะ"
ระดับความสนิทสนมสูงขึ้นอย่างพรวดพราดจากที่ไม่เคยคุยกันมานานกว่า 1 ปี
"นี่มันมีเชื่อไอ่พี่เต้ยด้วยนะแก แล้วก็มีคน 3-2 คนที่ชั้นว่าชั้นพอจะเดาออกว่าเป็นใคร"
"แล้วเจ๗ว่าใครหล่ะ"
"แหมรู้อยู่แกใจยังมาทำไขสือ ผู้ชายปากแข็ง นี่ชั้นอ่านอล้วชั้นอิน้เลยนะแก หลงรักไปเลยแหละ"
"เว่อร์ไปเจ๊ หลงรักผมเนี๊ยะนะ"
"บร้าสิ ชั้นจะรักแกไปทำไม หน้าตาอย่างแก ชั้นมีเป็นเข่งแล้วหย่ะ"
"ปลาทู"เหรอ ผมเย้าไปเล่นๆ
"เออ ปลาทูคอหักด้วย บร้าสิ ชั้นหมายถึงน้อง...."
เออ...เรียกผมแก เรียกไอ่อ้อย น้อง อืมม ไม่มีสัจจะในหมู่เจ๊แกจริง Gentlemen come first .
"นี่น้องเค้าน่ารักขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมตอนชั้นอยู่ไม่เห็นมาทำกับชั้นแบบนี้มั่งหล่ะ ชั้นไม่รู้เลยนะเนี๊ยะว่าเค้าเป็น"
" เจ็ ไอ่อ้อยมันบอกว่ามันไม่ชอบตีฉิ่ง เจ๊เข้าใจป่ะ"
"ฉิ่งบร้าแกสิ ว่าแต่แกช่วยชั้นหน่อยสิ ชั้นอยากสอยน้องเค้าแล้วหล่ะ"
โห เป็นบุคคลที่มีรังศีอำมหิตแผ่ซ่านจริงๆ โอ้ นี่หรือเมืองพุทธ
ผู้ชายเป็นได้แค่ลุกมะม่วง
"แก วันเสาร์-อาทิตย์นี่แก ว่างกันรึป่าว ไปหาอะไรกินกันมั๊ย" ถึงผมจะไม่เห็นหน้าเจ๊แก
แต่คาดว่าน้ำลายคงย้อยลงมาถึงหัวแม่ทีนแล้วป่านนี้
" อืมม เจ๊โทรมาอีกทีแล้วกันนะ"
"โห เจ๊ขอนะ เจีไม่เคยขออะไรแกเลย ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ"
"เจ๊ กล้าพูดดดดด แล้วไอ่ที่ ขอติดรถ ขอเข้าสาย ขอให้เข้ากะแทน ขอแลกวันไปเที่ยวกับผู้ชาย ขอให้ซื้อของให้ ขอให้จ่ายตั้งค่าข้าวก่อน ขอแม้กระทั่ง ช้อน นี่เค้าเรียกยังไม่ขออีกเหรอ" ผมทวงบุญคุณ
"บร้า นั่นเค้าเรียกน้องที่ดีพึงกระทำต่อพี่ที่น่ารัก" อืม บรรลุ........
"ตกลงจะช่วยรึปล่าว" เจ๊ยังคงจะเอาให้ได้
" เออ โทรมาอีกทีแล้วกัน"
ผมรับปากไปไม่ใช่เพราะอยากช่วยพี่โบ๊
แต่เป็นเพราะผมอยากให้ไอ่อ้อยเจอคนที่ดีกว่าผม
และคนที่ให้ในสิ่งที่มันต้องการได้ ผมไม่อยู่อย่างน้อยถ้ามันกับพี่เค้าไปกันได้ ก็คงมีคนดูแลมัน
พี่โบ๊ก็เป็นคนดีคนนึง นิสัยดี มีข้อเสียนิดเองตรงที่
1. ชอบตวาด
2. ชอบด่า
3. ชอบให้กำลัง โดยเฉพาะฝ่ามือ
4.ชอบตื่นสาย
5เที่ยวเก่ง
6.กินจุ
7.ต้องการให้คนชมว่าสวยตลอดเวลา(ผมมักตอบว่าสวยเพราะไม่งั้นจะเจอข้อ 1+ข้อ2 จะเท่ากับข้อ 3 ตามมาทันที)
8. พอแล้วดีกว่า คาดว่าข้อเสียคงยังไม่หมดแค่นี้เกรงว่าจะเปลืองพื้นที่
(ล้อเล่นนะครับพี่โบ๊)
...................................

****ข้อความทั้งหมดที่กล่าวพาดพิงถึงพี่โบ๊นั้น ได้ทำการขออนุญาตจากเจ้าตัวและ เจ้าตัวอนุมัติแล้ว(เอาผู้ชายเข้าล่อเลยยอม) ว้าฮ่าๆๆๆ

.........................................................................................
เย็นวันนั้น หลังจากที่ผมเสร็จธุระ มันก็โทรมา.............
"กี่วันแล้ว"
"อะไรของเมิงกี่วันแล้ว สวดอภิธรรมเหรอ" ผมก็ตอบไป แต่ในใจก็ดีใจที่ได้ยินเสียงมันซะที
"ไอ่บร้า กี่วันแล้วที่กรูไม่เจอเมิง"
"ไม่รู้ ไม่ได้นับจะนับทำไมวะ"
" 3วันกับอีก 11 ชม กรูช่วยนับ" โอโห้ นอกจากวันที่ 1 กับวันที่ 16 ที่มันจำได้แม่นแล้ว(เนื่องจากหวยออก เมื่อก่อนวันผลบอลออกด้วยแต่ตอนนี้มันเลิกแล้ว...มันว่านะ) มันยังจำวันนี้ด้วยอืมม นับถือๆ
"มีธุระอะไรรึปล่าว"
"ไม่มี กรูแค่อยากโทรมาบอกว่ากรูน่ะ คิดถึงเมิงว่ะ ไม่มีใครให้กรูล้อ เหงาสาดดดด"
" เออ กรูขอโทษ ที่ทำให้เมิงต้องทำกะแทนกรู กรูมีธุระจิงๆ เหนื่อยป่าววะ"
"เหนื่อยแค่นี้ไม่ตายหรอก ยังไกลหัวใจอีกเยอะ" อืมมุขไกลปืนเที่ยงอย่างแรง
"ว่าแต่ธุระอะไรของเมิงว่ะ บอกกรูไม่ได้เหรอ" ผมอ้ำอึ้ง เพราะว่ายังไม่ทันคิด
"เออ เมิงไม่ต้องรู้หรอก ไม่เกี่ยวอะไรกับเมิงอยู่แล้วแหละ ไม่ต้องกลัว" ไม่ทันคิดก้เลยตอบไปอย่างงี้
"เมิงก็สาดดดพูดแต่ แบบนี้ กรูแค่อยากรู้เรื่องของเมียกรูมั่ง เผื่อสวมเขาให้กรู กรูจะได้รู้ไง"
"กรูว่าเมิงมีเขาตั้งแต่ยังไม่รู้จักกรูเลยว่ะ คริๆ"
"ไอ่เวน กรูไม่ใช่กวางเรนเดียร์" ผมหัวเราะออกมา นานๆทีจะหัวเราะกับมุขมัน อาจเป็นเพราะผมเปิดใจรับมันมากขึ้นก็ได้มั้ง
"พรุ่งนี้ว่างป่าวหล่ะ ไปหาห้องกัน แถวลาดกระบังน่ะ ห้องเยอะ" มันชวนเนื่องจากว่าเราต้องทำการย้ายที่พักพิงในอีกไม่ช้าแต่ ผมกับมันยังไม่เคยหาหอเลย มันเคยบอกว่า
"เราอยู่ห้องเดียวกันดีป่าว สร้างรังรักด้วยกัน"
"ถุย.....รังรักกะผีเมิงสิ อยู่นรกมากกว่ากรูว่า เมิงอยู่รกจะตาย กรูกลัว นอนๆตื่นมากรูหลง หาทางออกไปทำงานไม่เจออะดิ"
จนวันนั้นมันชวนผมอีกครั้ง
"เออ กรูไปเป็นเพื่อนก็ได้ แต่กรูไม่อยู่หอนะ กรูจะขับรถไปทำงาน"
"อ้าวทำไมหล่ะว่ะ สาดดด กรูอุตส่าห์ จินตนาการ........"
"จินตนาการอะไรของเมิง"
"ป่าว แมร่งแล้วกรูจะอยู่กับใครหล่ะ"
เยงกันพอให้หายคิดถึง ผมเลยขอตัววางหู เพราะอยากพักเหลือเกิน...................................................

.........................................................................................
ผมยังคงหาทางบอกมันเรื่องที่ต้องไปอยู่เมืองนอก
แต่ยังไง๊ ยังไงก้จนใจ นึกไม่ออก ในห้องนี้ก็มีแต่คนยุให้เอากะมัน
(จะเอากันยังไงยังไม่รู้เลยครับ) ผมน่ะนึกไปนึกว่าก็ไม่รู้บอกยังไง กลัวไปสารพัด รู้ว่ากลัวไปเอง ปต่ก็นะอดไม่ได้....................
ความรู้สึกที่มีกับมันตอนนี้ คือ ผมรู้สึกดีกับมันนะ แต่ไม่ได้หมายความรัก
แค่มีความรู้สึก ห่วง หวงบ้าง และก็บางทีก็นึกถึงมันอยู่บ่อยๆ มันมีเรื่องให้นึกถึงเยอะมาก...........
เช่น.........
วันนึงผมนั่งมอไซต์รับจ้างไปหามันที่ห้อง เนื่งจากจะเอาใบลาไปฝากกับมัน ด้วยความรีบเร่ง ลืมดูตังส์ในกระเป๋ามีแต่ 500 .......
ไปถึงหอควักตัง 8 บาท อิ๊บอ๋าย เศษตังส์ไม่มีเลย
ผมรื้อกระเป๋าเละเทะด้วยความลน ผมโดนมอไซค์รับจ้างด่าเละ
"ไม่มีหรอก 8 บาท ให้แบงค์ 500 น่ะ คุณไม่คิดจะแลกมาก่อนเหรอ ผมทำงานนะคุณ เสียเวลา"
"พี่ ผมวิ่งไปเอาให้อยู่ชั้น 4 เอง"
" นี่น้อง พี่ไม่ว่างรอเงิน 8บาทหรอกนะ น้องก็เห็นมีคนรอคิวมอไซต์เยอะขนาดนั้น เอาแบงค์ 500 มา พี่จัเอาไปแลกหน้าปากซอย"
ใครจะกล้าให้ไปหล่ะ เผื่อมันเชิดเงินไปผมจะตังส์ที่ไหนกลับบ้าน.............ตอนนั้นกดดันนะ เพราะว่าแมร่งมอไซ๖ก้หน้าเหี้ยมยังกะโจรปูโล
ตางี้แดงยังกะนกกะปูด ผมว่าถ้าพี่เค้ากินเนื้อผมแทนได้พี่เค้าคงกินหัวผมไปแล้ว
ผมตัดสินใจโทรหามัน
"เฮ้ยย ช่วยกรูหน่อย" ผมบอก
"อะไร"
"เอาเงินมาให้กรู 8 บาท มอไซต์จะแ**กกรูอยู่แล้ว"
"ก้อให้มันแ**กไปสิ" ผมยังต่อล้อต่อเถียง
"เมิงอย่ามากวนส้นกรูตอนนี้ได้ป่าวสาดดด กรูจะตายอยู่แล้ว รีบเอาลงมาเหอะ"
"ตั้งชั้น 4 แน่ะ กรูขี้เกียจลงไป..เมิงขึ้นมาดิ" อืมมมมมมมมมมกรอดดด
"ไอ้เอี๊ย เมิงนี่มันสันดานจิงๆ กรูลำบากเมิงลงมาหน่อยสิว่ะ อย่าให้กรูต้องขึ้นเมิงขึ้นกรูกับเมิงนะ"
"ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจ" โห ผมนี่สุดๆครับตอนนั้น คือกะว่ายังไงเลิกคบแน่
มอไซต์ก็จ้องซะ....ผมกดหูวางหันหลังไป ตัดสินใจยกเงิน 500 ให้มอไซต์ไป
หันมาขวับ มันมายืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า มันลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
" อะไรของพี่ เงิน 8 บาท ผมเอาเอาไป" มันยื่นเงินให้มอไซต์
"ก็เพื่อนน้องอ่ะ ยึกยักแมร่ง" มอไซต์มันก็คงเดือด
"ยึกยักยังไง ว่ามาดิ" มันยังกล้าไปพูดดีกับเค้า
"พอเหอะ อ้อย กรูว่าไปเหอะ" ผมปรามกลัวมันโดยยำทีน
"ยัง เมิงขึ้นไปก่อน กรูจะคุยกับมันก่อน ยึกยักยังไงว่ามา อ่ะ" มันจับแฮนด์รถไว้
"แมร่งก็มันนั่งรถรู้อยู่แล้ว ว่า 8 บาท ไม่รู้จักแลก ผมเสียเวลา วิ่งครั้งนึงได้ 8บาทยังต้องมารอ ซื้อมาม่าได้ยังไม่ครบ 2 ห่อ" แน๊ หัวหมอด้วย แต่ตอนนั้นสงสารเค้าแหละ
"แล้วไง ก็เพื่อนผมบอกจะเอามาให้ ทำไมไม่ให้มันขึ้นมาเอา"
"อ้าว ถ้ามันหายไปแล้วผมจะทำไง"
" มันจะหายไปไหน ตึกมีอยู่ 6 ชั้น มันโดดหนีพี่กับเงิน 8 บาทมันไม่คุ้มหรอก กับตายห่านะ เอาไป 20บาท ไม่ต้องทอน แล้วทีหลังนะ น้ำใจน่ะ หัดมีมั่งคนเค้าไม่ได้ตั้งใจ ไปว่ามัน"
"อ้าว เมิงก็ขอโทษเค้าซะ ทีหลังนะ พกไว้มั่งเหรียญน่ะ ไม่หนักกระเป๋าเมิงเท่าไหร่หรอกสาดดด" มันหันมาทางผม
ผมหันไปขอโทษมอไซต์ เค้าก็หน้าเจื่อน ผมก็หน้าเสีย................................

"ต้องให้กรุเหนื่อย ไอ่นี่" ผมได้ยินเสียงมันบ่นนำหน้า
"เมิงมาเมื่อไหร่อ่ะ กรูนึกว่าเมิงไม่ลงมาซะแล้ว" ผมยังคงรู้สึกสำนึกบุญคุณในความเมตตาของมัน
"กรูลงมาตั้งแต่เมิงบอกขอตังส์ 8 บาทแล้ว กรูแหย่เมิงเล่น" มันคงอยากให้ผมด่าก่อนมั้งมันถึงจะพอใจ
แต่ยังไงตอนนั้นมันก็ได้ใจผมไปโขอยู่..................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:51 pm

ผมนอนนึกถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็วกมาที่เรื่องของมัน
ถามผมว่าผมใจหายมั๊ย เมื่อวันที่จะต้องพูดคำว่า "กรูไปก่อนนะ" กับมัน
หายครับ หายไปทั้งใจแน่ ไหนจะห่วงแม่ ห่วงน้อง ห่วงมันอีก แต่ก็ ไม่รู้ว่ามันจะยอมมาส่งรึปล่าวก็ไม่รู้............
"เฮ้ย กรูตัดผมทรงแบงค์ เมิงว่าเป็นไง" มันยื่นรูปแบงค์วงแครชในหน้าหนังสือิมพ์มาให้ผมดู
"เออ เข้ากับเมิงว่ะ ตัดปุ๊บเหมือน บังเลย"
"ไม่เอาดิ เอาจริงๆ กรูไว้ผมยาวมันรำคาญ กรูขี้เกียจสระ" มันทำท่ารวบผมซึ่งก็ไม่ได้ยาวนักหนา
"เออ เมิงจะตัดเมิงก็ตัดสิวะ มาถามอะไรกรู" ผมพูดตัดรำคาญ
พลางหยิบก้อนหินโยนลงสระ(จตุจักร ตอนที่แล้ว ย้อนไปอ่านซะนะอิๆ เล่นให้งง)
"อ้าวกรูต้องถามเมิงสิ กรูตัดมาหล่อ เมิงจะได้ภูมิใจที่ผัวเมิงหล่อ เดินด้วยจะได้ไม่อายใครไง ดูๆ...คนนั้นมองกรูอีกแล้ว มองอะไรว่ะ"
พูดเสร็จมันชี้ไปที่ผู้หญิง2-3คนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่ง เค้าไม่ได้มองมันหรอก เค้าหาเพื่อนเค้า
"กรูว่าน้องเค้าคงไม่เคยเห็นแมลงวันหัวเขียวตัวเท่าคนมั้ง" ผมกัดไปนึงดอก
"ผั๊วะ กรูเป็นแมลงวันหัวเขียวเมิงก้เป็นหมาเน่าแหละว่ะ กรูจะดม จะชอน จะไช ทั้งตัว" ผมขนลุกพรึบเลยครับ เห็นภาพขึ้นมาทันที
"นานะ พากรูไปตัดผมหน่อยนะ เดี๋ยวกรูเลี้ยงฟูจิ" ได้ยินฟูจิแล้วหูผึ่งครับ
เอาก็เอา ผมตัดสินใจพามันนั่งรถไฟฟ้าต่อไป ชิกชับทันที มาถึงระหว่างทางเดิน
มันเจอขอทานที่ไหนมันให้หมด จนผมบอกว่าให้มันแลกเศษตังส์เลยดิ ผมพูดประชด
หันไปอีกที ไปยืนขอแลกตังส์อยู่หน้าเซเว่นจริงๆ เอากับมัน
"หวัดดีครับพี่" ผมทักทายพี่ที่ร้าน
"พี่ ผมเอาเพื่อนมา พี่ช่วยตัดหัวมันออกทีนะ" พี่เค้ายิ้มใหญ่
มันนั่งมองตัวเองด้วยความภูมิใจที่ชาตินี้สามารถหาร่างที่หล่อเหลาแบบนี้สิงสถิตย์ได้(ผมว่าคิดเอาเอง)
"กรูก้หล่อเหมือนกันนะ เมิงว่าป่าว" มันหันซ้ายหันขวา
"อืม กรูก็ว่างั้น" ผมไม่สนใจยังคงนั่งอ่านหนังสือต่อไป
"หล่อแล้วทำไมเมิงไม่ชอบกรู"
"ก้เมิงไม่มีนม ไม่มี....เหมือนผู้หญิง" พิมพ์เองยังอดหัวเราะไม่ได้
"ใครบอกกูไม่มี นมกรูก็มี" มันขยำนมตัวเอง
"....กรูก็มี"พูดไม่พูดปล่าว ขยำเป้าตัวเอง
สักพักช่างเอาอุปกรณ์มา
"อ่ะ เมิงตัดไปก่อน กรูจะไปเดินศูนย์ฯจุฬา" ผมทำท่าลุก
"เฮ้ย ไม่เอา เมิงอยู่กะกรูก่อนดิสาดดดด "
"เรื่องอะไร เมิงบอกให้กรูพามากรูก็พามา ไม่ได้บอกให้กรูอยู่เป็นเพื่อน" พูดเสร็จผมลุกเดินออกไปเลย
................เดินมาถึงหน้าโรงหนังลิโด้ เหมือนมีคนเดินตาม หันไปดู.....
"อ่าว ไอ่เอ็ดเข้ ออกมาทำไม๊" ผมตกใจ มันยืนยิ้มแหยะ หัวลีบเพราะโดนฉีดน้ำมา
" เมิงไม่อยู่เป็นเพื่อนกรู กรุไม่มีอารมณืตัด"
"อะไรของเมิง แล้วเมิงจะไปเดินหัวเปียกเป็นลุกวัวเพิ่งเกิดเนี๊ยะนะ แมร่ง ภาระกรูจริงๆ"
"ฝากให้เธอเลี้ยงดู ให้อยู่กับเธอแล้วกัน" ตอนแรกนึกว่าเพลงอะไร
มารู้ทีหลังเพลงของเจ เมื่อ 10 ปีก่อน ยังคงฮิตตลอดกาลสำหรับมัน...............เฮ้อออ
.........................................................................................
ผมยังคงนอนไม่หลับกระสับกระส่าย เป็นอะไรมากป่าวว่ะเนี๊ยะกรู
ทำไมต้องกลัวมันเสียใจขนาดนั้น หรือว่าไอ่ที่กลัวๆน่ะ กลัวตัวเองต้องเสียใจซะเอง.............
.....................................................................
..........................................................
........................................
.............................
..................
.............
.........
.....
.....
..
.ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปิดคอม เข้าพันทิพย์ หากระทู้ที่พิมพ์เองกับมือ
ผมว่าความรู้สึกทุกอย่างที่ผมมีให้มันล้วนถูกเก็บไว้ในตัวอักษรทุกตัวที่ผมเขียน
บางทีมันอาจสื่อความรู้สึกที่แท้จริงของผมได้มากกว่าคำพูดก็เป็นได้..............
.............................................................
ผมก๊อปปี้ สิ่งที่ผมเขียน และความเห็นของเพื่อนในนี้ทุกคน ทุกคนที่เข้ามาและตอบกระทู้ให้กำลังใจ
เข้ามาร้องให้ เข้ามาหัวเราะ เข้ามากด F5 เข้ามารอเร่งให้ผมรีบพิมพ์จนผมพิมพ์ผิดๆถูกๆ มือหงิก
ทุกความเห็นที่เข้ามาเตือน หรือแม้แต่ความเห็นที่บอกให้เอาเรื่องของผมไปทำหนัง
(ซึ่งคาดว่าจะเจ๊งกว่าโบย่า งูยักษ์เขมือบไอ่อ้อย)
ทุกอย่างถูกผมนำมาเรียบเรียงลงใน word
จัดหน้าอย่างปราณีต ก่อนจะกดสั่งปริ๊นส์ ผมรออยู่นาน.......
.........
.........
..........
...........
..........
.........
.ยังไม่เสร็จ ผมยังคงรอต่อไป.
.........
..........
..........
.........
............
.........
.........ยังอีกเหรอว่ะทำไมมันเยอะจัง
.........
.........
...........
..........
...........
.........อ้าวหมึกจะหมดแล้ว แต่ก็ใกล้เสร็จแล้ว
.........
.........
.........
...........
....โอเค เสร็จแล้ว โห 100 กว่าหน้า มันจะอ่านมั๊ยว่ะเนี๊ยะ
.......................................................................
แผนของผมคือ ผมจะไม่เผชิญหน้ากับมันโดยตรง
ผมจะเอาสิ่งที่ผมเขียนและความเห็นของทุกคนที่เข้ามา ให้มันอ่าน
อย่างน้อย ถ้ามันอ่านแล้วเศร้าก้จะมี ความเห็นของเพื่อนๆบางคนที่อาจทำให้มันหัวเราะ
แล้วรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง(เหมือนผม) หรือหากมันร้องไห้ ก็จะมีความเห็นของหลายๆคนที่คอยให้กำลังใจ
และอยู่ข้างมัน(พวกที่เชียร์ให้ผมได้กับมันนั่นแหละ).....
....................ผมว่าวิธินี้แหละดีที่สุด หลังจากนั้นผมและมันจะเป็นยังไงก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินและเยียวยาเอาแล้วกัน
เออ ลืมอีกอย่าง พี่โบ้ด้วย หวังวาจะทำให้มันลืมผมได้นะ พี่โบ้
.......................................................................
เสร็จจากการปริ๊นมอราทอน ผมยังคงนอนไม่หลับ ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
.........................................................................................
โห ลืมเปิดเสียงไว้ มีเบอร์โทรเข้ามา 8 เบอร์ เป็นของพี่โบ้ 7เบอรื อีกเบอรื เป็นของมัน ผมเลือกที่จะโทรหาพี่โบ้ก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่ากินเส้นให้หมดห่อน เหลือลูกชิ้นกินทีหลัง(เกี่ยวมั๊ยหว่า)
" พี่โบ้ มีไร"
"โห ไม่ยอมรับสาย ปล่อยให้ชั้นกระหน่ำจิกถี่กว่าจิกผู้ชายอีก"
"อืม พอแล้วเจ๊ เข้าเรื่องมาเลย มา ว่ายังไง"
"คืนวันเสาร์ว่างมั๊ย ไปดู af กัน พี่ได้บัตรมา3ใบ" เพิ่งรู้ว่าจะไปดูแก๊งนี้ต้องใช้บัตรด้วย นึกว่าเดินเข้าไปดูได้เลย
"เอ่อ ขอคิดดูก่อนนะเจ๊ พอดีผมไม่ค่อยชอบดูอ่ะ ไม่รู้จักใครเลย" ผมยังคงไม่รับปากเพราะว่าไม่รู้จะไปดูทำไม ผู้หญิงน่ารักๆไปหมดแล้ว
"ไม่ได้แกต้องไป ชั้นเอาบัตรมาได้แล้ว ชวนน้อง...มาด้วย"
"อ้าววว ถ้ามันมาไม่ได้หล่ะ"
"แกก็ไม่ต้องมา.........ชั้นล้อเล่นน่ะ เอามาให้ได้นะ ถือว่าพี่ขอร้องง ง ง ง ง"
"โอเคครับผมจะลองโทรชวนดูนะ ไม่รู้มันจะมารึป่าว มันคงดูไม่รู้เรื่อง เห็นดูแต่ บันทึกการแสดงสด ศิริพร อำไพวงศ์" ผมเห็นที่ห้องมันมีแผ่นด้วย ว่าจะยืมมาดูมั่ง
" โห งั้นเข้าทางเลยแกคืนวันนั้นเค้าได้โจทย์เพลงลูกทุ่งกัน โอ้ยยยแกเห็นยัง ฟ้าดินเป็นใจ"
อืม โอเคๆ ผมก็รับปากว่าจะชวนให้ สิ้นจากเสียง 8ปรอทของพี่โบ้ ผมกดโทรออกหามันทันที หาข้ออ้างคุยกับมันได้แล้ว ว้าฮ่าๆๆๆๆ
.........................................................................................
ผมโทรไปครั้งแรกไม่ติด ฟังเสียงรอสายอยู่นาน จนอดคิดไม่ได้ว่าหรือมันไม่อยากรับสายหว่า กรูไปทำอะไรให้โกรธรึปล่าวฟะ(ปกติ ยิงเบอร์ไป นับ1 ยังไม่ถึง 3 ดีมันก็โทรมาแล้ว) ผมลองกดอีกที
"ฮือๆๆ อะโหล รู้แล้วว่าคิดถึง" เสียงมันเหมือนหมาหอบแดด
"ทำไรอยู่ ว่าวเหรอ เสียงหอบเชียวเมิง" ผมแซว
"ว่าวกับเอี๊ยะเมิงอะดิ กรูล้างห้างน้ำอยู่"
" 5 ทุ่มนี่อ่ะนะ ล้างห้องน้ำ....โบราณเค้าถือนะโว้ย เค้าไม่ให้ล้างห้องน้ำกลางคืนเค้าบอกเหมือนปัดเป่าโชคลาภ (จริงๆเค้าห้ามกวาดขยะกลางคืน)" ผมหลอกมัน
"จริงเหรอ...แมร่งซวยแล้วกรู แล้วกรูต้องทำไง" มันแมร่งโง่เชื่ออีก
"แก้เคล็ดก็ต้องทำให้ห้องน้ำซกมกเหมือนเดิม" 555
"เออ เดี๋ยวกรูจัดการเอาขยะมาเทๆกองไว้ก่อน กรุ่งนี้ค่อยทำก้ได้ แมร่ง เดี๋ยวสิ้นเดือนโดนหวยแ**กอีกกรู" สุดยอด หลอกง่ายยิ่งกว่าหลอกว่าหน้าตาดี
"กรูล้อเล่น แมร่ง งมงสยนะเมิง"
"อ่าว ไอ่สาดดด หลอกกรู....ว่าแต่มีอะไร"
" อ๋อ กรูจะชวนเมิงไปดู af วันเสาร์"
"อะไรของเมิง af เครื่องเล่นดีวีดีเหรอ" กรูว่าแล้วคนอย่างเมิง.....
"บร้า นั่นมัน aj เล่นได้ไม่เลือกแผ่น af น่ะ academy fantasia อ่ะ"
"งึ กรูไม่รู้จักว่ะ แต่เมิงชวน กรูไปก้ได้" ผมรับปาก
"เมิงจะไม่คิดก่อนหน่อยเหรอ"
"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เมิงว่าดีกรูก็ว่าดี" โห มันจะรู้มั๊ยว่าคืนวันเสาร์จะเป็นการดูตัวคู่บ่าวสาว(พี่โบ้-มัน สมรสสมรัก กร๊ากกก)
"เออ แล้วพรุ่งนี้(วันศุกร์)กรูไปบ้านเมิงเช้าหน่อยนะ ไปหาไรกินก่อนออกไปหาหอ" มันทำตัวเหมือนบ้านมันเอง
"ตามใจเมิง แต่แม่กรูไม่อยู่ ไปวัดอัมพะวากับน้อง" แม่คงปวดหัวกับมัน ถึงขั้นหนีไปวิปัสนาทีเดียว
"เหรอ ทิ้งเมิงอยู่บ้านคนเดียวอันตรายว่ะ กรูไปนอนเป็นเพื่อนนะ"
"..............................." เสียงโทรศัพท์หายไปคาดว่าจะรีบวางก่อนที่จะได้ยินคำปฏิเสธ
........................................................................... ผมหยิบเอกสารที่ปริ๊นไว้มานอนอ่าน คืนวันเสาร์ ผมจะต้องเอาให้มันอ่านให้ได้......
.........................................................................................
.............ผมยู่ไหนวะเนี๊ยะ ที่นี่ที่ไหนว่ะ แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมเดินตุปัดตุเป๋ ผ่านกอหญ้า ไม่ใส่รองเท้า หักกิ่งไม่มา 1อัน เดินแกว่งไปแกว่งมา
"เฮ้ยยยย อยู่ไหนกันหมดว่ะ" ผมตะโกน แต่เสียงยังเงียบเหมือนเดิม หันไปมองข้างทางเจอทางลาดลงเนิน ผมเดินลงไปแบบไม่คิดอะไร เดินๆไป ผลุง!!! ขาเหยียบลงไปในหลุมอะไรสักอย่าง แหยะ ยกทีนขึ้นมารดู อี๋ กรูเหยียบไข่อะไรว่ะ เหลืองอ๋อยเลย ผมยกเท้ามาถูกับหญ้าข้างๆหลุม มองไปข้างหน้า ป่ายางนี่หว่า ตัดสินใจหันหลังกลับ
ขวับ!!!! แอๆๆๆๆๆ บรึ๋ยๆๆๆ งูตัวเท่าหมาได้มั้ง 2 ตัวอ่ะ แผ่แม่เบี้ย ขู่ฟ่อๆ อิ๋บอ๋าย ผมไปเหยียบรังไข่มันแน่ๆเลย ผมตัดสินใจวิ่งเข้าป่ายาง วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆ เหอๆๆๆ(หอบ) หันไปมันเลื้อยตามมากระชั้นชิด ผมเร่งสปีดเร็วกว่านรก ใส่เกียร์หมา วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ให้ตายเหอะ วิ่งเท่าไหร่ทำไม่มันไม่ไปว่ะ กรูเหนื่อยแล้วนะ สุดท้ายผมลองกระโดดแผล๋ว เฮ้ยกรูเหาะได้ด้วย เข้าทางผมใช้วิชาตัวเบาเหยีบยอดไม้วิ่งฉิว แต่งูเจ้ากรรม(ตอนนี้เหลือตัวนึงแล้ว อีกตัวสงสัยกำลังเฝ้าที่รังมั้ง) มันบินได้ ตามไม่เลิก ผมขึ้นไปยืนบนยอดต้นยาง มองลงมาเห็นงูตัวนั้นเลื้อยอยู่ข้างล่าง ผมตัดสินใจ ใช้วิชาบาทาไรไง กระโดดลงมาจากยอดยาง ฟิ้ววววววว ด้วยความเร็วสูง งอขาข้างนึงยืดขาข้างนึง ลงมาในท่ายืน งูยังคงส่ายหัวไปมา หาผม ในที่สุด ......
........แผละ ผมใช้ส้นะเท้าบี้หัวงูเละคาทีน
"........ออดดดดดดดดดดดดดดดดด" ผมสะดุ้งตื่น ใครแมร่งมากดออดหน้าบ้านแต่เช้าว่ะ หยิบนาฟิกามาดู ...............โอ้ยย 6 โมงเช้า กรูรู้แล้วเมิงเป็นใคร....

.........................................................................................
ผมงังเงียเดินจากชั้นสอง แค่ร่าง ส่วนวิญญาณกำลังสู้กับงู้อีกตัว
"ที่บ้านเมิงสว่างเร็วเหรอ แมร่ง มาบร้าอะไรป่านนี้" มันไม่รอให้ผมชวนเดินแทรกเข้ามาเฉย เดินแกว่งถุงเต้าหู้ กับโจ๊กอย่างละสอง
"ก็กรูนอนไม่หลับนิ วันนี้กรูจะได้อยู่กับเมิงท้างงงงงงงวัน" มันลากเสียงยาวววววววว
" เออ เมิงจะทำเอี๊ยอะไรก็ทำนะ กรูไปนอนต่อน" ผมคลานขึ้นบันได ไปนอนต่อ
ตื่นมาได้ยินเสียงก๊องแก๊งๆ หลังบ้าน เดินลงมาดู
"เมิงทำอะไรของเมิงเนี๊ยะ" ผมชะโงกไปดู
"กรูเจียวไข่โว้ย ตอนแรกกรูซื้อโจ๊กมาแต่ว่ามันหล่น แตก" มันชี้ร่องรอยให้ดู
"กรูกลัวเมิงไม่มีไรแ**กกรูเลย ทำไข่เจียว นี่สูตรที่ตอนกรูอยู่วัดเลยนะ" ผมเดินไปดูใกล้ๆ อะไรของมันวะ
"เนี๊ยะ ตอนกรูอยู่วัดนะ ดึก กรูหิวก็ลุกขึ้นมาทำกับข้างเอง นี่เค้าเรียก ข้าวไข่เจียว" ผมงง แล้วมันแปลกตรงไหน
"นี่เมิงดู"มันตกไข่3-4 ใบ ใสอ่าง ใส่มะนาว ใส่น้ำปลา
"เมิงกินหวานปล่าว" มันหันมาถามก่อนเติมน้ำตาล ผมส่ายหน้างึดๆ
"เออ เหมือนกรูเลย งั้นกรูไม่ใส่" หยิกแก้มผมไป 1ที
"อ่ะ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย หั่นหอมกระเทียมให้ไวใส่ในไข่เจียวกรู" อืมมม เป็นกลอนแรกที่จำได้แม่น เอ้ยยยยย นี่มันบ้านกรูไอ้สาดดดด
ทุกอย่างเหมือนไข่เจียวปกติทุกอย่าง
" นี่ กรูไม่เห็นมันจะพิศดารผาดโผนตรงไหน" ผมถาม..
"เดี๋ยวเมิงคอยดู เอาตีไข่กรูหน่อย"
"ตีไข่เมิงเหรอ" ผมทำท่าจะเอาซ้อมตีไข่มัน
"เออ เอา" มันแอ่นไข่มาให้ตี ผมวางซ้อม หันไปหยิบมีดทันที ผมเอามือกุมไข่.....
..............ผมตีไข่ไปสักพักจนเมื่อยมือ
"เอามา เมิงดู" พูดเสร็จมันเอาข้าวเทผลัวะ ลงไปคน 2-3 ที จนเข้ากันแล้ว เอาไปเทใส่กระทะ ท่าทางชำนาญน่าดู
เสียงดูซู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"อ้าว เมิงถอย เดี๋ยวน้ำมันกระเด็นโดนเอา" อืม เป็นห่วงกรูหรือกลัวกรูเกะกะ ผมมองดูมันทำ แอบคิดขำๆ ถ้ามันมาเป็นผัวผมจริงผมก็สบายเลยดิ มีคนรับใช้ คริๆ ล้ำเลิศ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 3:56 pm

ข้าวไข่เจียวสูตรฮ่องเต้ ของมันมาอยู่ในจานผมเป็นแผ่นแล้วมีข้าวอยู่ข้างในพร้อมพริกน้ำปลา และน้ำเต้าหู้
อยากจะบอกว่าหน้าตาเหมือนข้าว+ไข่คน แต่ก็ต้องกิน
"โทรศัพท์อยู่ข้างนอกนะ ถ้ากรูตายโทรบอกแม่ด้วย" ผมแหย่มันเล่นพลางตักไข่มันใส่ปาก
"อืมมม สุดยอดว่ะ อร่อยโคตร อร่อย เชลลืมชิม"
"เวอร์ ไปแล้วเมิง" มันว่า..............
.......................................................................
ผมทนนั่งกินไปสักพักก็เริ่มคิดว่า มันก็อร่อยดีเหมือนกันนะ
หรือเพราะหิวหว่า
ผมเริ่มเล่าความฝันเมื่อคืนเรื่องงูให้ฟัง
"กรูว่า งู 1 ไข่ น่ะ 0 แล้วเมิงเหาะได้ 6 " มันเอาไปตีเป็นเลขเฉย
"เมิงบอกว่างู 2ตัว ตัวนึงเมิงเหยียบตาย อีกตัวนึงไปไหนหล่ะ"
"ไม่รุเว้ย ก็มันไล่กรูตัวเดียว สงสัยอีกตัวกะลังเช็ดรังมันอยู่มั้ง"
"แล้วเมิงเห็นไข่รึป่าวกี่ฟอง"
"ก็เมิงนั่นแหละ เจือกมาปลุก กูว่าจะวกกลับไปนับไข่มาบอกเมิงอยู่แล้ว" ผมว่า
"เออ กรูนี่มันเลวจริงๆนะ" อืม ผมก็ว่างั้นแหละ
.........................................................................................
ผมขึ้นไปอาบน้ำ ระหว่างที่มันนั่งดูผู้หญิง-ผู้หญิง แต่งตัวไปสักพัก ได้ยินเสียงมันเคาะประตู รีบมาเปิด
"น้องนุ่น(น้องผมเอง น่ารักนะ แต่ไม่ตลก เล่นมุขไปทีไรมันไม่ค่อยขำ แม่บอกว่า ผมติดตลกเหมือนพ่อ น้องติดเรียบร้อยเหมือนแม่....ดีใจจังที่ไม่ติดเรียบร้อยเหมือนแม่ เพราะไม่งั้นมาเจอไอ่นี่มีหวังร้องแน่) โทรมาบอกว่าให้แวะบอกน้อง....(เพื่อนน้องอยู่หน้าปากซอย)ด้วยว่าไม่ได้ไปหานะ ไม่ต้องรอให้ไปกันก่อนเลย" ผมก็อืมมม
"นั่นหนังสือไรอ่ะ" มันชี้ไปที่สนธิสัญญาสารภาพที่ผมปริ๊นไว้ มันเดินปรี่ไปจะไปหยิบ
"เฮ้ยยย" ผมรั้งมือมันไว้ "หนังสือน้องกรู กรูเอามาอ่านเล่น" ผมคว้าสนธิสัญญาไว้ทัน.....
"เมิงก้ปล่อยมือกรูสิ จับอยู่ได้ เห็นกรูใจง่ายแล้วจะเกาะแกะเหรอ" อ่าวววแป่วววลืมไป อารามตื่นเต้นกลัวมันอ่าน ..
"เออ โทดที เดี๋ยวกรูไปล้างมือก่อน กลัวติดขี้กลากเมิงลงไปก่อน ปิดหน้าต่าง แล้วก็ประตูหลังดู เดี๋ยวกรูลงไป" มันหายไป ผมรีบเอาสนธิสัญญาสารภาพซ่อนไว้ในลิ้นชักใส่กุญแจ
..................ยังหรอกไอ่อ้อย ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอให้เมิงมีความสุขไปก่อน แล้วพรุ่งนี้(วันเสาร์) กรูจะได้ไม่เสียใจมากหากทำเมิงร้องไห้..................................................................................................................T_T
.........................................................................................
ผมสะพายเป้เตรียมพร้อม มีกันแดดอยู่ข้างในเป้
"เมิงจะกลัวดำไปทำไม ดูอย่างกรูดิ ดำไม่กลัวกลัวไม่ดำ" มันแซว เราแวะซื้อแซนวิสร้านเพื่อนน้องผม พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องรอน้องผมแล้ว ป่านนี้บรรลุแล้วมั้ง (สงสัยชาติหน้าคงไม่ได้เกิดเป็นลูกแม่แล้วมั้งเรา ไม่เคยไปวัดกับแม่เลย)
ออกมายืนรอรถ 10.30 จนผ่านไป 11.00 จนใกล้ 11.30
" กรูบอกแล้วว่าให้เอารถไป...ร้อนจะตายเห็นป่าว ควันก็เยอะ รถก็ติด หงุดหงิดโว้ยยย" มันบ่น
" อ้าวไหนว่าไม่กลัวดำ ไม่กลัวร้อนไง"
"ดำไม่กลัวหรอกเว้ย แต่กรูกลัวประสาทแ**ก ตายไปพร้อมๆกะเป็นมะเร็งอะดิ"
เห็นมันหงุดหงิดแล้วก็หงุดหงิดไปด้วย รอรถนานมาก
"ไป.....ไปยืนบนสะพานลอบกะกรูดีกว่า ควนไม่เยอะ ไม่ร้อน แล้วก็เห็นรถแต่ไกลด้วย" สรุปเราทั้งคู่ไปยืนชมวิว ถ.วิภาวดีรังสิต ยามเที่ยงวัน ตดยังไม่ทันหายเหม็น(หมายความว่าเร็วมากกก) รถสายไปสุวรรณภูมิมา เรารีบวิ่งลงไป ผมไปถึงก่อนหันไป อ่าว "ไอ่อ้อย เมิงทำเอี๊ยไรอยู่ เดี๋ยวแมร่งตกรถ รอกันอีก ชม ครึ่งพอดี"
"เออ โทดที สายกระเป๋าเป้กรูไปพันกับร่มยายแก เกือบตกสะพานลอย " เกือบซวยมั๊ยหล่ะเมิง
ผมนั่งรถได้รีบหันแอร์มาตรงหัวอันนึงอีกอันนึงหันให้มัน
"เมิงเอาไปเหอะ กรูไม่ร้อนหรอก ขอแค่ให้เมิงเย็น ถึงกรูจะร้อนตับแลบแค่ไหนกรูก็ทนได้" มันร่ายยาว
"เมิงอย่ามาลิเกกับกรู ความเย็นมันออกเท่ากันสองรู ต่อให้เมิงเอามาจ่อที่กรูคนเดียวกรูก็เย็นเท่ากันเอาไป กรูไม่อยากฟังหมาบ่น".....................สุดท้ายมันก็ยอม เพราะมันก็คงร้อนเหมือนกัน ผมหยิบโทรศัพท์มาหยิบหูฟังเสียบหู "เมิงทำอะไรอ่ะ"
"ทอดแหอยู่มั่ง ฟังวิทยุดิสาดด"
"ไม่อาวววเมิงฟังแล้วกรูจะคุยกับใคร เมิงก็อยู่โลกของเมิง ก็ก็เซ็งดิ" มันดึงหูฟังไป "อะไรเมิงนักหนานิหา เดี๋ยวแมร่งกรูปล่อยให้ไปคนเดียวเลย เม่งเรื่องมากสาดดด" ผมดึงหูฟังกลับมา ยืนหูข้างขวาให้มัน " เอา เอาไป" แล้วก็หุบปาก อย่าโวยวายโหวกเหวก อย่าเล่น อย่ายื่นมือหรือหัวออกนอกหน้าตา" ผมแซว
"ครับคุณครู" มันทำเสียงเด็กได้กวนประสาทมากกกก

.........................................................................................
.........จะบอกว่าผมนั่งฟัง seed ไปตลอดทางก็นะ เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณาให้เค้า คนวัยเดียวกันมันก็ต้องฟังแนวๆหน่อย นั่งผ่านไปพอดีเจเปิดเพลงเพราะแมร่งสะกิดอีกและ แล้วก็ทำตาเยิ้มมมม ผมก็เลยแกล้งหลับ สะกิดให้ตายก็ไม่ฟื้น....................

...........ผมหลับจนมาถึงสุวรรณภูมิ อืมมม สวยดีนะเนี๊ยะ เคยเห็นแต่ในทีวี รถมาจอดเทียบที่ชานชาลารถโดยสาร เราลงรถ นั่งรอรถอีกสายไปกิ่งแก้ว เพื่อนแนะนำว่าหอเยอะ........สุดท้ายเรามาถึงกิ่งแก้วด้วยความลำบาก ร้อนโคตรๆ มันเป็น ถนนสายใหญ่ มีแต่โรงงานแล้วก็รถบันทึก แล้วก็ฝุ่น เราลงตจรงกลางกิ่งแก้วหน้าโรงบาลจุฬารัตน์
แต่ทีนี้หิวครับ แซนวิดเอาไม่อยู่ เลยต้องข้ามถนน ข้ามครั้งแรกผมไม่รอมัน วิ่งออกมาก่อน หันไปอีกทีเห็นมันยืนชี้หน้าด่าอะไรสักอย่างไม่ได้ยิน มันวิ่งมาถึงผม เรารอข้ามต่อที่เกาะกลางถนน รถวิ่งเร็วโคตรๆ ผมเห็นจังหวะ จะข้าม ก็เลยพล่อยปาก
"อ้าวไป" พอพูดเสร็จผมทำท่าจะออกวิ่ง แต่เกิดเปลี่ยนใจถอยกลับเพราะมีรถวิ่งมาเร็ว หันไปอีกทีไอ่นี่วิ่งไปก่อนไปเบรคอยู่เกือบกลางถนน แล้ววิ่งกลับมาหาผมใหม่
"ไอ่เอี๊ยะ ไหนเมิงบอกไป กรูก็ไป แมร่งเกือบตายอ่ากลางถนนแล้วมั๊ยหล่ะ" มันด่า
" ฮือๆกรูขอโทก็รถมันเร็วนิหว่าแล้วเมิงเชื่อกรูทำไมหล่ะสาดดด" ผมกลั้นหัวเราะ คนร้านข้าวฝั่งตรงห้ามก็มอง
"อ่าวสาดดด มานิมา" มันจับมือผมแน่น
"เมิงทำอะไรของเมิง กรูข้ามเองได้ ปล่อยเว้ย กรูอายคน" ผมไม่รู้ว่าหน้าแดงรึปล่าว รู้แต่ว่าอาย
"เมิงอายกับตายเมิงเลือกเอาจะเอาแบบไหน" สุดท้ายผมก็ยอมให้มันลากวิ่งข้ามถนน .....
"กรูว่าเมิงอยู่แถวนี้ก็ดีนะ เห็นป่าวสะดวกออก ข้างโน่นก็มีโรงบาล ข้างนี้ก็มีโรงบาล เวลาเมิงข้ามถนนโดนรถชน ปัง เดินเข้า โรงบาลต่อได้เลย สะดวกจะตาย" ผมแซวเพราะว่ามันอันตรายจริงๆแถวนั้น

.........................................................................................
เราเดินหาหอเกือบ 5 กิโล ร้อนมากครับ แสบผิวเลยฝุ่นด้วยหายใจไม่ถนัด หอส่วนใหญ่มีแต่พี่ๆชาวโรงงาน เพราะฉะนั้นสภาพหอจึง.............
"โห แมร่งกรูจะอยู่เข้าไปได้ไง แมร่ง แค่เดินผ่านมันยังทะเลาะกันโหวกเหวก กรูอยู่นี่วันดีคืนดี มันทะเลาะกับผัววิ่งเข้าห้องกรู กรูไม่โดนจาปาต้ารึว่ะ"
"อืม กรูอยู่ได้ก็เก่งแล้วเมิง แค่กรูเห็นเสาทีวีก็สยองแล้ว วันไหนไม้ไผ่ผุขึ้นมามีหวังหล่นใส่หัวกรูแน่"
"ไม่เอาอ่ะ อย่างกะหอผีสิงกรูกลัว"
.......................................................
"โอ้ยยยยแมร่งเมิงเลือกซะทีสิวะ กรูร้อนโคตรๆ แมร่ง เดี๋ยวไม่สบายกันพอดี" ผมไม่ไหว
"ก็กรุไม่ถูกใจนี่หว่า หน่านะ ทนหน่อย เป็นเมียพี่ต้องอดทนนะจ๊ะ" ตอนนั้นยอมรับว่าหงุดหงิดมาก เพราะมันเลือกโคตรๆ เกือบระเบิดอารมณ์ใส่ไปแล้วดีที่ว่า.....
"เอ้ยยย ๆๆๆเมิง หนูๆ"ผมเหลือบไปเห็นหนูนอนตายข้างกองขยะใกล้ทีน ด้วยความตกใจกระโดดขี่หลังทันควัน มือก็ตีหัวมันรัวยิกๆ มันคงตกใจ
"โอยแล้วเมิงมาตีกรูทำไม สาดดด กรูเจ็บ ลงไป" ผมได้สติ แต่ขนยังลุกเกลียว สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือ อะไรก็ได้ที่ตาย หนูเป็นไม่กลัว หมาเป็นไม่กลัว กระตายเป็นไม่กลัว (แต่ถ้านกเป็น ไก่เป็น เป็ดเป็น สัตว์ปีกเป็น กลัว หรือตายก็กลัว เพราะตอนเด็กๆเคยดูหนังจนที่มีนกอินทรีตัวใหญ่ๆ ไม่รู้ใช่เอี๊ยก๊วยรึป่าว เลยฝังใจ อิๆ เป็นคนกลัวอะไรที่มีขนๆ) ถ้าทุกอย่างนอนตายกลัวหมด แม้แต่มด
"เมิงมันตายแล้วจะกลัวทำซากอะไร" ผมหันหลังไปมอง เห็นพวกวัยรุ่นเดินตามหลังมา ท่าทางก็นะ น่ากลัวหน่อยนึงเดินหัวเราะตามหลัง มันเลยคว้าคอผมกอดแน่น
"เมิงจะกอดคอกรูทำไม กรูเหนียว "ผมพยายามแกะมือมันออก
" เหอะหน่า" ยอมกรูไปเหอะ"
.................T-T
.........................................................................................
.........................................................................................
.........................................................................................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:02 pm

"โอย ออ้ย กรูเมื่อยแล้วว่ะเมิง พากรูออกไปจากที่นี่เหอะ เมิงดูน้ำมูกกรูไหลเป็นทางแล้ว" ผมเงยหน้าให้มันดู เนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้
"มา" มาเอาทิชชู เยินๆมาซับจมูก
"ไปก้ไป เดี๋ยวนั่งรถไปลงตลาดหัวตะเข้ หาแถวนั้นอีกที่เดียวแล้วกลับก็ได้ กณุก็เมื่อยสาดดเหลือนกัน"
เราข้ามถนนอีกแล้ว กลัวจริงๆถนนแถวนั้น คราวนี้ผมไม่ยอมให้มันจับมือแล้ว
"เอาจับสายสะพายกระเป๋ากรูแทน"
..........................................................................
เรานั่งรถ 2 แถวมาลงตลาดหัวตะเข้ หน้าโรงบาลลาดกระบัง
"เดินข้ามไปซอยนี้ดีกว่ากรูชอบ มันร่มรื่นดี" มันเดินนำผม หน้าดำยังกะโดนของ
" เฮ้ยกรูปวดเยี่ยวเมิงรอตรงนี้ก่อนนะ" ผมบอก พลางวิ่งเข้าไปในที่ว่าการฯ เยี่ยวเสร็จออกมา มันหายไปไหนไม่รู้ เดินหันไปหันมา ตาเหลือบไปเห็นท่าน้ำเลยเดินไป เห็นมันนั่งจ่อมอยู่ตรงนั้น
"กรูชอบตรงนี้ว่ะเมิง ทำให้กรูคิดถึงบ้าน " ผมก็ชอบนะ มันร่มรื่นมาก มีสะพานข้ามไปอีกฝั่ง อีกฝั่งน่าจะเป็นเทคโนฯ
"กรูจะเอาแถวนี้แหละ" มันลุกพรวด เดินไปหอเพิ่งสร้างซอยข้างๆทันที
"อะไรของมันวะ" นึกจะไปก็ไป ผมเกาหัวหยิกๆ
..........................................................................
สรุปมันเลือกหอ......ที่อยู่ติดคลองตรงนั้น ผมล่ะโล่งอกซะทีที่มันหาได้ซะที
"วันไหนเมิงเข้ากะดึก เมิงมานอนกับกรูนะ เดี๋ยวกรูจะจัดห้องไม่ให้รก ตอนค่ำ เราก็มานั่งเล่นตรงนี้กัน เฮ้อออออ นึกแล้วก็อยากจะย้ายมาไวๆ........ว่าแต่เมิงไม่อยู่กับกรูจริงเหรอ"
ผมฟังแล้วร้าวๆในใจยังไม่รู้ครับ บอกไม่ถูก นี่ผมทำผิดไปรึปล่าวที่ไม่บอกมันตั้งแต่วันแรกที่รู้ ผมทำผิดไปแน่ๆ
..........................................................................
"เมิงจะไปเดินดูในแอรืพอร์ตอีกป่าว" มันถามขณะอยู่ในแท๊กซี่
"เมิงดูสภาพกรู ไหวอีกก็บร้าแล้ว กรูอยากกลับบ้านนนนน"
สุดท้ายเราทั้งคู่ก็นั่งรถสายเดิมกลับบ้านด้วยความเหนื่อยเพลีย ผมนั่งริมหน้าต่างตามเคยด้วยความเหนื่อย ผมจึงผล๋อยหลับ อ้าปากหวอ
.................................
.......................
..................
.............
........ ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงโทรศัพท์ ผงกหัวขึ้นมา อ้าว ไอ่อ้อย มันไมหัวเมิงมาอยู่บนบ่ากรู มิน่า กรูถึง เมื่อยๆ...ผมยักไหล่ให้มันตื่น 2ครั้งก็แล้ว 3ครั้งก้แล้ว ยังไม่ตื่นนะเมิง ตามแผนที่คิดทันที ผมใช้ดรรชนีนิ้วชี้ของผมนี้ปาด ปราดดดดดดดดด ไปที่ปากมัน
"ทุ้ยๆ แหวะ" ได้ผลครับ แสดงว่าแกล้งหลับ
"แมร่ง มือเค็มสาดดด" มันเอามือเช็ดปาก
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา อ้าว พี่โบ้นิ
"ดีเพ่" ทักไปงั้นๆแหละ
"ดี ตกลงวันเสาร์เอาไง"
"โห เจ๊ จะไม่ถามสารทุกข์สุขดิบหน่อยเหรอ" ผมแหย่แกเล่น
"ไม่หล่ะ ชั้นรู้อยู่แล้วว่าแก สบายดี ว่าไง ชั้นอยากรู้"
"เออ ผมกล่อมมันได้แล้วหล่ะ หลอกว่าไปดูคอนเสิร์ต หนุ่มบาว-สาวปาน"
"เยี่ยมจริงๆ น้องร๊ากกก แล้วนี่อยู่ไหนเนี๊ยะ"
"อยู่บนรถ กลับมาจากหาหอกับไอ่อ้อย"
"เค้าอยู่กับแกเหรอ"
"อืม"
"ขอชั้นคุยหน่อยดินะ" ผมหันไปมองหน้ามัน เฮ้ออ ไร้เดียงสาเจงๆ ไอ่อ้อยเอ้ยยยยยย
..........................................................................
ผมยื่นโทรศัพท์ให้มัน มันทำหน้างงๆ ผมเลยยัดใส่มือมันเลย พลางเมินหน้าหันไปทางอื่น เพราะไม่อยากได้ยินที่เค้าพุดกัน มันยังไงไม่รู้ แต่มันก็ดั้นได้ยิน
"อะโหล"
"................."
"ดีครับ ใครอ่ะ"
"................."
"จำไม่ได้อ่ะ ความจำสั้น"
"....................."
"ไม่รู้ ไม่รู้จัก"
".................."
"ขอบใจ ว่าแต่มาทำไม"
"................."
"ไม่ว่าง มีนัดกับเป็ดแล้ว"
"..............."
"อะไร พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง"
".................."
"รู้ได้ไง"
"......................"
"เฮ้ยพูดอะไรวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง ไม่คุยแล้ว "
มันยื่นโทรศัพท์ให้ผมหน้าตาบูดบึ้ง
"เป็นไงพี่" ผมถาม
"มันด่าชั้นแก มันด่าว่าชั้นพูดไม่รู้เรื่อง แต่ไม่เป็นไรหรอก แบบนี้แหละชอบ ดิสซ์ดี ตบจูบๆ"
"พอเหอะเจ๊ เเป็นว่าแค่นี้นะ"
ผมวางสาย หันไปมองหน้ามัน
"ใคร" มันจ้องหน้าคาดคั้นความจริง
"เพื่อนน่ะ "
"แล้วมารู้จักกรูได้ไง" ตามันจะหลุดออกมาแล้ว ดูดิ ผมหลบตา
"กรูเล่าให้มันฟัง มันก็แค่อยากรู้จัก กรูบอกว่าเมิงนะหล่อ นิสัยดี น่าร๊ากกกก" พยายามทำตัวให้ตลกสุดชีวิต
"ทีหลังไม่ต้องนะ ยุ่งเรื่องของกรูระวังเหอะเมิง กรุจะปล้ำไม่ทันให้เมิงหรอก แมร่งสาดดดด เจือกจริงๆ"
โดนไปชุดใหญ่ จ๋อยไปเลยผม คิดในใจจะรอดมั๊ยเนี๊ยะ คู่เนี๊ยะ (จริงๆวันที่ไปดูหอ ถ่ายรูปกันไว้หลายรูป อยากเอามาลง แต่ว่าลงไม่เป็น อิๆ)
.........................................................................
ผมลงรถหน้าซอยบ้าน มันนั่งต่อไปลงที่หอมัน ฝนตกปรอยๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย
ผมเดินก้มหน้า คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่แล้วมันก็วกกลับมาเรื่องมันอีกอยู่ดี ผมถามตัวเองว่า นี่มันเข้ามาอยู่ในสมองจนแคะไม่ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมแปลกใจที่เมื่อก่อน แม้แต่หน้ามันผมยังนึกไม่ค่อยออก แต่ตอนนี้มันชัดเจนทุกอย่าง มันค่อยๆซึมเข้ามาในชีวิตผม เหมือนส้วมซึม แล้วในที่สุด มันก็มาครอบงำความคิดผม เข้ามาทำให้ผมคิดแต่เรื่องมัน
"อืม เมิงเก่ง" ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ
..........................................................................
เช้าวันเสาร์ผมเข้ากะเช้า มันหยุด เลิกงานบ่าย 2 โทรหาพี่โบ๊ พี่โบ๊บอกว่าให้ผมเอารถไป อย่าให้มันเอารถไป แล้วทีนี้พี่โบ๊จะจัดการให้มันไปนั่งรถพี่โบ๊เอง ผมฟังแล้วก็ อือๆตาม แต่ในใจนึกโกรธตัวเองจริงๆ ผมไม่ได้อยากให้มันมีอะไรกับพี่โบ๊ ไม่ได้อยากให้เค้าทั้งคู่เป็นแฟนกัน ผมไม่ได้อยากยกมันให้ใคร เพราะมันไม่ใช่สิ่งของ มันมีค่ากว่านั้น............................... ผมแค่อยากให้มันมีใครสักคน ตอนที่ผมไม่อยู่ อยากให้มันคิดว่าชีวิตนี้ยังมีคนที่มันน่าจะลองคบหาดูอีกมากมาย แต่พอเหตุการณ์มันยิ่งกลายเป็นแบบนี้ มันก็เหมือนผมยิ่งผลักไสมันให้ออกไปจากชีวิตผม..............................................................................กรูขอโทษเมิงว่ะ ...อ้อย T_T
..........................................................................
"ออดดดดดดดดดดดดดดดดดด" เสียงออดยาวเหมือนคนกดออดไม่เป็นแบบนี้ ผมแทบจะไม่ต้องชะโงกหน้าไปดูเลยว่าเป็นใคร
"เฮ้ยยย แต่งตัวดีๆกับเค้าก็เป็นนิ" ผมมองมันแปลกตาไป เพราะปกติมันแนวซกมก
"อ้าวว เดทครั้งแรกกรูก็ต้องหล่อเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เมิงจะได้ไม่อายใคร" เฮ้อออออออ อ้อยยย เอ้ยยย กรูไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วว่ะ
"เออ เมิงรอก่อนกรูอาบน้ำแป๊บนึง จะแต่งตัวให้หล่อไม่แพ้เมิง เมิงจะได้ไม่อายใครเหมือนกัน" ผมพูดไปเพราะอยากเอาใจมัน
"เฮ้ยยยๆ จริงเหรอๆ วิ้วๆ" อืมมม ชาติที่แล้วมันเคยเป็นนก
ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัว ด้วยใจหดหูกว่าทุกวัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเศร้า อาจเป็นเพราะ
- ผมใกล้จะต้องไปทำงานแล้ว
- ผมจะต้องจากแม่ จากน้อง จากที่ที่เคยคุ้นตา
-ผมจะต้องจากคนที่ผมรู้สึกดีๆด้วยหลายคน โดยเฉพาะมัน ผมเศร้ากว่าที่ต้องจากกับแฟนเก่าผมแน่นอน เพราะครั้งนั้น เราจากกันโดยที่อีกคนหมดรัก แต่ครั้งนี้ เราต่างจากกันทั้งที่ยังเป็นห่วง ยังรู้สึกดีๆต่อกัน
- ผมอาจทำร้ายจิตใจอ้อยมากว่าที่ควรจะรู้เว่าผมจะไม่อยู่กับมันแล้ว ผมมันเลวชาติ ผมเลวจริง ผมควรจะบอกเรื่องที่ผมจะต้องไปตั้งแต่แรก อย่างน้อยมันจะได้ทำใจ.........ผมควรจะทำดีกับมันให้มากๆตอนที่เรายังเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน..........ผมไม่ควรพยายามยกมันให้กับใครทั้งที่มันอาจไม่เต็มใจ ถ้ามันรู้มันจะว่าไง ทั้งหมดนี้จะเกิดกับมันในไม่ช้านี้ ผมหนักไปสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ถ้าเกิดกับผม .............แมร่ง กรูทำอะไรลงไปว่ะ
..........................................................................

" อ้อย มานี่หน่อย มาช่วยเลือกเสื้อหน่อย" ผมตะโกนเรียก
"ตัวนี้เป็นไง กรูซื้อมาจากจตุจักร" มันส่ายหน้า
"ตัวนี้อ่ะ" ส่ายหน้า
"นี้หล่ะ" ยังไม่ถูกใจอีก
มันลุกขึ้นมาเปิดตู้ เลือกเสื้อในตู้ทีละตัว
"เอาตัวนี้แหละ กรูชอบ" มันยื่นให้ผม ผมก็แค่อยากให้มันมีความรู้สึกดีๆแค่นั้นเอง
เสื้อสีชมพูตัวเดิมที่เคยใส่ กางเกงยีนก็เดิมๆ รองเท้าผ้าใบ adidas คู่320 คู่เดิม ต่างกันตรงหัวใจมันไม่ใช่หัวใจดวงเดิมอีกต่อไป ถ้าอ้อยกับพี่โบ้เข้ากันได้ดี ผมจะดีใจแต่ส่วนลึกผมเสียใจ เสียใจที่ต้องยกคนที่ดีๆ เพื่อนดีๆให้คนอื่นเหมือนไม่รู้ค่า แต่ถ้าเค้าทั้งคู่เข้ากันไม่ได้ ผมก็คงต้องเสียใจ เสียใจที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนคนนี้ แต่ในส่วนลึกๆผมก็ยังแอบดีใจ ที่อย่างน้อย ผมก็ยังสามารถเก็บมันไว้ในใจลึกๆได้ แต่แลเวไงหล่ะ ในเมื่อวันนึงผมก็ต้องจากมันไปอยู่ดี สับสนโว้ยยยยยย
เราขับรถมาถึงตึกชาแลนเจอร์ ธันเดอร์โดม เจอพี่โบ๊อยู่ในที่ตามที่บอก
"อ้าว หวัดดี " พี่โบ้ทำเนียน
ผมหันหน้าไปมองมัน หน้ามันเจื่อนๆ งงๆ
"เอาพี่ได้บัตรนั่งมา 3 ใบ เป็ดใบนึง พี่ใบนึง ออ้ยนี่ของอ้อย" พี่โบ้ยื่นบัตรให้มัน มันหันมามองหน้าผม เหมือนขอความเห็นแบบงงๆ ผมพยักหน้าให้มันรับไป
"จะหาอะไรกินก่อนมั๊ย" พี่โบ๊หันมาถาม
"ไม่หล่ะครับ ไม่หิว" ผมตอบด้วยอารมณ์ขุ่นมัว หน้าไอ่อ้อย เหมือนผิดหวัง ที่แทนจะไปกัน 2คน กลับมีใครที่มันไม่สนิทมาอีกคน
"งั้นเราเข้ากันเลยไป" ผมเดินเข้าไปพร้อมมัน พี่โบ้ ดึงมือผม แล้วขยิบตา...................ผมพอจะเข้าใจ ถอยออกมา 2-3ก้าวเพื่อให้พี่โบ๊เดินไปข้างๆมัน ผมมองตามหลังด้วยใจหวิวๆ หรือว่ากรูเป็นส่วนเกิน.
......................................................................
..........................................................................
..........................................................................
ผู้คนเดินกรูเข้าไปในโดมมากมาย ผมเริ่มถูกเบียดออกห่างจากมันทุกที ทุกที ผมหน้าชา เหมือนโดนทิ้ง แต่จริงๆผมเองเป็นฝ่ายทิ้งมัน ผมชะเง้อหน้ามองหามัน ผู้คนยังคงเบียดเสียดกันเข้ามา แล้วผมก็เจอสายตาคู่นึง มันเองก็กำลังมองหาผม มันยกมือเรียก..........................น้ำตาผมแทบไหล มันยังคงต้องการผมแม้แต่ตอนนั้น ....ขอบใจเมิงว่ะอ้อย.............ขอบใจที่ยังเห็นกรู
.......................................
.................................
.......................
.............
.........
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:08 pm

ผมตัดสินใจเดินเบียดฝูงคนเข้าไปให้ถึงมัน เบียดเข้าไป จนในที่สุดผมก็ถึงที่มันยืนอยู่
"แมร่งเดินช้าๆแบบนี้ เดี๋ยวก็หลงกันหรอก ฟายเจงๆ มา" มันยื่นมาจูงมือผมอีกครั้ง ผมอุ่นใจอย่างประหลาดเลยครับตอนนั้น
..........................................................................
พี่โบ้เป็นคนเดินหาเก้าอี้ เราเจอที่ที่เราได้นั่ง พี่โบ้ขยับเก้าอี้ตัวแรกให้ไอ่อ้อยนั่ง
"ขอบคุณครับ" มันขอบคุณพี่โบ๊เบาๆ พลางเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง ตอนนั้นผมยังไม่ทันคิดทำท่าจะนั่ง แต่พี่โบ๊ดึงมือไว้บอกว่า
"นี่เก้าอี้แกอยู่ตัวนี้ " แล้วแกก็นั่งที่ที่ผมถูกร้องขอให้นั่ง
ผมโกรธมากครับตอนนั้น แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า เราอยากให้เค้ารู้จักกันไม่ใช่เหรอ เราเป็นคนทำเรื่องนี้เองไม่ใช่เหรอ แล้วจะไปโกรธใคร
มันหันมามองผม แล้วหันไปมองพี่โบ๊ เหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่โบ๊กับผมทำ
.................ผมปล่อยให้การแสดงผ่านไป (ต้องขอโทษสาวก af3 ด้วยนะครับ หากคำพูดบางคำพูดต่อนี้จะไปลบหลู่แฟนคลับเข้า) โดยที่ไม่ได้สนใจเลย แต่รู้สึกว่า เรามานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ เสียงของนักร้องแต่ละคนที่ร้องออกมาไม่ได้ทำให้ผมตื่นจากภวังส์มาสนใจสิ่งที่อยู่บนเวทีเลยสักคน ผมยังคงต้องทนกับเสียงกรี๊ด 8 หลอดของพี่โบ๊ และเหล่าสาวกข้างหลัง ลำพังเรื่องของไอ่อ้อยก็แทบจะทำให้หัวระเบิดแล้ว ยังต้องโดนคนกรี๊ดกรอกหู ตอนนั้นมันวุ่นวายไปหมดทั้งในใจ และรอบข้าง...
............ผมเหลือบหางตาไปมองมัน นึกสงสารจับใจ ดูมันอึดอัด และไม่มีความสุขเอาเลย พี่โบ๊ก็นะ เอาแต่กรี๊ดๆนักร้องไม่สนใจไอ่อ้อยเลย ผมหันสายตากลับทันทีเมื่อเห็นว่ามันหันมามอง........................
..........................................................................
สนธิสัญญาสารภาพที่ผมเตรียมไว้ถูกใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายมันตอนที่อยู่ในรถก่อนเข้าโดม ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะได้อ่านเมื่อไหร่ แต่หวังไว้ว่าถ้ามันได้อ่านมันจะเข้าใจทุกอย่างที่ผมทำ.................................................
ผมเงยหน้าขึ้นมองว่านักร้องที่ร้องเพลงสัญญาเมื่อสายัญเป็นใคร เพราะรู้สึกว่าจะร้องดีกว่าทุกคนที่ผ่านมา ผมหันไปมองมัน มันก็ชะเง้อดูอยู่เหมือนกัน ค่อยยังชั่ว
ตุ้ย มั้งชื่อตุ้ยน่ะครับที่ร้อง ผมว่าเค้าร้องเพราะที่สุดนะ น่าจะชนะ เมื่อตุ้ยร้องจบทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิม
อยู่ดีๆ มันก็ลุกพรวดขึ้นมา
"โทดครับ" มันขอทางพี่โบ้
"กรูจะกลับแล้ว ง่วงนอน" แล้วมันก็เดินไปเลย ผมหันไปมองหน้าพี่โบ้ แล้วรีบลุกตามออกไป
"เดี๋ยวสิวะ มันยังไม่จบเลย ใกล้แล้ว" ผมเดินตามหลังมันไป แมร่งเดินเร็วโคตร
"กรูเบื่อ แมร่งเซ็ง เมิงจะดูก็ดูไป กรูเรียกแท๊กซี่กลับเอง ไปเถอะ" ผมยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดิน
"โอเค กลับก็กลับ แต่เดี๋ยวกรูไปบอกพี่โบ้ก่อน ผมหันหลังไปมองหาพี่โบ้ เห็นเดินตามมาไวๆ
"พี่เรากลับก่อนนะ" ผมบอก
"เดี๋ยวสิ ไปหาไรกินก่อน พี่เลี้ยงเอง ไปที่ร้าน...นะ"
"อ่ะ เป็ดขับรถเป็ดไปนะ ไปก่อนเลย เดี๋ยวอ้อยมากับพี่ก็ได้นะ" พี่โบ้จัดการเสร็จสรรพ โดยที่ผมยัง งงๆ อยู่ มันมองหน้าผมอีกแล้ว ผมพยักหน้า บอกให้ไปกับเค้าเถอะ แล้วผมก็เดินออกมา
.....................
..........................







..".........เดี๋ยวโว้ย กรูไปด้วย............. แมร่งทิ้งกรูสาด เดี๋ยวป๊าดดดเหนี่ยวเลย" มันทำท่ายกศอก ผมแปลกใจ
"อ้าว ไมไม่ไปกับเค้าอ่ะ" ผมถาม
"กรูไม่กล้าว่ะ ท่าทางไม่ใช่ผู้ชาย เมิงนี่จะให้กรูไปกับเค้าได้ไง ไว้ใจได้รึป่าวไม่รู้ กรูยิ่งหล่อๆอยู่" มันยิ้มเหมือนเด็กได้ของเล่น
..........................................................................
"เมิงว่าพี่โบ้เป็นไงมั่ง" ผมลองแย๊บๆถามดู
"เป็นยังไง กรูจะไปรู้เหรอ กรูไม่สนิทกับเค้าเหมือนเมิงนิ"
"อ้าว...เมิงไม่ได้อยากได้เค้าเป็นเมียแทนกรูเหรอ" ผมแหย่
"บร้าสาดดด เค้าเป็นผู้ชายนะโว้ย กรูจะไปเอาทำเมียได้ไง"
"อ้าว ไอ่เอี๊ย กรูก็ผู้ชายนะเฟ้ย ไมเมิงยังอยากให้กรูเป็นเมียเมิงเลยอ่ะ" ผมสงสัย มองตัวเองกรูไม่ใช่ผู้ชายตรงไหนหว่า
"มันไม่เหมือนกานนน กรูบอกไม่ถูกหรอก ของงี้เมิงต้องลองเอง"
"เอ้ย อย่ามาทะลึ่ง เอามือเมิงออกไป กรูขับรถอยู่ เดี๋ยวได้ตายอ่ากันทั้งคู่หรอก" มันค่อยๆเอามืออกไปจากขาอ่อนผม
"นี่เมิงว่า ถากรูสมัคร AF มั่ง เค้าจะเอากรูไม่วะ ถึงกรูไม่หล่อเท่าพวกนั้นนะเว้ย แต่เสียงกรูดี.................จากบางช่องมาเจ้าลื้มสั่นย่าข่องเร้าเมือส่ายานนน"
"พอเหอะเมิง ร้องให้ตรงวรรณยุกต์ก่อนนะ แล้วค่อยคิดจะไปสมัคร กรูว่าอยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว"
มันหัวเราะ พลางหยิบกระเป๋าสะพานจะเปิดออก
"จะทำอะไร" ผมตวาดลั่นกลัวมันเจอสนธิสัญญา มันสะดุ้ง
"กรูจะเอาทิชชู ทำไมต้องตวาดกรูด้วยว่ะ ไอ่เอี๊ย .....ตกใจหมดกรู"
"เอานี้ไป" ผมดึงทิชชูที่รถให้มันไป
..............................................................
รถจอกเลียบถนน ผมเห็นพี่โบ้ยื่นคุยโทรศัพย์อยู่ที่รถแก............คิดในใจ ไม่อยากลงจากรถเลย อยู่ในรถก็มีความสุขดีอยู่แล้ว........
...............



แต่ก็ต้องลง
..........................................................................
"สั่งเต็มที่เลยนะ พี่เลี้ยง " พี่โบ้ใจใหญ่ขึ้นมาทันที
"อ้อย อยากกินอะไร สั่งเลยนะ" พี่โบ้ส่งตาหวานให้อ้อย...อ้อยมันก็ยิ้มๆ คงอารมณ์ดีขึ้นแล้วมั้ง ผมนั่งมอง เท้ากระดิก
"กินหอยลายผัดฉ่ามั๊ยร้านนี้อร่อย" พี่โบ้ยังคงค่อยๆตะล่อม
"ไม่หรอกครับผมแพ้หอย " อืม ไอ่อ้อย เข้าทางพี่เค้าไม่มั๊ยหล่ะเมิง
"อูยย จริงเหรอ เหมือนพี่เลย แพ้หอยเหมือนกัน กินแล้วคันคอ ดูสิๆ" พลางถลกคอเสื้อ ไอ่อ้อยหัวเราะ ผมนั่งมองไม่พูดอะไร
"แกจะสั่งอะไรกินเต็มที่เลยนะเป็ด ถือว่าชั้นเลี้ยง" พี่โบ้ ส่งซิกส์
"ไอ่เป็ดมันไม่กินอะไรหรอกพี่ มันกลัวอ้วน พุงออกมาหน่อยนึง มันก็แทบบร้าแล้ว 555" อืม หัวเราะกันใหญ่เห็นกรูเป็นตัวตลก
"อ้อย นี่ตลกนะ พี่ชอบคนตลก" อืม แหวะ ชอบคนตลกแล้วไม ไม่ไปเอาตลกหล่ะ ผมคิดในใจ
"ไม่ตลกหรอกพี่ เป็นงี้มาแต่เด็ก" ตลกแ**กอะดิเมิง ถุยยย
"อืมมม แล้วหล่ออย่างงี้มีแฟนยัง" พี่โบ้ถามเข้าประเด็น
ผมนั่งลุ้น..........ว่ามันจะพูดอะไร
"ยังหรอกพี่ หน้าตา นิสัยห่วยๆแบบนี้ใครจะมาเอาผม" พูดเสร็จมันหันมายักคิ้วให้ผม
" โกหก สิ....พี่ว่าอย่างงี้ขี้คร้านสาวๆหลงคารมตึม" ใครจะเอามัน...โรคจิตแบบนี้ ผมคิด
"หลงทางเสียเวลา หลงรัชดากลับบ้านไม่ถูก" อ้าวเฮ..............หัวเราะแมร่งกันอยู่ 2 คน
ผมอยากตะโกนออกไปว่า
" กรูนั่งอยู่กับพวกเมิงอีกคนนะเว้ยยย กรูอยู่นี่"


..........................................................................

........คนบางคนเข้ามาในชีวิตเรา ไม่เหลือไว้เพียงแต่รอยเท้า.............................
เพลงใครไม่รู้ครับ แต่ตอนนี้กำลังฟังเพลงนี้อยู่ แล้วก็ขนลุก น้ำตามันก็เอ่อ ทันที เปลี่ยนเพลงดีก่า..........ไม่งั้นพิมพ์ต่อไม่ได้แน่...................................................
.........................................................................
ผมนั่งมองพวกเค้าทั้งคู่ กระเป๋าสนธิสัญญาสารภาพก็ถูกวางบนเก้าอี้อีกตัว มันยังคงนอนนิ่งอยู่ในเป้ของเจ้าของที่กำลังจะอ่านมันในไม่ช้า ดูมันเข้ากับพี่โบ้ได้ดี ผมคิดในใจ ผมควรจะสบายใจสิถึงจะถูกที่สิ่งที่ผมคิดเป็นไปอย่างที่หวัง แต่ทำไมผมกลับไม่สบายใจเลยก็ไม่รู้เหมือนกัน.....
...........อาหารถูกยกมาเสริฟ จานแล้วจานเล่า ผมนั่งมองพี่โบ้ ตักอาหารให้มัน ยิ้ม..หัวเราะกัน ทำไมมันเสียวแปล๊บที่ใจ ผมรู้สึกเหมือนโดนแย่งของรักไปต่อหน้าต่อตา
"อ้อย ถ้าพี่จะจีบอ้อย อ้อยจะว่าไง" พี่โบ้พูด ทำผมหลุดจากภวังค์ พี่โบ้กล้าพูดแบบนี้ตอนที่ผมนั่งอยู่ตรงนี้ได้ยังไง .........................
"ถ้าพี่กล้าก็ลองดิ" นั่นคือคำพูดของมันที่ทำให้สติผมหลุด ผมทนนั่งอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว ผมลุกพรวดขึ้นมา
"พี่โบ้ ผมเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ผมบอกเสร็จหยิบกระเป๋าตัวเองไปด้วย เดินออกมา หันหลังไปมอง ไม่มีใครมองตามผมเลย เฮ้ออ....................................................
ผมเดินอ้อมมาข้างหลังร้าน สตาร์ทรถ ออกไป ขับรถด้วยความเร็ว ในหัวมันสับสนไปหมด อาจเป็นเพราะรู้สึกเป็นไข้ด้วย เมื่อวานเดินตากแดดตากฝนทั้งวันเลยทำให้รู้สึกอย่างงี้...................................................
...........สติผมค่อยๆกลับมา ตอนที่จะถึงบ้าน ผมหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่โบ้ หน้าจอมีเบอร์มันโชว์อยู่นับ 10 ครั้ง
"พี่โบ้ ผมไม่สบายนะกลับบ้านก่อน" ผมบอกพี่โบ้
"เออ ตามใจแก ชั้นไม่สนแล้ว บอกเพื่อนแกด้วยนะ ว่าชั้นก็ไม่เอามันเหมือนกันแหละ " อะไรของพี่โบ้
"อะไรพี่เกิดอะไรขึ้น" พี่โบ้เล่าให้ฟังว่า พอผมหายไปนานมันก็เลยโทรหาผม โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด พี่โบ้เลยบอกว่า สงสัยกลับบ้านไปแล้วมั้ง เค้าคงอยากให้เราอยู่กัน 2 คน พี่โบ้เลยบอกว่าชอบมัน.....มันลุกขึ้น บอกพี่โบ้ว่า ผมไม่ใช่เกย์ แล้วถึงผมจะเป็นผมก็จะเป็นกับไอ่เป็ดคนเดียว แล้วมันก็เดินออกไป........................ผมฟังแล้วขนลุก ความรู้สึกผิดมันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาจุกอยู่ที่ลูกกระเดือก ผมสมควรตายจริงๆ
ผมหยุดรถ คิดว่าป่านนี้เที่ยงคืนมันจะกลับยังไง มันก็ไม่คุ้นทาง ถ้ามันหลงไปทำไง คิดเสร็จผม ถอยรถยาวจากท้ายซอย ชนหมาชนแมว เหยียบหนู ไม่สนแล้วตอนนั้น ผมจะไปหามัน กรูจะไปหาเมิงอ้อย ......
..........................................................................
ผมขับรถมาทางเดิม แต่คนละอารมณ์ ความโกรธเมื่อกี้หายไปหมด เหลือแต่ความรู้สึกผิด....................และเป็นห่วง
ผมรีบบึ่งมาหน้าร้านข้าวต้มเมื่อกี้ แต่ไม่มีใครอยู่ ผมเลยขับรถออกไปทางเดิม ผ่านหน้าปากซอยม.สุโขทัย เห็นป้ายรถเมล์ สลัวๆ พร้อมชายคนนึง..............................นั่งกุมขมับ.....................................................................................................
ผมจอดรถทันที..
..........................................................................
มันเงยหน้าขึ้นมามอง................แล้วก้มหน้าลงต่อ ผมนั่งใกล้มัน
"อ้อย กรูขอโทษนะ" มันยังไม่พูด
"ผมหันไปหามัน เอามือแตะบ่า "อ้อย กรูขอโทษ ขอโทษ ได้ยินอ้อย" เมื่อคืนผมร้องไห้ครับ สารภาพ เพราะสงสารมันจับใจ น้ำตาผมไหลหยด
"กรูไม่รู้ ไม่รู้ว่าเมิงจะทำแบบนี้ กรูขอโทษ" ผมสะอื้น
มันเงยหน้าขึ้นมา ผมต้องตะลึงกับสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า ไอ่อ้อย ร้องไห้น้ำตาเต็มหน้า ผมปล่อยโฮ เลยครับตอนนั้น ปากบอก"กรูขอโทษๆๆๆๆๆ" ซ้ำ มือก็ลูบบ่ามัน
ผมทำร้ายคนที่ดีกับผมได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ผมทำร้ายมัน
"เมิงทิ้งกรู..........เมิงทิ้งกรูเหมือนที่พ่อทิ้งกรูที่วัด" ผมเงยหน้ามาพูดแล้วก้มหน้าร้องไห้ต่อไป
ผมบอกตรงๆ ตอนนั้นใจผมเหมือนจะขาดใจ ผมหายใจไม่ออก ทันทีที่มันพูดคำนั้นจบ ผมก็คิดขึ้นมาทันทีว่า ในที่สุดผมก็เหมือนคนเลวอีกคนที่เข้ามาในชีวิตมัน ผมร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า ขอโทษคงไม่สาสมแล้วตอนนั้น...........

..........................................................................
เราทั้งคู่นั่งกันอยู่หน้าป้ายรถเมล์ ซอย ม สุโขทัย ผมจำที่นั่นขึ้นใจ ตอนนี้ก็ยังนึกถึง นึกถึงหน้าที่มันเงยขึ้นมาแล้วมีน้ำตานองหน้า
"เมิงทิ้งกรู เหมือนที่พ่อทิ้งกรูที่วัด" คำนี้เองที่ทำให้ผมน้ำตาไหล เป็นคำที่จะตอกย้ำผมไปตลอดว่า ผมได้ทำร้ายคนคนนึงได้ลึกสุดใจจริงๆ..........ช่วยด่าผมหน่อย ให้สาสมกับที่ผมทำกับมันT_T

.......................................................................
ผมยังคงนั่งเป็นเพื่อนมัน ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากทั้งผมและมัน ตี 1 กว่า รถวิ่งผ่านน้อยลงๆ ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ แต่มันตอนนี้กับตอนแรกที่ผมรู้จักเป็นคนละคน คนที่นั่งอยู่ใกล้ผมนี้ตอนนี้คือคนที่นั่งร้องให้ เหมือนชีวิตนี้ไม่เหลือใครแล้ว ผมว่ามันคงอยากลืมเรื่องที่พ่อเอามันไปปล่อยวัด มันทำบร้า ทำตลก ทำให้ตัวเองมีความสุข เพื่อที่จะฝังความรู้สึกที่ทำร้ายตัวมันเองไว้ลึกๆ แล้วมันก็เกือบทำได้แล้ว จนกระทั่งผมเป็นคน เอาเท้าไปแกว่งให้ตะกอนในใจมันฟุ้งขึ้นมาอีก.............ผมผิดเอง



.............ผมนั่งร้องให้เป็นเพื่อนมัน ไม่ว่ามันจะนั่งอยู่นานแค่ไหนผมก็จะนั่งเป็นเพื่อนมัน...............กรูจะไม่ทิ้งเมิงไปไหนอีกแล้ว....................
....................................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:10 pm

........แค่คืนนี้ กรูจะอยู่กับเมิง .......แค่คืนนี้ ที่เหลือ เมิงต้องเข้มแข็ง เพื่อตัวเมิงเอง
..........................................................................
คืนนั้นผมยังคงนั่งก้มหน้ามองเท้าตัวเองเป็นเพื่อนมัน นานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้ตัวว่าด้วยพิษไข้ และอดนอน ทำให้ผมเริ่มเจ็บคอ ตัวเริ่มร้อน ตาเริ่มล้าๆ ลายๆ
.........................................................................
ผ่านไปสักพัก มันเงยหน้าขึ้น ตบบ่าผม
"ไปกันเถอะ กรูไม่เป็นไรแล้ว" ผมมองหน้ามัน ในใจนึกชื่นชม มันเข้มแข็งกว่าที่ผมคิด และมันจะต้องเข้มแข็งต่อไป มันเดินขึ้นรถ ผมเปิดเพลงเพื่อกลบความเงียบและเสียงหายใจของเราทั้งคู่
เพลง "ทำไมต้องเธอ" เวอร์ชั่นผู้หญิงร้องเปิดขึ้นมา ผมว่ามันไม่เหมาะกับช่วงเวลานี้ ผมเลยเปลี่ยน
"อย่าเปลี่ยน กรูจะฟัง" ผมมองหน้ามันก่อนที่หมุนคลื่นกลับมา
เสียงเพลงทำลายความเงียบไปได้เยอะ ผมขับรถผ่านสายวิภาวดียามตี 2 โดยที่ตัวเองก็ตัวร้อนผ่าว วูบๆ ไอร้อนออกมาจากตัว หันไปมองมันหลับตาพริ้ม ผมว่ามันคงอยากหลับไปลย ไม่อยากตื่นมาก็ได้(คิดไปเอง).....................................เหลือบตาไปมองสนธิสัญญาสารภาพในกระเป๋า แล้วสะท้อนใจตัวเองมันจะต้องมาเจ็บอีกครั้งเพราะกระดาษชุดนั้นอีกเหรอ อยากจะดึงออกมาฉีกทิ้ง ผมไม่อยากให้มันรับรู้อะไรที่จะทำร้ายมันอีกแล้ว.....แต่ผมก็แค่คนเห็นแก่ตัว.คนนึง
...................ผมไปส่งมันที่ห้อง มันลงจากรถไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมอยากให้มันหันหลังมาด่า มาตีหัว มาชกปาก มาปล้ำ ผมคงจะรู้แย่น้อยกว่าที่มันทำอยู่นี้
ผมกลับมาถึงบ้าน กินพารา 2เม็ดก่อนนอน..........หลับไปพร้อมน้ำตา ที่ยังคงไหล......................







........ตื่นมาวันอาทิตย์ด้วยอาการไข้ขึ้น.....ผมโทรศัพท์ไปลางานกับพี่เต้ยอีกวัน พี่เต้ยด่ามา 2-3 คำ เรื่องต้องจัดเสก็ทใหม่ ด่าเสร็จแกก้ถามว่าไปหาหมอยัง....ด้วยความเป็นห่วง อือ ถึงจะด่าเก่งแต่ใจดี ผมลุกขึ้นมาต้มโจ๊ก แม่กลับมาตอนเย็น เปิดเวปพันทิพย์..................ตกใจที่กระทู้มีคนสนใจเยอะมาก ไม่คิดว่า ชีวิตคน 2 คนจะทำให้คนหัวเราะ ร้องไห้ไปด้วยได้ ผมเลยตัดสินใจไม่ออกไปไหนทั้งวัน นั่งพิมพ์เรื่องนี้ให้จบ......แต่มันไม่จบ
...................วันอาทิตย์ทั้งวัน ผมไม่ได้เจอมัน ไม่มีเสียงโทรศัพท์จากมัน ผมไม่รู้ว่ามันอ่านสิ่งที่ผมใส่ในกระเป๋าไปรึยัง ผมไม่รู้เลย
ตอนเย็นแม่กลับมา ผมลงไปนอนที่โซฟา แม่เอื้อมมือมาแตะที่แก้ม ที่หน้าผาก มือแม่อุ่น รู้สึกดีจัง
"ไม่สบายเหรอ..ลูก...." เสียงแม่อบอุ่นเสมอ เวลาไม่สบาย คนที่ผมอยากให้มาเช็ดตัวให้ที่สุดคือแม่ อยากให้แม่มาจับหน้า จับมือ ลูบขา มาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหน มันรู้สึกอุ่นใจ.........
"แม่" ผมลืมตาจ้องหน้าแม่
"ตาแดงมากเลยลูก ไปหาหมอมั๊ย" แม่มองผมด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรแม่ นอนอีกหน่อยก็หายแล้ว"
"งั้นแม่ไปต้มข้าวต้มให้นะ จะได้กินยา" แม่เอามือมาแตะที่หน้าผากผมอีกครั้ง..............ผมดึงมือแม่มาหอมตอนนั้น ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมร้องไห้โฮกับมือแม่เลยครับ ความรู้สึกเหมือนตอนเด็กๆที่ถูกเพื่อนแกล้ง แต่ไม่กล้าบอกใคร ไม่มีใครถามไม่มีใครสนใจ จนกลับบ้านแม่ถามว่าเป็นอะไรลูกแล้วผมก็จะร้องไห้สะอื้น............ผมตอนนั้นก็คือเด็กคนนั้นนั่นเอง................
ผมยังมีแม่ที่ผมร้องไห้ด้วยได้ คอยถามว่าเป็นอะไรมั๊ย ไม่สบายเหรอด้วยความเป็นห่วง แต่มัน............มันไม่มีใครเลย มันอยู่มาได้ยังไง ...........ผมสงสัย
..........................................................................
แม่คงตกใจว่าผมเป็นอะไร เพราะตอนนั้นร้องไห้นานมาก
"ดีขึ้นรึยังลูก" แม่ถามเมื่อเห็นผมค่อยๆคลายมือจากแม่
"เป็นอะไรรึปล่าวให้แม่ฟังได้มั๊ย" แม่ถาม ผมอยากจะเล่าให้แม่ฟังใจจะขาด แต่ในเมื่อผมยังไม่รู้เลยว่าทำไมผมต้องร้องไห้เยอะขนาดนี้ ผมเล่าให้แม่ฟังไม่ถูก
"เปล่าแม่ แค่เหนื่อยๆ.............แม่" ผมเรียกแม่ ทั้งที่แม่อยู่ตรงหน้า
"อือ" แม่ตอบเรียบๆ
"แม่ถ้าหนูไปอยู่ที่โน่นแม่จะคิดถึงหนูมั๊ย"
"คิดถึงสิ เราไม่เคยอยู่ไกลๆกัน นานๆเลยนะ"
"แล้วแม่จะทำยังไงถ้าแม่คิดถึงหนู"
"แม่ก็จะโทรหาไง"
"แล้วถ้าหนูต้องทำงาน ต้องบิน ไม่ได้รับโทรศัพท์หล่ะ"
"แม่ก็จะเอารูปลูกมาดู" แม่ลูบหัวผมเบาๆ
"ลูกไม่ต้องห่วงแม่กับน้องหรอก เราอยู่กันได้ อย่าลืมว่าแม่อยู่มาได้ 10กว่าปีโดยที่ไม่มีพ่อ .....แม่อยู่ได้ ลูกก็ต้องอยู่ได้........ไปทำสิ่งที่ลูกชอบเถอะนะ ...แม่จะรออยู่ที่นี่แหละ".............เฮ้อออ แม่พูดยาวครับ แต่ผมจำได้ประมาณนี้น่ะ
"แม่" ผมยังคงเรียกแม่อีกครัง
"ถ้าให้ไอ่อ้อยเป็นลูกแม่อีกคนแม่จะว่าไง"......แม่หัวเราะ....................................
..........................................................................
คืนวาน ผมเปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้ทั้งคืนหวังในใจว่า มันโทรมา ผมจะได้ตื่นรับ
..................................ผมนอนรอโทรศัพท์เกือบตี 2 จึงผล๋อยหลับไปโดยไร้เสียงเรียกเข้า หมาจะเกิด :-)...
ตื่นมาวันนี้อากาศข้างนอกหม่นๆ เหมือนความรู้สึกผม รีบหยิบโทรศัพท์มาดูเผื่อมีเบอร์มันโทรมา



....................................
...........................






ไม่มีเบอร์มันสักเบอร์ ผมเจอแต่ mms 1 ข้อความ เปิดออกอ่าน
---------------" When I am feeling blue" --------------
แล้วก็มีเสียงเมโลดี้เพลง ซึ่งเศร้ามากครับ ความรู้สึกผมเมื่อเช้าเศร้ามาก..........ข้อความถูกส่งมาจากไอ่อ้อย
ผมรีบเปิดคอม seach หาในข้อมูลเพลงนี้ทันที
ทันทีที่เมโลดีเพลงขึ้นผมเหมือนถูกสะกด ผมนั่งนิ่ง น้ำตาที่เคยเหือดแห้ง มันเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งฟังไปเรื่อยผมยิ่งน้ำตาไหลพราก กรูเข้าใจเมิงแล้วว่ะ อ้อย กรูเข้าใจเมิงจริงๆ ผมนั่งฟังเพลงนี้ถ้านับจากตอนเช้าจนถึงตอนนี้เกือบร้อยรอบ ถ้าตอนไหนที่อยากให้คนอ่านได้หัวเราะ ผมจะปิดมัน และเปิดวิทยุ แล้วผมก็จะกลับมาฟังเพลงนี้อีก
ผมอยากให้คนที่อ่านเข้าใจความรู้สึกผมตอนนี้เหลือเกิน และอยากให้เข้าใจความรู้สึกมันจากเพลงๆนี้ แต่สำหรับผมมันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อผมยังคงทำร้ายจิตใจมัน ผมไม่ควรได้รับความเห็นใจจากใครทั้งนั้น
.........................................................................
..........................................................................
ระหว่างที่เพียรพิมพ์ข้อความให้เพื่อนอ่าน ผมพยายามโทรหามันเกือบร้อยรอบ รู้ทั้งรู้ว่ามันทำงาน ไม่ใช้โทรศัพท์ผมก็ยังโทร... ผมสังหรณ์ว่ามันจะอ่านสนธิสัญญาสารภาพแล้ว แต่ผมไม่สามารถเดาใจมันได้ว่ามันจะรู้สึกยังไง กรูไม่รู้ว่าเมิงคิดยังไง
ผมฝากข้อความไปนับสิบครั้ง
"อ้อย กรูอยากคุยกับเมิงนะสาดดดโทรหากรู ก่อนกรูเข้ากะนะ"
"อ้อย โทรหากรูด้วย กรูมีเรื่องจะคุย"
"อ้อย กรูอีกแล้วนะ เมิงคิดอะไรอยู่ กรูห่วงเมิงได้ยินมั๊ย โทรหากรูด้วย"
"อ้อย ถ้าได้รับข้อความนี้นะ กรูขอร้องโทรหากรูนะ"
"ไอ่สาด ไอ่เอี๊ย ถ้าเมิงไม่โทรหากรูนะ กรูจะ...(นึกไม่ออกเลยกดวางไป)"
ณ ตอนนี้ 16.30 โทรศัพท์ผมยังคงเงียบ ผมต้องไปเข้างานตอนทุ่มครึ่ง แล้วผมจะทำงานได้ยังไง


ผมตัดสินใจยื่นจดหมายลาออกวันนี้ ตอนไปทำงาน








หนังสือลาออกวางอยู่บนโต๊ะ ถามใจตัวเอง ถามแม่ อ่านความเห็นเพื่อนๆในนี้ มันเป็นการตัดสินใจที่ผมว่าลำบากที่สุดในชีวิต ยังมีคนอีกคนที่ผมอยากปรึกษา อยากคุย อยากถาม อยากรู้ว่ามันคิดยังไง อ้อย...กรูต้องการเมิงนะโว้ยตอนนี้ ไอ่เลวววววว






ผมลาออกคืนนี้ หลังจากคืนนี้ผมคงไม่ได้ไปทำงานอีก เพราะจะใช้วันลาสะสม ลาต่อเลย ผมอยากใช้ชีวิตที่นี่กับครอบครัวให้ได้มากที่สุด รวมทั้งเมิงด้วยนะอ้อย







กรูจะลาออกแล้ว เมิงโทรหากรูหน่อยได้มั๊ย T_T
..........................................................................
ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ และมิตรภาพจากในห้องนี้นะครับที่อยู่เป็นเพื่อนผม มาตลอด
บทสรุปมันคงมาถึงแล้วหล่ะครับ.......................
.........ผมควรจะจบมันได้แล้ว...............................







เรื่องในนี้อาจจะจบแค่นี้
แต่
ชีวิตจริงของผมยังไม่รู้จะไปทางไหนต่อ
มันยังคงไม่โทรมา
ผมยังอยากคุยกับมัน
ยังอยากมานั่งเล่าความหลังเรื่องผมกับมันให้เพื่อนๆในนี้อ่านอ่าน (มันมีความสุจทุกครั้งที่นึกถึง)
ยังอยากอ่าน ค หที่ตลกๆของเพื่อนๆ
สำหรับบางคนที่สงสัยว่าตกลงผมคิดยังไงกับอ้อย

ถามผมว่าผมรักมันมั๊ย-----ตอนนี้ผมรักมัน
ห่วงมันมั๊ย-----------------มาก
หวงหล่ะ-------------------นิดหน่อย
แล้วเรื่องบนเตียง----------ไม่เคยคิด
ถ้าต้องไกลจากมัน--------ผมคิดถึงมัน
ถ้ามันโกรธ----------------ผมจะง้อ
ถ้ามันร้องไห้อีก-----------ผมจะร้องไห้เป็นเพื่อนมัน
ถ้ามันอยากกอดผม-------ผมจะกอดมันตอบ
ถ้ามันอยากสระผมให้ผม--ผมจะสระผมให้มันแทน
ผมแค่อยากอยู่เป็นเพื่อนมัน ดูแลมัน
ถ้าทั้งหมดนี้ เอามาผสมรวมกันใส่ไมโครเวฟ กิ๊ง เอาออกมา กลายเป็นคำว่า ผมเป็นเกย์ งั้นผมยอมรับว่าตอนนี้ผมเป็นเกย์แล้ว ผมเป็นเกย์เพื่อมัน.......T_T







แต่สุดท้ายมันก็ต้องจบ ที่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผม
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด ขอจบรายการเพียงแค่นี้
.

.
..
. ขอบคุณครับ
..........................................................................
ผมเพิ่งกลับมาจากอยุธยา.... บ้านมัน ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ผมขับรถ น้ำตาไหลทั้งขาไป.......
..................






...................
และขากลับ..............
ผมเหนื่อยครับ เหนื่อยจริงๆ หัวใจผมยังคงร่ำร้องอยากจะหามันให้เจอ แต่ร่างกายผมมันไม่ไหวแล้วครับ .........ผมเหนื่อย
กลับมาถึงบ้านเปิดคอม มาอ่านกระทู้ที่ตัวเองตั้งไว้ ยังคงมีเพื่อนคอยเป็นกำลังใจ ผมนั่งอ่าน ค.ห ของแต่ละคน ทุกคนร้องไห้เพราะเรื่องของผม เหมือนทุกคนเข้าใจความรู้สึกผม ผมตื้นตันใจจริงๆครับ น้ำตาผมไหลอีกครั้ง ดูเหมือนมันจะไม่มีวันหมดด้วยซ้ำ ผมร้องไห้ไปพร้อมๆกับ ค.หของเพื่อนๆ ผมร้องร้องไห้พร้อมๆกับพวกคุณ..........เหนื่อยจังเลย
.........................................................................
"อะไรของเมิงอีก จะลาออกอีกแล้ว" พี่เต้ยส่ายหน้า
"ครับพี่ ผมได้งานใหม่เป็น.....ที่"
"เออ ดี ลาออกกันให้หมด กรูก็ต้องทำแทนพวกเมิง" พี่เต้ยโยนจดหมายลาออกของผมลงบนโต๊ะ
"มีใครลาออกอีกเหรอครับ" ผมสงสัย
"ก็ไอ่อ้อยนะสิ พวกเมิงเป็นเอี๊ยอะไรกันหมด งานกรูเจ๊งหมด"
.......................................................................
ผมขาอ่อน ทรุดลงไปนั่งกับเก้าอี้ พี่เต้ยพูดอะไรอีกมากมาย แต่มันไม่เข้าหูผมเลย ภาพต่างๆเข้ามาในหัว อ้อยลาออก ลาออกเพราะอะไร ทำไมไม่บอกผม แล้วตอนนี้มันอยู่ไหน ผมเป็นห่วง
"พี่เต้ย ผมขอกลับบ้านได้มั๊ย.....ผม...เอ่อ....ไม่ค่อยสบาย" ผมพูดโดยไม่ทันคิด เพราะใจตอนนั้นอยากไปหามันที่หอให้ได้
"นี่เมิง จะให้กรูกราบเท้าเมิงขอให้เมิงช่วยงานกรูก่อนมั๊ย" พี่เต้ยเรียกสติผมกลับมา
ใช่นี่หว่า ผมต้องทำงาน มันเป็นหน่าที่ของผม ถึงแม้ใจผมจะไม่ที่งานแล้วตอนนั้น แต่ผมต้องทำงาน มันเจ็บปวดมากครับ เจ็บจริงๆผมบอกไม่ถูก ผมเหมือนคนไม่มีวิญญาณ สติผมล่องลอย ผมจะอธิบายยังไงให้เข้าใจดี.................


ผมเอาของไปเก็บในล๊อคเกอร์ในห้องน้ำ ตามองเห็นล๊อกเกอร์มัน....รูปซีดานยังแปะ อยู่ ผมเปิดออกดู
.....................................







............มันว่างปล่าว หัวใจมันก็คงว่างปล่าวเหมือนล๊อกเกอร์ของมัน ผมเอามือลูบล๊อกเกอร์มันเบาๆ
...........................................................................

ผมไขกุญแจล๊อกเกอร์ของผมเพื่อจะเก็บกระเป๋า............ ทุกอย่างที่ผมทำตั่งแต่ก้าวเท้าเดิน พูดทักทาย เอื้อมมือเปิดล๊อกเกอร์ ล้วนมาจากการสั่งการของสมองทั้งสิ้น แต่หัวใจผมตอนนั้น มันเหมือนลูกลิงที่วิ่งตามหาแม่ของมัน มันลุกลี้ลุกลน กระวนกระวาย แต่ขณะเดียวกันกันก็ห่อเหี่ยวและโหยหา......................

.............ล๊อกเกอร์ผมเหมือนเดิมทุกอย่าง ยกเว้น.....







.


.

.
.
ซองจดหมายสีขาวที่สอดแนบอยู่ติดกับบานประตูล๊อกเกอร์
......................................มือผมสั่นเทา
..........................................................................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:22 pm

"....เป็ด....
เมิงไม่ต้องขอโทษกรูหรอก เมิงไม่ได้ทำอะไรผิด กรูต่างหากที่ต้องขอโทษเมิง ที่ไม่ยอมโทรหา ที่ต้องทำให้เมิงเป็นห่วง กรูอยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงกรู เมิงไปตามทางของเมิงเถอะ ชีวิตของเมิงกำลังจะไปได้ดี กรูไม่เสียใจที่เมิงไป แต่กรูไม่อยากเจอหน้าเมิงเพื่อบอกลา ชีวิตนี้กรูขอลาแม่กรูแค่คนเดียวเท่านั้นพอ กรูทำใจรับไม่ไหวจริงๆ.......เมิงไปเถอะ กรูยังอยู่...ที่ไหนสักแห่งนี่แหละ.... นะ
ขอบใจที่ทำให้ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าจะได้เจอเมิง มันมีความหมายกับกรูจริงๆ แล้วถึงวันหนึ่งวันที่กรูตื่นขึ้นมาแล้วไม่สามารถตอบตัวเองได้อีกต่อไปว่ากรูจะไปทำงานเพื่ออะไร กรูจะไม่ได้เจอเมิงอีก กรูจะไม่ได้นั่งกินข้าวกับเมิง ไปทำไฟล์กับเมิง กลับบ้านพร้อมเมิง นั่งคุยที่โต๊ะตัวเดิมกับเมิงอีกต่อไป กรูทำใจไม่ได้จริงๆ
อย่าให้กรูเป็นตัวถ่วงเมิงเลย ตอนนี้ชีวิตกรูเหลือศูนย์เหมือนที่เมิงเขียนในหนังสือที่ให้กรูอีกแล้ว.........แต่ชีวิตเมิงกำลังนับหนึ่ง ไปเถอะนะ ไม่ต้องห่วงกรู กรูจะอยู่ในที่ที่กรูควรอยู่ และเมิงเชื่อกรูได้เลยว่า......กรูไม่มีทางลืมเมิงเลย
ฝากขอบคุณคนที่มาตอบในหนังสือที่ให้กรูด้วยนะ ขอบคุณจริงๆ สำหรับกำลังใจ ว่างๆกรูจะเข้าไปอ่าน ขอให้กรูเข้มแข็งมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก่อน หนังสือที่เมิงให้จะอยู่เป็นเพื่อนกรูตลอดไป เพราะกรูอ่านมันทีไรกรูก็ได้หัวเราะทุกที มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้กรูนึกถึงเมิง ส่วนความรู้สึกที่กรูรู้สึกกับ เมิงคงได้รู้จากเพลงที่กรูส่งให้แล้วนะ ถึงมันจะน้ำเน่า ถึงมันจะเหมือนเด็กๆ แต่กรูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ กรูจะไม่พูดอะไรอีก
โชคดีนะ....เพื่อน(คนเดียวที่กรูรักที่สุด)
เมิงคงไม่มีวาสนาได้เป็นเมียกรูแล้วหล่ะ ฮ่าฮ่าๆ"

..........................................................................

ผมนั่งลงอ่าน จม มันซ้ำแล้วซ้ำอีก วนไปวนมา น้ำตาแมร่งไหลอีกจนได้ ผมเหมือนคนเสียสติไปแล้ว ทำไมมันเหมือนในละคร ใครประพันธ์บทละครเรื่องนี้ ผมสงสัย?... คุณใจร้ายมากที่เล่นตลกกับชีวิตผมอย่างนี้...........

เมื่อคืนผมแทบจะไม่อยู่ในออฟฟิส เพราะมันเงียบและเหงาเหลือเกิน ทุกที่ ผมเห็นเป็นภาพมันไปหมด ตรงโน่น มันเตะบอลอยู่ ที่ริมบึงมันนั่งรอผมอยู่ ที่canteen มันล้างช้อนให้ผมอยู่ ที่บอร์ดมันกะลังอ่านว่าใครจะทำงานกับมันอยู่ ประตูทางออก ที่จอกรถ ล๊อกเกอร์ แม้แต่โถเยี่ยวประจำ ล้วนมีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับมันทั้งสิ้น....ผมไม่อยากเห็น ผมมานอนในรถในสนามเพื่อรอคำสั่งจากหัวหน้า
"กรูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้เมิง"
"กรูซื้อน้ำเต้าหู้มาอยู่บนโต๊ะ กินให้หมดด้วย เสียดายของ"
"ไอ่สาดดด ไม่รอกรูเลยกรูหนักนะเว้ย"
"กรูเช็ดอ๊วก ซักผ้าให้เมิง"
"เมียกรูจะได้ไม่อายใครไง"
"เมิงผมสวยนะ ใช้แชมพูยี่ห้อไร"
"ขอกรูนอนกอดเมิงทั้งงคืนได้ป่าววะ
"เมริงทิ้งกรู เหมือนที่พ่อพ่อกรูทิ้งกรูที่วัด"
"ไปกันเถอะ กรูไม่เป็นไรแล้ว"
ผมไม่ไหวแล้วครับ ทรมานจริงๆ
.........................................................................
ผมจะไม่ยอมให้มันจบแบบนี้ ผมจะหามันให้เจอในเวลาที่เหลืออยู่ ผมจะต้องได้คุยกับมัน มันต้องไม่ขบแบบเจ็บปวดแบบนี้ ผมจะไม่ยอมเอาความทุกข์ไปทำงานด้วย และผมจะไม่ยอมให้มันต้องทนทุกข์อยู่คนเดียวด้วย
.........................................................................
เลิกงานผมลาพี่เต้ย น้ำตาผมรื้อๆเพราะอดใจหายไม่ได้ ลาเพื่อนร่วมงาน ผมเดินออกมา หันหลังไปมองที่ที่ทำให้ผมได้เจอเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกเป็นครั้งสุดท้าย
"ลาก่อนนะ" ผมพูดเบาๆ ก่อนตัดสินใจขับรถไปหามันที่หอ
..........................................................................
7 โมงเช้า ผมขึ้นไปที่ห้อง 410ที่มันอยู่ รองเท้าไม่อยู่หน้าห้อง ใจผมหายวาบบ ผมเคาะประตู บิดลุกบิด เรียกชื่อมัน ไม่มีเสียงตอบกลับมา ผมเคาะอีก เคาะอีก เคาะ เคาะ เคาะ เคาะ เคาะ เคาะ ดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้น ๆๆๆๆๆๆ
"ไอ่อ้อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ผมเรียกซ้ำๆ ข้อมือผมแดง เจ้าของหอขึ้นมาดู
"อ๋อ น้องเค้าไม่อยู่แล้วหล่ะ ขนของไปตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ค่ามัดจำก็ไม่เอา"

























.............มันอะไรกันนักกันหนา ทำไมต้องลงโทษผมอย่างงี้ด้วย ผมตัวชา หน้าชา ฤทธิ์ไข้ยังส่าง แต่มันไม่ใช่อุปสรรคแม้แต่น้อย ผมบึ่งรถมุ่งหน้าไปอยุทยาทันที
"พี่เต้ย ผมจะไปยุดยา ขอที่อยู่ไอ่อ้อยหน่อย" พี่เต้ยคงเข้าใจผมนะ
ผมจขับรถไปร้องน้ำตาไหลไป ผมหยิกขาตัวเอง ทุบขาตัวเอง ตีหัวตัวเอง เพราะผมรู้สึกว่าผมผิดตลอด ผมแมร่งเลว ชั่ว แล้วผมก็ร้องอีก...................ตลอกทาง
บ้านมันเป็นตึกกึ่งไม่กึ่งปูน โทรมๆ ผมจอดรถ หมาเห่าเกลียว หัวใจผมเต้นอีกครั้งด้วยความหวังว่าจะได้เจอมัน
ผมเดินไปหน้าบ้านชะโงกหน้าไปดูไม่เห็นใคร เดินไปข้างบ้านเจอหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดี ผมยกมือไหว้
"ผมมาหาอ้อยครับ น้า"
"อ้อยอยู่กรุงเทพนะลุก ทำงาน เพื่อนอ้อยเหรอ" ถ้าหากใครที่ชีวิตนี้เจอแต่เรื่องผิดหวัง ความรู้วึกผมตอนนั้นคืออย่างนั้น น้าชวนผมทานน้ำ แต่ผมเหนื่อย ท้อ และล้าเหลือเกิน ผมขับรถกลับบ้าน ผมร้องไห้ .............ขากลับอีก
.........................................................................
ผมรีบมาเปิดพันทิย์ มาอ่านที่คนมาให้กำลังใจ มีคนร้องไห้ด้วย ผมก็เลยยิ่งอ่านยิ่งร้องไห้ มีคนเข้าใจผม ไม่โกรธผม ให้กำลังผม ผมเลยร้องไห้ เพลง when I am feeling blue ยังคงบรรเลง ผมเริ่มพิมพ์อีกครั้ง เพราะอย่างน้อยผมก้ยังมีเพื่อนๆที่ยังรับรู้เรื่องราวตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ อย่างน้อยก็มีคนร้องไห้กับผมด้วย
แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่ได้นอน ผมไม่สบาย ผมเจ็บคอ ผมปวดหัว ผมปวดตา ตาผมแดง ผมล้า แต่มันไม่เท่ากับที่ผมต้องการเจอมัน ผมอยากหลับแล้วหล่ะครับ อยากหลับไปเลย ตื่นมาหวังว่าทุกอย่างคงดีขึ้น หรือไม่งั้น ผมก็คงคิดหาหนทางที่จะหามันให้เจอได้ ยังไงผมจะไม่ยอมทิ้งมันไปแบบนี้แน่ ผมไปนะครับ........................................
..........................................................................

หลังจากทิ้งตัวลงนอน บนเตียงเตียงเดิม หมอนใบเดิม ในใจยังคงร้อนรนพยายามให้รู้สึกเจ็บแทนคนที่ตัวเองเคยทำร้าย สมองก็คอยแต่คิดว่ามันกำลังคิดอะไรของมันอยู่ ......แล้วมันอยู่ที่ไหน แต่ร่างกายเหนื่อยล้าเต็มทน 2วัน 2 คืนกับการที่ต้องอดหลับอดนอน บวกพิษไข้ ทำให้ในที่สุด......ผมหลับได้ในเวลาไม่นานนัก
..........................................................................
เสียงฝนตกเป๊าะแปะ กระทบหลังจากบ้านปลุกผมตื่นขึ้นมาจากหลับที่ลึกและยาวนาน ผมรู้สึกปลอกโปร่ง ไข้ส่างแล้ว วูบแรกผมรู้สึกว่าผมเป็นคนเดิม คนที่ไม่เคยมีมันอยู่ในชีวิต ในความคิดมาก่อน แต่พอได้สติกลับมา ผมจึงรู้ว่า ผมตื่นขึ้นเพื่ออะไร เรื่องราวต่างๆ เริ่มทยอย เข้ามาในหัว มันชัดเจน ชัดซะจนผมต้องนั่งก้มหน้ากุมขมับอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ว่า มันไม่ใช่ฝันหรอกเหรอ ผมกนึกว่าตลอก อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมามันคือฝัน ...............แต่มันไม่ใช่
. ........เอาวะ ยังไงผมก็รู้สึกดีขึ้น ผมมีแรงและสมองปลอดโปร่งขึ้น ผมก็คงจะสะสางเรื่องที่มันค้างคาให้จบซะที
............ ผมเดินไปเปิดคอม ตาเหลือบไปเห็นจดหมายของมันยังวางเปลือยปล่อยอยู่บนซอง ผมลืมเก็บใส่ซองตอนที่เอาออกมาพิมพ์ให้เพื่อนๆได้อ่าน แม่จะเห็นมั๊ยหว่า....ผมนึกในใจ
ผมเข้าเวปพันทิพย์อย่างเร็ว สิ่งแรกที่เห็นคือ กระทู้ของตัวเองมีคนเข้ามาเยอะอีกเช่นเคย กำลังใจไม่เคยขาดหาย แต่ที่น่าแปลกใจคือมีคนตั้งกระทู้อื่นอีกด้วย
ผมเปิดกระทู้ที่ผมตั้งไว้ล่าสุด ทันทีที่ผมอ่านความคิดเห็นแรกๆ ผมก็เจอคำตอบที่ผมหา ทำไมผมไม่คิด ทำไมผมคิดไม่ถึงวะ ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ด้วย ค.ห นี้

"หาคุณอ้อยให้เจอนะคะคุณเป็ด ลองไปดูที่วัดที่คุณอ้อยเคยอยู่รึยังคะ เอาใจช่วยค่ะ ขอให้ได้เจอกัน

จากคุณ : som som - [ 29 ส.ค. 49 12:57:27 ]
"
ผมกระโดดลุกจากคอมทันที ใช่ ที่ที่มันควรจะอยู่ที่สุด ทำไมผมถึงคิดไม่ออก แมร่งงง โง่บรม
..........................................................................
"แม่............แม่" ผมตะโกนหาแม่
"นุ่นเห็นแม่มั๊ย" ผมหันไปถามน้องสาวที่กำลังดูทีวี น้องชี้ออกไปหน้าบ้าน ผมมองตาม เห็นแม่ยืนคุยกับป้าข้างบ้าน ซึ่งคงเดาได้ไม่ยากว่าเรื่องอะไร ป้าแกมีลูกสาว แต่ลูกสาวแกมักคิดเสมอว่า ร่างกายของเค้าเป็นของเค้าเอง เค้าจะทำยังไงกับร่างกายเค้าก็ได้ โดยลืมคิดไปมั้งว่าคนที่ให้หน้าตา ให้ทรวดทรงองค์เอว ให้หน้าอก สะโพก ให้สิ่งที่เค้าคิดว่าเป็นของเค้าเองก็คือแม่เค้า........เค้าจะทำอะไรกับร่างกายเค้าก็ได้ โดยที่ไม่คิดเลยว่าคนที่เสียใจที่สุดก็คือแม่เค้านั่นเอง...................เฮ้อน่าสงสารป้า
"แม่" ผมเรียก
"ดีขึ้นแล้วเหรอ" แม่จับมือ จับหน้าผากผม
"ครับแม่ แม่หนูจะไปยุดยา เอ่อ ไปเยี่ยมพ่อไอ่อ้อย" ไม่มีความสงสัยหรือเคลือบแคลงใดๆปรากฎให้เห็นบนหน้าแม่
"เหรอ ขับรถไปไหวเหรอปล่าว ให้แม่ไปด้วยมั๊ย" แม่ยังคงเป็นห่วง
"อ๋อไม่เป็นไรแม่ หนูดีขึ้นแล้ว" ผมคล้อยหลังกำลังจะไปอาบน้ำ เสียงแม่ไล่หลังมา
"แม่ฝากอ้อยด้วยนะลูก" แม่รู้ ผมว่าแม่คงรู้ แต่แม่ยังคงเป็นแม่ผมเสมอ..................................รักแม่จังเลยโว้ยยยย
"
..........................................................................

ผมอาบน้ำแต่งตัว มองหน้าตัวเองในกระจก แมร่งตาบัวสาดดด นึกว่าตานกฮูก นี่กรูร้องไห้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ เพราะเมิงคนเดียวไอ่อ้อย เพราะเมิง อย่าให้กรูเจอ กรูเอาเมิงตายแน่....ผมคิดในใจ เพราะครั้งนี้มั่นใจว่าเจอมันแน่ ในใจเริ่มมีความหวังขึ้น
"เอานี่ไปด้วยลูก ผลไม้กับขนม แฝกไปให้พ่อลูกอ้อยด้วย ไปมือเปล่าไป เสียมารยาท"
ผมเดินหิ้วตะกร้าผลไม้และถุงขนมที่แม่เตรียมไว้ให้ ผมออกรถสู่ถนนใหญ่ มุ่งหน้าไป อ.เสนาด้วยใจจดจ่อทันที
.....................................................................
"กรูอยากไปเกาะล้านว่ะ เมิงไปเป็นเพื่อนกรูหน่อยสิ" มันเคยขอให้ผมไปเป็นเพื่อน
"เรื่องอะไร เมิงก็ชวนคนอื่นดิ กรูไม่ชอบทะเล แมร่งดำ" ผมปฏิเสธไป
" กรูว่ามันน่าหนุกนะโว้ย ไปอยู่บังกะโลด้วยกัน 2 คน ท่ามกลางแสงดาว โอบล้อมด้วยทะเล" มันทำตาชวนฝัน
"เมิงคิดอะไรของเมิงอีกสาดดด สันดานนะเมิง กรุไปกับเมิงมีหวังตรูดบาน" ผมยังคงไม่ไว้ใจ
.......................................................................
" กรูอยากดูเพื่อนสนิทว่ะ" มันเอ่ยปากชวน
"กรุไม่มีเพื่อนสนิทกรูมีแต่เพื่อน[^_^]" ผมว่า
"เพี๊ยะ" เสียงดังดีจริงๆ ผมหัวทิ่ม
"เมิงตบหัวกรูทำเอี๊ยะอะไรว่ะ"
"อ้าว ทำไม เพื่อน[^_^]เค้าก็ทำกันยังงี้ทั้งนั้นแหละ" แล้วมันก็หัวเราะ เดินหายไป ผมก็ยังคงไม่ไปดูหนังกับมัน
.....................................................................
"เมิงเคยคิดมั๊ยว่า ทำไมเราถึงมาเจอกัน" มันเคยตั้งคำถามถาม ซึ่งตอนนั้นผมไม่เคยสนใจที่จะตอบ และไม่เคยตั้งใจที่จะฟังมันตอบ
"ฮึ" ผมตอบขอไปที ตาและมือยังวุ่นอยู่กับงาน
"กรูอยู่แห่งนึงบนโลก เมิงอยู่อีกแห่งนึงบนโลก แต่เราก็ได้มาเจอกัน เมิงลองดูคนกี่คนที่เมิงเดินสวนกันตามสะพานลอย บนถนน ในตลาด เมิงก็ไม่ได้สนิทกับเค้า แต่กรูกับเมิงก็ได้มาเจอกัน" มันยังคงพล่าม
"กรูคงทำเวรทำกรรมไว้กับเมิงมั้ง ชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้" ผมลุกขึ้นเดินจากไป ทิ้งระเบิดไว้ข้างหลัง
....................................................................
ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดดี ทำดี ไม่เคยทำตามใจมันเลย ไม่เคยสนใจที่มันพุด ผมว่าผมไม่เคยทำให้มันมีความสุขเลยด้วยซ้ำ ดีแต่กวนส้นไปวันๆ แต่ต่อไปนี้ผมจะฟังทุกคำที่มันพูด ผมจะไม่กวนส้นมันอีก กำหนดเดินทางผมออกมาแล้วเป็นกลางเดือนตุลา เวลา 1เดือนครึ่งหากผมเจอมัน ผมจะทำดีกับมันให้มากที่สุด...............................................ผมเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้น ใจอยากให้ถึงไวๆ
..........................................................................
ผมขับรถมุ่งตรงไปยัง อ.เสนาทันที ฝนตกปรอยๆไปตลอดทางให้ได้ชุ่มฉ่ำเล่น สองข้างทางรถติดบ้างเป็นระยะเนื่องจากมีการขยายถนน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่ประการใด ผมยังคงจดจ่ออยู่กับการไปให้ถึงในที่ที่มันว่ามันควรจะอยู่
.....................ในที่สุดผมก็มาถึง อ.เสนา คราวนี้ผมทำเวลาได้เร็วกว่าครั้งก่อนเนื่องจาก
1.ผมคุ้นทางมากขึ้น
2.ผมเหยียบเร็วขึ้น
และ 3. ผมคิดถึงมัน
รถมาจอดเทียบทางหน้าบ้าน ฝนตกเปาะแปะ หมาตัวเดิมยังคงเห่าเหมือนเดิม ผมเดินตรงไปหน้าบ้านทันที คราวนี้คนที่ผมเจอเป็นผู้ชายสูงวัย คงจะเป็นพ่อมันมั้ง ไม่บอกก็คงรู้หน้าเหมือนกันยังกะแพะ
"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้ พ่อยกมือไหว้ตอบ แต่คิ้วขมวดกันเป็นปม
"ผมมาหาอ้อยครับ ไม่ทราบว่า......" ยังไม่ทันจะพูดจบ พ่อมันก็แว๊ดขึ้นทันที
"มันไปทำเรื่องอะไรไว้อีกหล่ะ ไอ่ลูกเวน บราๆๆๆๆ" ผมแมร่งโคตรงง ไอ่อ้อยมันทำอะไรไว้นักหนาว่ะ ทำไมพ่อมันถึงได้.....อืมมม
สักพักนึงน้าผู้หญิงคนเดิมเดินออกมา
"มีอะไรกัน"แกมองหน้าผมท่าทางคงจำได้
"ผมมาหาอ้อยครับ น้า พอดี มันลาหยุด ผมมีธุระกับมันจะเอาเงินที่ยืมมาคืนมัน เพราะอาทิตย์หน้าผมจะไปเมืองนอกแล้ว" .....อืม กรูต้องโกหกก็เพราะเมิงนะไอ่อ้อย...สาด
"อ๋อ" พ่อมันทำท่าฟึดฟัดแล้วเดินหายเข้าบ้านไป
"อ้อยไม่มาที่นี่หรอกลูก" น้าบอก
"ปกติ เค้าก็ไม่มาบ้านอยู่แล้วส่วนใหญ่ถ้าเค้ากลับมาเค้าก้ไปอยู่ที่วัดที่เค้าเคยอยู่".....อืมเข้าทางผมครับนั่นแหละครับที่ผมอยากรู้
"แล้วน้าพอจะรู้มั๊ยครับว่า วัดที่ว่านั่นอยู่ไหน"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:27 pm

ผมบึ่งรถมุ่งตรงไปยัง อ.บางซ้ายทันที เนื่องด้วย 2อำเภอนี้มีพรมแดนติดกัน บึ่งมาได้ครึ่งกิโลได้มั้ง ตาเหลือบไปเห็นกระเช้าผลไม้กับขนม
"แมร่ง เสือกลืมกรู" ผมบ่นในใจ หงุดหงิด เฮ้อ ไมอุปสรรคมันเยอะจังวะ ผมตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปทางเดิมอีกรอบ จอดรถตรงรอยล้อรถเดิม ไอ้ด่างเกยชัยตัวเดิมเห่าอีกเหมือนเดิม
"แมร่งจะเห่าทำหมาไรวะ กรูเพื่อนเจ้านายเมิง สาดดด" ผมจ้องตามัน เออ แหะ เหมือนมันเข้าใจ หยุดเห่ากรึบ
น้าคนเดิมออกมาอีกครั้ง
"น้าครับ ผมลืมเอาของให้ พอดีแม่ฝากมาให้นะครับ" น้าขอบใจผม แล้วฝากบอกไอ่อ้อยว่า ให้กลับมาบ้านมั่ง น้องบ่นคิดถึงถึง ผมเดาเอาว่าน้องคนละแม่กัน
หนทางที่จะไป อ.บางซ้าย สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และคลอง นึกถึงที่มันเคยบอกว่าบ้านมันติดคลองทันที ตอนนั้นในใจบอกตรงๆนะครับว่าเหมือนรู้ว่ามันรออยู่ที่นั่น ผมอุ่นใจขึ้นมาเมื่อคิดถึงมัน แต่ในใจผมก็กลัว กลัวว่ามันจะไม่ยอมเจอผม
ผมถามทางคนที่นั่นมาตลอด หลงบ้าง งงบ้าง ยังคิดเลยว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ที่นี่วะเนี๊ยะ
ในที่สุดผมก็หาทางเข้าวัดที่มันอยู่เจอ อืมม ผมตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกตอนนั้น.........
..........................................................................
รถผมค่อยๆเลี้ยวเข้าไปจอดหน้ากุฏิหลังนึง ตอนนั้นประมาณบ่ายกว่าๆ ผมเดินดุ่ยๆเข้าไป เห็นพระรูปนึง ตกใจอ่ะ หน้าเหมือนไอ่อ้อยโคตร ผมหยุดกึกเลยครับ จ้องไปใหม่ อ่าววไม่ใช่นี่หว่า เวน นึกว่าเสียใจถึงขั้นหนีบวช
ผมยกมือไหว้พระรูปนั้นก่อนถามว่า อ้อยอยู่รึปล่าว
"อาตมาไม่รู้จักหรอกโยม" ผมเข่าแทบทรุด ถ้ามันไม่อยู่ที่นี่ผมก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนแล้วหล่ะ คงต้องปล่อยมันไปตามยถากรรม
"ลองไปถามเจ้าอาวาสที่กุฎิโน่นสิ โยม" ผมไหว้ลา ก่อนเดินข้ามไปอีกกุฎิ
..............เจ้าอาวาสบอกผมว่า
"อ๋อ เพื่อนอ้อยเหรอ อ้อยนั่งอยู่ตรงศาลาริมน้ำทางโน้นน่ะโยม ให้ไอ่กล้วยพาไปมั๊ย หมามันดุ" ไอ่กล้วยคือเด็กวัดตัวเล็กๆที่ท่าทางเอาเรื่อง ในใจผมคิดว่าถ้าเอาไอ่กล้วยไปมีหวังเละแน่
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเดินไปเองครับ ไปทางนี้ใช่มั๊ยครับ" เจ้าอาวาสชี้ย้ำอีกที นี่แหละน๊าที่เค้าว่า พระเป็นผู้ชี้ทางสว่าง
..........................................................................
ผมเดินออกมา โดยมีไอ่กล้วยเดินตามหลัง ผมหันไปมอง ไอ่เด็กนี่มันจะมาเดินตามทำหล๋อยอะไรวะ ผมกลัวมันจะมาขัดอ่ะ ไม่ใช่อะไรหรอก คือผมอยากคุยกับมัน 2คนให้รู้เรื่อง ผมมองหน้ามันงงๆ มันทำหน้าผีใส่
"เอ้ย ไอ่กล้วย เมิงชื่อกล้วยใช่ป่ะ" ผมนั่งยองๆถามมัน
"อืมม" ท่าทางยังไม่เข้าโรงเรียน เพราะยังพูดครับไม่เป็น
"เอ้ย ไม่ต้องมาตามพี่นะ ไปเล่นไกลๆเลย ตรงนู้นนนนนน" ผมชี้ให้มันลงหายไปในคลอง มันมองหน้าผมเหมือนไม่เคยเห็นคนกรุงเทพ แต่ก็ไร้ประโยชน์ สุดท้าย ผมควักแบงค์ 20ให้มัน
"อ้าว เอานี่ไปซื้อหนมกิน แล้วไปเล่นไกลๆเลยนะ ยิ่งไกลยิ่งดี" ผมบอก
มันรับเงินแล้วดีใจใหญ่ วิ่งไปร้านหนมหน้าวัดโดยที่ไม่ต้องไล่ อืมมม พูดครับยังไม่เป็น แต่รู้จักใช้เงิน เด็กสมัยนี้นี่มัน................
หลังจากที่กำจัดมารหัวขนไปแล้ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าบ่าวยังไงไม่รู้ กว่าจะเจอเจ้าสาว ผ่านประตูเงิน-ทอง หลายด่านเหลือเกิน
ในที่สุดผมก็เจอศาลาริมน้ำที่ว่า ร่มรื่นดีจัง ฝนก็ตกเปาะแปะทั้งวัน ผมเห็นหลังมันแล้ว เฮ้อออ ในที่สุด.....ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
..........................................................................
มันนั่งอ่านหนังสืออะไรสักอย่าง ใส่เวื้อสีขาว กางเกงเลก็สีขาว ผมใจหายวาบ เกิดอะไรขึ้นกับมันว่ะ ผมกะลังจะก้าวเท้าไปหามัน และอยากจะกอดมันจากข้างหลังเหมือน คห ข้างบนว่าเหมือนกันนั่นแหละ แต่นี่มันชีวิตจริงอ่ะดิ ไม่มีอะไรจะเป็นไปอย่างที่เราอยากให้ไปหรอกครับ
"โฮ่งๆๆๆๆๆ แฮๆๆๆๆๆๆๆ...โฮ่งๆๆ" หมา ดำ 2ตัวแมร่งทั้งเห่าทั้งแฮ่ น้ำลายย้อย พลั๊กๆ ผมชักขากลับแทบไม่ทัน อะไรจะหวงเพื่อนมันขนาดนั้น มันหันหลังมามอง คงตกใจแหละ ว่าผมมาได้ไง
"เฮ้ย สาดดด เมิงบอกให้เพื่อนเมิงหยุดเห่าก่อนได้มั๊ยวะ มองเอี๊ยอยู่ได้" ขอโทษนะครับที่มันไม่โรแมนเหมือนอย่างที่อยากให้เป็น
"อ้าว บ๊อบบี้ จูดี้(อืม หน้าตาวัดๆแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะชื่อนี้) ไม่เห่าลูก ไม่เห่า จุ๊ๆ พวกเดียวกันลูก" อืมมมพูดกับหมาเพราะกว่าพูดกับกรูอีกสาดด ......เจ้ย แมร่งกรูอุตส่าห์ถ่อมาหาถึงที่นี่หาว่ากรูเป็นพวกเดียวกับหมาอีก.......คิดถูกรึป่าวที่มาเนี๊ยะกรู
..........................................................................
สิ้นเสียงมันปรามเพื่อนมัน หมาสองตัวหมอบคาทีนมันราบคาบ อืม ท่าทางจะพูดกับหมารู้เรื่องกว่าพูดกับคน
ผมเดินตรงเขาไปหามัน ใจเต้นตั๊กๆ ถ้าไม่ใช่มาโพสในนี้ก็คงไม่กดดันอย่างงี้ แต่นี้ มันรู้สึกเหมือนมีดวงตานับร้อยคู่จ้องมองอ่ะดิ เลยเกร็งๆ ถ้าปกตินะผมคงเดินไปตบหัวทิ่มไปนานแล้ว"อำนาจอันยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมภาระอันใหญ่ยิ่ง(พูดถูกป่าววะ)
เก้าอี้ไม้ วางอยู่รอบโต๊ะ 4 ตัว ผมนั่งตัวริมขอบศาลา
"เป็นไงมั่ง"นี่คือคำแรกที่ผมทักทายอย่างเป็นทางการ
"ก็ดี" มันตอบ ก้มหน้า
"จริงเหอ" บอกไม่ถูกครับตอนนั้นมันเกร็งๆ กั๊กๆยังไงไม่รู้ไม่กล้าพูดเหมือนก่อน
"จริงดิ แล้วเมิงคิดว่ากรูจะเป็นอะไร"
อืมนั่นอ่ะดิ แล้วผมคิดว่ามันจะเป็นยังไง

....................................................................

ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งได้ยินแต่เสียงฝนกระทบหลังคากระเบื้อง
"เมิงชื่ออ้อยแล้วรู้ป่าว กรูว่าน่ารักดีนะ" ผมทำลายความเงียบ
"อืม กรูอ่านแล้ว นึกขึ้นได้ว่าพูด ขำดีว่ะ ห้องอ้อยรกจะตาย 555" อืม มันหัวเราะเป็นครั้งแรก
"แล้วเมิงชอบป่าว เคาเรียกเมิงกันทั้งพันทิพย์" ผมถาม
"เหอะ ชื่อผู้หญิง แต่ถ้าเค้าเรียกไปแล้วก็ปล่อยเค้าเหอะ" มันเปิดหนังสือหน้าต่อไป โดยไม่เงยหน้า
"แล้วเมิงอะชื่อไร" มันถาม
"เค้าเรียกกรูเป็ด" ผมบอก
"กรูว่าเหมาะกับเมิงว่ะ เป็ด ......เพราะเมิงเดินตูดบิดเหมือนเป็ด"
"ไอ่สาดดดด" ผมและมันหัวเราะพร้อมกัน

"เมิงทำไมไม่โกนหนวด" มันถามผม เพราะปกติ ผมจะไม่ยอมปล่อยให้หนวดโผล่มาชื่นชมโลกภายนอกแม้แต่เส้นเดียว
"ไม่มีเวลา มัวแต่ตามหาคน" ผมบอก ตอนนั้นกล้าพูดแล้วนา

.....................................................................
มันเงียบอีก...................ผมยังคงไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ไม่รู้จะบอกยังไง ไม่รู้จะพูดยัง ผมก้มหน้าเอาคางเกยขอบศาลามองฝนที่ตกลงในสระ เป็นวงๆๆๆ มองแล้วมึนหัว แต่ก็เพลินดี ผมยังคงมองไปเรื่อยๆ ที่นี่สงบดีจัง ผมหายใจได้เต็มปอด ไม่แสบจมูก และที่สำคัญรู้สึกเย็น
..........สายตาผมจับอยู่ที่เม็ดฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่า ผมกำลังจะเข้าถึงสมาธิชั้นสูงแล้วนะเนี๊ยะถ้าไม่............................
"โครม โอย" ผมหันขวับไปมองตามเสียง อ้าวเอ้ยไอ่อ้อยหายไปไหน
"อ้าๆๆๆ สาด ไปทำเอี๊ยอะไรตรงนั้น" ผมหัวเราะก๊าก
"กรูตกเก้าอี้ แหะๆ" มันหัวเราะเก้อๆ
"สมแมร่ง เก้าอี้สี่ขาเจือกนั่งสองขา"
"กรูก็แค่...............................เอ่อ ....อยากเห็นหน้าเมิงชัดๆ" กึ๋ยT-T
..........................................................................
บอกตรงๆว่าตอนนั้นผมรู้สึก อืม นี่แหละ สิ่งที่ผมตามหามาตลอดเกือบอาทิตย์ ตอนที่มันไม่อยู่ ผมห่วง ผมคิดถึงมันนะ แล้ว ณ ตอนนั้นพอได้อยู่ด้วยกันเหมือนที่เราทำทั้งหมด ไม่ว่าจะ ร้องไห้ โพสกระทู้บรรยายซะเหมือนคนบ้า(บ้าสำนวน) ตีอกชกหัวตัวเอง ขับรถมาถึงยุดยาทั้งที่ไม่ได้นอน ร้องไห้เป็นวรรคเป๋นเวนจนแม่เป็นห่วง พอมาถึงตอนนี้ ตอนที่มันอยู่ใกล้ๆ เอ้ยย มันหายไปหมดเลย ความสนิทกลับมาเหมือนเดิม นี่แหละน้าที่เค้าบอกว่า 3วันจากนารีเป็นอื่น แต่กับเพื่อนไม่ว่าจะนานแค่ไหน เราก็ยังเหมือนเดิม
"แล้วจะมองหน้าทำกรูเอี๊ยอะไร ทำยังกะไม่เคยเห็น"
"ใช่ดิ ต่อไปกรูก็ไม่ได้เห็นหน้าเมิงอีกแล้ว" เมิงอย่าเพิ่งเศร้าตอนนี้ดิ สาด กรูขี้เกียจร้องแล้ว ผมคิดในใจ
"อ่ะ งั้นเมิงแหกตาดูซะให้เต็มตา" ผมขยับเก้ามาติดมัน เอาหน้าไปติดหน้ามัน
มันก็ถลึงตามอง ผมก็มอง สิ่งนึงที่เห็นชัดคือตามันบวม มันมองอยู่นาน ผมก็มองมันนานมองไปมองมาจนเริ่มเลี่ยน ผมก็เลย
"วู่" เป่าลมเข้าตามัน คริๆ
"โอ้ยย แมร่งสาด" ป๊าบเข้าให้ ผมโดนไป 1ดอก
"ไมตาเมิงบวมร้องไห้เพราะคิดถึงกรูเหรอ 555 กิ๊วๆ" ผมล้อมัน แก้เก้อ
"สาดดด เมิงเอากระจกมาดูตาแมร่งตัวเองก่อน บวมกว่ากรูอีก 555 คิดถึงกรูเหมือนกันอะดี๊" มันเอาคืน
ผมพยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น เพื่อที่ว่าจะได้ขอโทษมันเป็นกิจลักษณะซะที
..........................................................................
...........................................................................
"ถามจริงเมิงร้องไห้เยอะเหรอ" มันถามผม
"นิดหน่อย กรูก็แกล้งร้องไปงั้นแหละ พอรู้ว่าจะมาหาเมิง เดี๋ยวเมิงจะหาว่ากรูใจไม้ใส้ระกำ" แหะๆ ชายชาติทหารอย่างเราจะบอกให้มันรู้ได้ไงว่า แงๆ กรูร้องทั้งคืนเพราะเมิงสาดดดดดด
"อ๋อเหรอ ร้องแป๊บเดียว เมิงก็คงไม่สนใจกรูตามเคยแหละว่ะ กรูแมร่งร้องทั้งคืน ยิ่งฝนตกๆกรุยิ่งร้อง

...........กรูกลัวผีอ่ะ เลยร้อง" ผมว่ามันก็กลบเกลื่อนเหมือนกันแหละ แมร่งไม่เนียนเลยอ่สาดดดด
"แล้วไหงกรูโทรไปไม่รับ โทรเป็นล้านๆรอบ sms ก็แล้ว" ผมต่อว่ามันเล็กน้อย
"ก็กรูทำมันเปียกน้ำ ตอนนี้อยู่ศูนย์" โธ่เอ้ยยแมร่งเราก็นึกว่า hurt หนักถึงขั้นเฟี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง
"เมิงรู้ป่าวว่า พอกรูลาออกกรู ร้องไห้ด้วย หน้าล๊อกเกอร์เมิง กรูเห็นล๊อกเกอร์เมิงแล้วใจก็หาย กรูรู้ว่ากรูจะไม่ได้เห็นเตจ้าของมันอีกแล้ว กรูเลยร้อง.....แต่ร้องไม่เยอะนะเว้ย นิดเดียว แค่ปริ่มๆ แบบนี้อ่ะ" มันทำตาปริบๆ
อืม ไม่ยักกะรู้แฮะว่ารู้สึกเหมือนกัน
"กรูลาออกเสร็จโดนพี่เต้ยด่าพอหอมปากหอมคอ กรูเลยเดินกลับหอตอนฝนตก" โหเห็นภาพเลยกรู ทำอย่างกะเล่นMVเพลงเจมส์ (โทดทีรู้จักวัยรุ่นสุดแค่เจมส์อ่ะ)
"เดินกลับหอเมิงเนี๊ยนะ หอเมิงที่......เนี๊ยะนะ โหแมร่ง โคตรอึดว่ะ" ผมยังคงปากหนัก ไม่ได้ขอโทษซะที
"เออ กรูมันควายไง ถ้าเมิงไม่มาไถ่ชีวิตกรู กรูคงโดนโต๊ะบอลเชือดกรูไปนานแล้ว" แสดงว่ามันเลือกโดนเด็ดขาด
"แล้วไม่ก่อนทำมิวสิค ไม่คิดจะหาถุงก๊อบแก๊บห่อโทรศัพท์ให้เรียบร้อยวะ เจ๋งเลยแมร่ง มิน่ากรูโทรนิ้วหงิกแมร่งไม่ยอมติด เป็นห่วงนะเว้ย" หลุดปากไปแล่วววว
"อะไรนะ ๆ เมื่อกี้ว่าไงนะ"..........................
..........................................................................
ไอ่อ้ยลากเก้าอี้มาชิดเก้าอี้ผม
"เมื่อกี้ว่ายังไงนะ " ผมว่ามันได้ยินแหละว่าผมบอกว่าผมเป็นห่วงมันน่ะ แต่มันเลววววไง
"ปล่าววเมื่อกี้กรู ตด.." ผมตอบแก้เก้อ
"อ๋อ กรูเพิ่งรู้นะว่าเมิงตดทางปาก มิน่าปากเหม็นเพิ่งเข้าส้วมมาดิ" ไม่น่าเล่นมุขนี้ไปเลยแมร่งงงกรู มุขโสโครกจริงๆไอ่อ้อย
"สาดดด เมิงนี่" ผมลุกขึ้นไปนั่งอีกตัวเพราะว่า มันใกล้เกินไปแล้ว
"เมิงนั่งไกลๆทีนกรูหน่อยดีกว่ากรูว่า กรูกลัวเมิงจะล้มไปทั้งเก้าอี้อีก" ผมขู่ฟ่อๆ
"แล้วทำไมเมิงลาออกไม่บอกกรูสักคำ สาดด เมิงคิดว่ากรูจะรู้สึกยังไง" ผมพยายามพามันเข้าเรื่อง
"กรูไม่อยากให้เมิงต้องมาห่วง กรูคิดไปเองนะว่าเมิงห่วง คิดเผื่อไปงั้นๆแหละ(เมิงไม่ต้องคิดเผื่อกรูเลยไอ่อ้อย เมิงทำกรูห่วงจริงๆ) ถ้าบอกเมิง ก็เหมือนกับไปถ่วงความเจริญ กรูไม่อยากทำให้เมิงไม่สบายใจ และที่สำคัญก็อย่างที่กรูเขียนในจดหมายนั่นแหละ กรูทำใจไม่ได้ที่จะอยู่โดยไม่มีเมิง" เออ กินใจอย่างแรงทำยังกับกรูไปตาย
ตอนนั้นผมไม่เข้าใจหรอกครับว่าทำไมกะอีแค่ผมไปทำงานเมืงนอก เดือน 2เดือนก็กลับบ้านที มันถึงขั้นต้องทำให้มันหนีเข้าวัด ยังกับตัวเองไม่เหลืออะไร แต่มาถึงตอนนี้ผมเข้าใจมันแล้วหล่ะ

จะบ่าย 4โมงแล้ว ฟ้าก็ยังคลึ้มๆ ยังสงสัย...................ทำไมเวลามีความสุข เวลามันเหมือนรีบเดิน(หรือวิ่ง) เร็วอย่างงี้ จะรีบไปไหนก็ไม่รู้ ทีตอนที่กรูแมร่งนอนร้องไห้ มีความทุกข์ มันเดินช้ายังกับหอยทาก อืมม เป็นเอามากว่ะกรู
"แล้วห้องอ้อยหล่ะ ตอนนี้เป็นไง" ผมถามเพราะยังสงสัยว่ามันขนของยังไง
"ไม่รู้ กรูขนของออกหมดแล้ว ของกรูใส่ลัง3-4ใบก็หมด ตอนนี้กองอยู่ในกุฎิหลวงพ่อ" มันบอก
"กรูถามเมิงจริงๆ เมิงไม่คิดจะโทรหากรูเลยเหรอ" ผมยังคงอยากรู้
"คิดสิ คิดแล้วคิดอีก คนอย่างเมิงไม่เข้าใจหรอก"
"ไอ่สาดดด" ผมสำรอกใส่มันไป ทำไมมันถึงคิดว่าผมจะไม่เข้าใจมัน ทำไม ผมไม่เข้าใจ


จูดีกับบ๊อบบี้ยังคงนอนเอ้งเม้ง เกิดเป็นหมานี่ก็ดีเหมือนกันนะกินนอน กินนอน
"เรื่องวันนั้นน่ะ กรูขอโทษอีกครั้งนะ กรูรู้ว่ากรู..."ยังไม่ทันจะพูดจบ
"เรื่องอะไร" มันแทรกโผล่งขึ้นมา ป๊าบที่หัวไปนึงที
"สาดด เมิงก็ฟังกรูพูดก่อนสิ แมร่งกรูกะลังจะซึ้งๆ เลวๆจริงๆเมิง"
"อ้าวจะซึ้งเหรอ แป๊บๆ" มันหันหลังให้ผม เอามือล้วงคอ
"เหอ่ะ ๆ เออออ" มันทำท่าจะอ๊วก หันกลับมาอีกทีน้ำตาคลอเบ้า ตาแดงงง กรูอยากจะบ้าตายกับเมิง ไอ่อ้อย ปัญญาอ่อน
"เออ ขอบใจ เมิงบิ้วอารมณ์กรูได้ปรี๊ดจริงว่ะ" (โทดทีที่พิมพ์ช้านะครับ พอดีกินข้าวไปด้วย แม่ทำแกงส้มชะอมไข่ แล้วก็ปลาทอดกระเทียมแล้วก็ มะม่วงน้ำปลา มันอร่อย เลยห่วงกินมากกว่า อิๆ)
"เมิงเอาจริงๆดิ กรูซีเรียสนะเว้ย" ผมขยับเก้าอี้มาใกล้ ไม่เข้าใจทำไมต้องขยับเข้าขยับออก
"อ่ะ ว่ามา" มันก็ขยับเข้ามา
"ขยับออกไปอีก ใกล้ไปแล้วเมิง"
"อะไรของเมิงว่ะ แมร่ง อ้าวว ว่ามา" มันขยับเก้าอี้ออกไป
"กรูมีเรื่องจะขอโทษเมิงมากมาย เอาเรื่องวันนั้นก่อนเรื่องที่กรูพาเมิงไปกับพี่โบ้น่ะ" ผมจ้องตาผมปริบๆ

"เอ่อ กรูไม่ได้ตั้งใจที่จะจับคู่เมิงกับพี่โบ้เลยนะเว้ย กรู..."
"แมร่งสาดดด นี่เมิงริจะเป็นพ่อสื่อเหรอว่ะ" มันแทรก
"กรูอยากให้เมิงมีแฟนเป็นตัวเป็นตนไง" ผมชี้แจง
"แล้วเมิงก็จะทิ้งกรูไปได้อย่างสบายใจงั้นดิ" อืมมม แทงใจดำกรูเลยเมิงเอ้ยยยยย
"เอาเป็นว่ากรูขอโทษแล้วกัน" ผมตัดบท
"ถ้ากรูได้กับกะเทยโบ้จริงๆ เมิงคงดีใจสินะ" งอนทำอ่าอะไร กรูขอโทษแล้ว
ผมเงียบทำปากแบะ สำนึกผิดเล็กน้อย แต่ในใจก็คิดจะบอกว่า
"ถ้าเมิงได้กับพี่โบ้จริงๆแล้วเมิงทิ้งกรูนะ กรุนี่แหละจะทำให้เมิงเลิกกันเอง ว้าฮ่าๆๆๆ" คิดในใจแต่ไม่กล้าพูด คริๆ
มันเห็นผมเงียบคงคิดว่าผมสำนึกผิดมั้ง ที่จริงแล้วป่าว แหะๆ
"กรูไม่โกรธเมิงหรอก เมิงเห็นกรูเคยโกรธเมิงเหรอ" มันว่า
"เคย บ่อยด้วย เมิงตบหัวกรูทิ่ม เมิงปล้ำกรู เมิงไล่ถีบกรู อะไรอีกวะ เยอะแยะ" ผมก็ว่าไปงั้นแหละ จริงๆแล้ว ต่อให้ผมทำเลวแค่ไหน ด่ามันแรงแค่ไหนก็ไม่เคยเห็นมันโกรธ มีแต่งอน เอาไม้ไปเขี่ยๆนิดหน่อยก็หายงอนแล้วไอ่อ้อยน่ะ
"บร้าดิ นั่นมันกรูล้อเล่น แบบเอ็นดูโว้ย"
"เออๆ เมิงไม่โกรธกรูก็ดีแล้ว แล้วทำไมคืนนั้นเมิงต้องร้องด้วยว่ะ"
เอาอีกแล้วผม แกว่งเท้าให้น้ำเน่าฟุ้งอีกแล้ว
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:31 pm

พอได้พูดคำว่าขอโทษออกจากใจไปมันก็โล่งๆ ถึงแม้จะพูดคำนี้พร่ำเพรื่อไปหน่อย แต่ครั้งนี้ออกมาจากใจที่สุดแล้ว
" แล้วทำไมคืนนั้นเมิงต้องไห้มากมายขนาดนั้นด้วยว่ะ เมิงรู้ป่าวว่าทำกรูตกใจ" ผมจ้องหน้ามัน
"โทดทีแล้วกันที่น้ำตาลูกผู้ชายอย่างกรู จะทำให้เมิงตกใจ" มันเบือนหน้ามองน้ำในสระ (มันมีอะไรในสระก็ไม่รู้)
"เมิงจะประชดกันทำเอี๊ยอะไรว่ะ กรูว่าหาเมิงที่นี่ก็เพราะกรูอยากมาคุยกับเมิง" สุดทนจริงๆ
"ก็กรูอยากร้องอ่ะ มีปัญหาอะไรรึปล่าว" มันทำหน้ากวนส้น
"ไอ่อ้อย ฟังกรูนะ เมิงก็รู้แล้วว่ากรูมีเวลาอยู่ที่นี่แค่ เดือนกว่าๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือ กรูอยากจะจำแต่สิ่งที่ดีๆกับเมิงเอาไว้ กรูอยากรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเมิงโอเคป่าว" ผมพูดเป็นเรื่องเป็นราวที่สุดตั้งแต่คุยมา
มันก้มหน้าลูบหัวจูดี้หรือบ๊อบบี้เพื่อนอยากของของมันสักตัวนึง(จำไม่ได้) ดูมันเศร้าลงไปอีกแล้ว..........

เรื่องราวข่างล่างนี้ เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงร้องไห้ และพูดว่า "เมิงทิ้งกรูเหมือนที่พ่อกรูทิ้งกรูที่วัด"
..........................................................................
"ตอนนั้นกรูยังเด็ก ป.3ได้มั้ง แม่กรูเป็นโรคอะไรสักอย่าง คือขาข้างขวาแกจะขยับไม่ได้ เวลาแกจะเดิน ถ้าไม่มีใครยกขาขวาแก แกจะเดินไม่ได้ ขาแกก็จะกระตุกพยายามยกอยู่อย่างนั้น กรูต้องคอยวิ่งมายกขาแม่เวลาแม่เรียก แม่ถึงจะเดินได้ มีวันนึงเว้ย แม่กรูเอากล้วยไปขายที่ตลาดตอนกรูไปโรงเรียน ให้ใครยกขาให้ก็ไม่รู้ พอขากลับมา ไม่มีใครยกขาแก แกก็กระตุกขา จนในที่สุดล้มหน้าขะมำ ของในหาบหล่นกระจัดกระจาย ดีที่มีคนเห็นไม่งั้นแม่กรูก็คงนอนอยู่อย่างนั้น
มีอยู่วันนึงกรูกลับมาจากโรงเรียน แม่ขอให้กรูถูหลังให้ เพราะแกถูไม่ถึง กรูก็ถูหลังให้แก กรูจำได้แกถามกรูว่า
" จบโรงเรียนที่นี่แล้ว เอ็งจะไปเรียนที่ไหน" แม่กรูถาม
กรูบอกว่าไม่เรียนแล้ว เพราะไม่มีใครอยู่ดูแถ้ไปเรียนที่ ต่างอำเภอ
แม่กรูบอกว่า " ไม่ได้ต้องเรียนนะ เรียนให้เก่งๆ สูงๆ จะได้ทำงานดีๆ"
กรูก็เลยบอกแม่ว่าถ้ากรูได้งานดีๆกรูจะพาแม่ไปกรุงเทพ ไปรักษา เพราะตอนนั้นกรูไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร ต้องคอยนวดให้ทุกคืน
...........................................................................
"แล้วพ่อเมิงหล่ะ" ผมแทรกถามด้วยความอยากดรู้
"พ่อกรูทำงานอยู่ อ.เสนา นานๆจะกลับมาที่บ้านสักที" อืมวันลีตั้งแต่เด็ก ผมคิดในใจ
"พอถูหลังเสร็จแกก็ ลุกขึ้นยืนบอกจะไปอาบน้ำ ให้ยกขาให้หน่อย กรูก็ยกให้ แล้วกรูก็นั่งล่นอยู่สักพักจนได้ยินเสียง
"โครม เพล้ง อ้อย.............ช่วยแม่ทีลูก".....T-T


"กรูวิ่งตาลีตาเหลือกเข้าไปในครัว มองหาแม่ กรูเห็นแม่นอนก้มหน้าอยู่ข้างม้าหินอ่อนที่เอาไว้กินข้าวสองคน กรูวิ่งไปพริกตัวแม่
"แม่เป็นอะไรๆ" กรูเขย่าตัวแม่อ่ะ แม่กรูนอนอ้าปากค้าง พูดไม่ได้ด้วย แต่มือแกปัดป่ายสะเปะสะปะ กรูลากแม่มาข้างนอก แต่ลากไม่ไหว ตอนนั้นกรูวิ่งเข้าวิ่งออกหน้าบ้านกับในครัว ร้องให้คนช่วย "ช่วยด้วยๆ" เพราะกรูทำอะไรแมร่งไม่ถูก ตอนนั้นร้องไห้เหมือนคนเป็นบ้า กรูกลัวแม่ตาย ตอนเด็กๆก่อนนอนกรูร้องให้ทั้งคืน แม่ถามกรูว่าเป็นอะไรกรูบอกกลัวแม่ตาย เพราะดูในละครเห็นคนตายเลยไม่อยากให้แม่ตาย แม่ก็ก็ปลอบใหญ่ สุดท้ายกรูปลอบตัวเองว่าไงรู้ป่าว กรูบอกว่า
"กินข้าว กินยา ดูการ์ตูนแม่ก็หายแล้วใช่มั๊ย" เฮ้อออ เด็กๆไง
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ว่ะ กรูตัดสินใจวิ่งไปบ้านลุงข้างๆเกือบ 500 เมตร ตอนนั้นกรูไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร กรูบอกเค้าว่าแม่เป็นลม ลุงเค้าก็เลยไม่รีบมา กรูต้องคอยลาก มาถึงบ้านลุงก็เดินไปหาแม่ แล้วลุงก็ตกใจ
"แม่เมิงตายแล้วไอ่อ้อยเอ้ย" กรูดิ้นพราดเลยเมิง เหมือนโดนน้ำร้อนลวก กรูบอกกรูจะเอาแม่ กรูจะเอาแม่...
เฮ้ออ ผมพิมพ์ไปก็นะ น้ำตาคลอ สงสารมัน ตอนพ่อผมเสียผมยังเด็กเลยไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มัน มันคงเจ็บปวดน่าดู
......................................................................
"ศพแม่กรูตั้งอยู่ในบ้าน กรูก็นั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น แม่กรูจากกรูไปไม่ลาสักคำ(เข้าใจที่มันบอกว่า มันไม่รู้ว่าถ้าผมไปมันจะเป็นยังไง เพราะตอนแม่มันไปแม่มันก็ไม่ลามันเหมือนกันทันที) พ่อกรูมาถึงก็เตะกรูกลิ้งไปติดผนังเลย เมิงเอ้ยจุกโคตร แต่กรูชาว่ะ กรูไม่รู้สึกนะตอนนั้น วิ่งไปกอดพ่อ แต่พ่อไม่ให้กอด กรูนึกแล้วแมร่งสมเพชตัวเอง" ผมนั่งฟังด้วยความตั้งใจ พยายามจดจำทุกรายละเอียดที่มันพูด
................................................................

"เมิงร้องไห้ทำไม" มันเอามือมาปัดที่บ่าผม
"ถ้าเมิงร้อง กรูไม่เล่าแล้วนะ เมิงร้องเดี๋ยวแมร่งกรูก็ร้องอีก เมิงต้องเข้มแข็งสิ ลูกผู้ชาย เมิงดูกรูนี่" มันยืดอกแห้งๆท่าทางภูมิใจ
"กรูยังรอดมาเลย" เออ เมิงเก่ง นับถือ ถ้ากรูเจอแบบเมิงบ้างกรูจะยังคงมีชีวิตมายืนต่อล้อต่อเถียงกับเมิงได้เหมือนที่เมิงเป็นอยู่มั๊ยก็ไม่รุ
"หนาย กรูร้องที่ไหน บร้า" ผมทำเอามือขยี้ตา
"กรุแสบตาเว้ย จ้องเมิงตาเขม็งเลยปวดลูกตา" ข้อแก้ตัวพอกล้อมแกล้ม ตอนแรกจะบอกผงเข้าตา ก็คิดว่ามันคงไม่เชื่อ เพราะว่าไอ่นี่มันดูละครน้ำเน่าบ่อย "เอ้ยเมื่อคืนเมิงดู.......(จำชื่อเรื่องไม่ได้ที่ กบเล่นกับพระเอกใหม่ฝรั่งๆ พระจันทร์อะไรสักอย่าง) รึปล่าวว่ะ" มันจะชอบมาถามบ่อย อ่ะเข้าเรื่อง
"แล้วไงต่ออ่ะ" ผมยังคงสงสัยต่อไป
"แล้วไง กรูก็ไม่มีแม่อะดิถามได้ กำพร้าน่ะ เมิงรู้จักมั๊ยกำพร้า"มันย้ำ
"กรูรู้ดิสาด ก็ที่กรูเป็นอยู่นี่เมิงเรียกว่าอะไร" ผมสวน
"เอ่อ กรูขอโทษ....................................
พ่อกรูหาว่ากรูน่ะ ทำให้แม่ตาย ไม่ดูแม่ดีๆ กรูก็ว่าอย่างนั้นแหละว่ะ ถ้าวันนั้นกรูไม่ถูหลังให้แม่ ไม่ยกขาให้แม่ไปอาบน้ำ ไม่รอให้คนมาช่วย มีสติมากกว่านี้ แม่กรูคงไม่ตาย กรูร้องไห้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันเผา ยิ่งวันเผานะ(เรื่องที่จะได้ฟังต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เด็กและสตรมีครรภ์ไม่ควรอ่าน และสุดท้าย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)
มีป้าแถวบ้านเป็นลมตอนเค้ายิงปืนขึ้นฟ้า แกคงตกใจ แกหมดสติไปเลย คนก้เลยไปหามแก 2คนหามไม่ไหวอ่ะเมิง ต้อง 4คน หนักมากทั้งที่แกตัวเล็กนิดเดียว มีคนบอกว่าเหมือนหามคนมา 2 คน ป้าแกถูกหามมาไว้ที่ศาลาที่วัด แต่ก่อนจะเข้าวัดแกก็ฟื้น คนจะเอาแกเข้าวัดแกบอก แกไม่เข้า แกเข้าไม่ได้ แกจะกลับบ้าน แกจะไปหาลูก" ขนลุกเลยกรู เศร้าอยู่ดีๆไงมาออกเรื่องนี้ซะงั้น

"สรุปว่าแกโดนแม่กรูเข้า ตอนที่เค้าเผา เค้าไม่ให้เด็กไปเผา กรูเลยต้องนอนร้องอยู่บ้าน คนก็หามป้ากลับบ้านแก แกบอกไม่ใช่ นี่ไม่ใช่บ้านแก แล้วแกก็วิ่งมาที่บ้านกรู มานอนที่แคร่หน้าบ้าน คนก็มามุงกันเต็ม พ่อกรูมาทีหลัง เออมีคนลองดีด้วย เป็นน้องชายพ่อ แกไม่ค่อยถูกกับแม่กรู แกขอหวย แกบอกว่า ถ้าผีเข้าจริงๆขอเลขเด็ดๆสัก 3ตัว แม่กรูเลยด่าให้ หงอยไปเลย
พ่อกรูแกแวะไปหาหมอผีมาด้วย
"เมิงไม่ต้องเอาหมอมาไล่กรูหรอก ไอ่...(ชื่อพ่อมัน) กรุไม่ไปไหน กรุจะอยู่กับลูกกรู" แม่กรูว่า ตอนนั้นกรูร้องไห้หนักกว่าเก่าอีก แล้วแกก็เรียกหากรู ตอนนั้นกรูก็กล้าๆกลัวๆ แต่ก็เข้าไป
"อ้อยย แม่หิวข้าวลูก หิวน้ำด้วย ไม่มีใครเอาข้าวเอาน้ำให้แม่เลย" แม่ขอกรู มารู้ตอนหลังตอนที่ป้าฟื้น ป้าบอกว่าป้าลืม ตอนแรกๆก็เอาข้าวเอาน้ำไปให้ แลเวก็เคาะที่โลงบอกให้แม่กินข้าว แต่2-3หลังยุ่งเลยไม่ได้เชิญ"
"โอยยยยยยยย ไอ่อ้อย กรูกลัว นี่มันก็ในวัดนะเว้ย"
"กลัวงั้นกรุไม่เล่าแล้ว สาด อยู่กับกรูกลัวอะไร" โห แมนมั๊กๆ รักมึกก็ตอนนี้แหละ ผมขยับเก้าอี้ไปติดมัน เรียกได้ว่าแทบจะขี่คอมันทีเดียว เพราะตอนนั้นก็ 5โมงกว่าๆแล้วมั้ง บรรยากาศวังเวง
..........................................................................
"แม่กรูยังคงไม่ยอมไปสุคติ ทุกคนต่างอ้อนวอนให้แม่ไป แม่ร้องไห้ กรูร้องไห้ คนที่มาล้อมวงก็ร้องให้ คงสงสารกรูมั้ง ไม่ก็กลัวกัน กรูวิ่งไปเอาน้ำ ตักข้าวและกับข้าวใส่จาน น้ำตาหยดติ๋งๆลงในจานข้าวแม่ สะอื้นแล้วสะอื้นอีก กรูยกมาให้แม่ แต่แม่คุยกับพ่อตอนนั้น จานข้าวกับน้ำเลยวางอยู่ข้างๆ
พ่อกรูบอกว่า ให้ไปที่ชอบๆเถอะ แกจะดูแลกรูเอง ไม่ต้องห่วง ตอนแรกแกไม่ยอม แกไม่เชื่อว่าพ่อกรูจะทำได้ แต่พอพ่อพูดหนักเข้าพร้อมสาบาน แกเลยยอม
"เมิงต้องให้มันเรียนหนังสือ กรูห่วงถ้ามันไม่ได้เรียน เอามันไปอยู่กับเมิงด้วย อย่าตีมัน อย่าเตะมัน พอมันครบบวช บวชให้กรูด้วย" พูดเสร็จแม่ก็สะอื้นร้องไห้โฮ ออกมา เหมือนแกได้สั่งเสีย กรูคลานไปจับเท้าป้าซึ่งก็คือแม่ เท้าแกเย็นเฉียบ แม่ลูบหัวกรู แล้วแกก็นอนหันหลังเข้าฝา สะอื้น 2-3 ทีแล้วก็หลับไป...............................................................................................................................................

" อ้อย" ผมเรียกมีนเบาๆ หันซ้ายหันขวา เหมือนคนระแวงตลอดเวลา
"อะไร" มันตอบ
"อ้อย.....กรูกลัว กรูว่าไปนั่งที่กุฎิดีกว่าว่ะนะ" ผมกระแซะไปติดมัน
"เมิงกลัวผีอะไรของเมิง นี่มันเพิ่ง 5โมงเย็น"
"ก็กลัวผีอ่ะเ นะนะ" มันหัวเราะ
"เมิงรู้ป่าวที่เมิงนั่งอยู่ตรงเนี๊ยะ เคยเป็นป่าช้าฝังผีเก่า เฮี้ยนมาก จนต้องขนเอากระดูกไปทำพิธี ตอนนี้เลยเป็นบ่อ"
ผมยกขาสองข้างขึ้น ยกมือไหว้ประหลกๆ
"แล้วนี่นะ วันนั้นกรูเคยเจอตรงนี้แหละ กรูเห็นคนนะ หัวค่อยโผล่ขึ้นมา โผล่ขึ้นมาช้าๆ จากบ่อตรงนั้น" มันชี้ ผมหันหน้าไปมองตามมือที่มันชี้ อีกมือนึง จินตนาการบรรเจิดครับตอนนั้น อีกมือกุมขามันแน่น
"พรวดดด ผีหลอก กรุไปแล้วววววววววววว" แผ่ลว มันกระโดดวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วจนหมา 2ตัวตกใจอ่ะ ผมงี้แมร่งตกใจหน้าซีด กระโดด ข้ามสะพานตามมันออกมาไม่คิดชีวิต ไอ่อ้อยวิ่งหัวเราะก๊ากๆอยู่ข้างหน้า ทิ้งผมให้วิ่งหน้าซีดอยู่ข้างหลัง
"ไอ่อ้อย ไอ้เวน รอกรูด้วย สาด".............


"ไอ่อ้อย รองเท้ากรูหลุดอยู่ที่ศาลาข้างนึง" ผมบอกยกทีนให้มันดูวิ่งโกยเถอะโยมจนรองเท้าหลุด
"เมิงก็ไปเอาดิ"
"เมิงไปเอาให้กรูสาดดดด"ผมว่า
"เมิงนั่นแหละแมร่งเล่นยังกับเด็ก ไม่อายไอ่กล้วยมันเหรอ" ไอ่กล้วยยืนดูดไอติม สำราญนะเมิง
"ไปก็ได้ แต่ว่า...........
..................
..................





.................
เมิงต้องมากับกรูด้วย"....สาดดด หลอกผีคนอื่นแมร่ง ดันกลัวเอง สุดท้ายเลยต้องเอาเชื่อกผูกมือมันไว้กันมันวิ่งหนีไปก่อนอีก
......................................................................

"อ้อยกรูหิวว่ะ"
ผมเลยขับรถพามันออกจากวัดไปนั่งกินร้านริมคลอง บรรยากาศดีแต้ๆ
"แล้วตกลงแม่เมิงเป็นอะไร" ผมสงสัยไม่หาย
"เส้นเลือดในสมองแตก" อืมมมม
"แล้วพ่อเมิงทิ้งเมิงไว้ที่วัดทำไม" ผมถามเพราะยังคงไม่รู้เรื่องอยู่ดี มัวแต่กลัวผี
"ตอนเด็กกรูเป็นเด็กเหลือขอมั้ง พ่อกรูเคยเอาไปปล่อยที่วัดใกล้ๆบ้าน แต่ตกดึกกรูหนีกลับมานอนกับหมาหน้าบ้าน ตื่นเช้าพ่อกรูกระทืบกรุแทบตาย"
"พ่อเมิงนี่เป็นนักมวยเก่าป่าววะเนี๊ยะ แมร่งโหดกำลัง 3จริงๆ"
"ผั๊วะ" มันตบหัวผม "พ่อกรู ลามนะเมิง" แหะๆ
"พ่อกรูเอากรูไปปล่อยวัด2-3 ครั้งน่ะ ครั้งสุดท้ายเหลืออดมั้ง เพราะกรู ต่อยกับเด็กข้างบ้านลูกเค้าเข้าโรงบาล (กรูรู้แล้วเมิงติดซาดิส์มาจากใคร.....เป็นโรคเรียกร้องความสนใจแหง๋ม) เลยหลอกกรูว่าจะพาไปเอาลูกหมาที่วัด เอาน้องกรูไปด้วย ไปถึงเค้าก็ให้กรูไปเลือกหมานะ น้องกรูจะตามไปพ่อไม่ให้ไป กรูก็นะ พาซื่อเดินไปเฉย สักพักได้ยินเสียงสตาร์ทมอไซค์ สันชาติญาณรู้เลย โดนทิ้งอีกแล้ว โกยวิ่งตามรถเลยกรู ร้องอีกแล้ว
"เอาผมไปด้วย เอาผมไปด้วย" กรูเรียกพ่อกรู กรูวิ่งตามล้มลุกคลุกคลาน หัวเข่าถลอดปอดเปิกหมด สุดท้ายเหนื่อยเว้ย แค้นด้วย แค้นตัวเองที่โดนหลอก นั่งทรุดลงร้องไห้ใต้โคนต้นข่อย จะเดินกลับบ้านเหมือนครั้งก่อนก็ไม่ได้ ไม่รู้จักทาง มันไกล คนละอำเภอ...............ก็เลยเดินหมดอาลัยตายอยากกลับวัด"
ผมดูดน้ำเฮือก ฝืดๆคอ กลืนไม่ลง
..........................................................................
"กรูกลับวัด สภาพสะบักสะบอม ไม่มีใครสนใจกรูเลย กรูก็ไม่รู้จะไปทางไหน เคว้งสุดๆแล้วช่วงนั้น คิดถึงแม่จับใจเลยกรู สรุปกรูไปนั่งกอดบันไดโบสถุ์นั่งร้องไห้" ฮือออ ดีนะที่วันนั้นมันอารมณ์ดี ถ้ามันเศร้าๆเล่าแบบนี้มีหวังน้ำตาแตกอีกแน่กรู
"จนเจ้าอาวาสมาตามนั่นอหละ แกบอกว่าพ่อเอามาฝากไว้ให้เรียนที่โรงเรียนวัดข้างๆ นี่แหละ ตอนนั้นกรูไม่ฟังอะไรแล้ว โกรธพ่อ คิดไว้เลยว่าจะไม่กลับบ้านอีกเลย ก็จนิงอ่ะ หลังจากนั้นกรุก็ไม่กลับ เพราะกลับไม่ถูก พ่อก็ไม่เคยมาหาเลย กรูจะมีเพื่อนเป็นเด็กวัดเป็นรุ่นๆ คือเวียนกันทุกพรรษา พอออกพรรษามันก็กลับไปอยู่บ้าน แต่กรูต้องอยู่ตลอด คืนไหน เพื่อนกลับบ้านหมด กรูไม่รู้จะไปไหนก็ ต้องนอนเฝ้ากุฎิคนเดียว เพราะหลวงพี่เค้าเข้าโบสถ์กัน.........................
"พอเหอะอ้อย กรูว่ากรูรู้แล้วหล่ะ" ผมบอกให้มันหยุดเพราะสงสารมัน
"ทำไม"
"กรูว่าพอแล้วหล่ะ กรุทนฟังไม่ไหวแล้วว่ะเมิง" ผมพูดไปตรงๆ เพราะผมคิดว่ามันหนักไปสำหรับผม
"โอเคก็ได้ กรูก็ไม่อยากเล่าแล้วเหมือนกัน แต่กรูบอกเมิงไว้นะ ว่ากรูไม่เคยเสียใจที่เป็นแบบนี้ กรูดีใจด้วยซ้ำที่ได้มาอยู่วัด เพราะถ้ากรูอยู่กับพ่อ กรูยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้กรูจะเป็นยังไง"
"สรุปพ่อเมิงก็ไม่รักษาสัญญาที่ให้กับแม่เมิงอ่ะดิ" ผมว่า
"ไม่ว่ะ พ่อกรูทำทุกอย่างที่สัญญา พ่อกรูรับกรูไปอยู่ด้วยถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ พ่อกรูให้กรุได้เรียนจนจบ ป.ตรี ถึงแม้จะยังเตะกรูอยู่ แต่ก็ครั้งนั้นครั้งเดียว(ครั้งที่มันไปขอเงินให้ผม) เหลืออยู่อย่างเดียวคือ บวชให้แม่..............................................."


"เมิงรู้แล้วใช่ป่าวว่ากรูต้องไป" ผมถาม
" อืม " มันพยักหน้ารับฟังคำตัดสิน
"แล้ววว................เอ่อ เมิงว่ายังไง" ผมอยากฟังคำตอบของมันจากคำถามนี้มากที่สุด
"กรูจะว่ายังไงได้ ชีวิตก็ชีวิตเมิง" มันประชด
"นี่สาดด เลิกประชดกรูซะทีเหอะนะ กรูขอร้อง"

....................................

มันนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา
"แล้วเมิงจะให้กรูรู้สึกยังไงหา สาดดด เมิงหล่ะ รู้สึกยังไงตอนที่จะทิ้งกรูไป" มันพูดเสียงดัง เจ้าของร้านมอง
"ไอ่บร้า เมิงพูดเบาๆสิสาดดด"
มันเดินงุดๆออกมานอกร้าน ผมรีบเอาเงินไปให้แม่ค้า วิ่งตามมันไป
"เมิงเป็นเมนส์เหรอ อารมณ์แมร่งขึ้นลง กรูตามไม่ทัน" มันก็ยังเงียบ
"ตอนแฟนกรูทิ้งกรู (ผมเฉลยตอนจบ กรูไม่ได้ทิ้งเค้าหรอก เค้าอ่ะทิ้งกรู) กรูเสียใจสิ กรูไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงทิ้งกรู" ผมสาธยายให้มันฟัง "กรูรู้แต่ว่าเค้าหมดรักกรูแล้ว ต่อให้กรูทำดีแค่ไหนมันก็เท่านั้น แต่กับเมิงกรูรู้สึกยังไงเหรอที่ทิ้งเมิง เสียใจ ห่วง และที่สำคัญกรูเสียดายมิตรภาพที่เมิงให้กรู มันเหมือนบ่วงที่ผูกคอกรูไว้ เมิงเข้าใจมั๊ยสาดดด" มันนิ่งฟังอย่างสงบ
......................................................................

" กรูถึงไม่อยากเป็นบ่วงรัดคอเมิงไง กรูยังยืนยันคำเดิมนะ ว่า กรูเป็นเอี๊ยอะไรไม่รู้ รักเมิงอ่ะ แล้วกรูก็ไม่คิดว่าจะรักใครได้ขนาดนี้ กรูทำใจไม่ได้หรอกที่เมิงต้องไป เมิงรู้ป่าว วันไหนที่กรูมาทำงานแล้วรู้ว่าเมิงลาป่วย กรูแทบไม่อยากทำงาน กรูอยากไปหาเมิง นี่แค่วันเดียว แล้วเมิงคิดว่าเป็นเดือนเป็นปี กรูจะรับไหวได้ยังไง" มันยืนพิงรถ ก้มหน้าก้มตาพูด ผมขยับไปยืนพิงรถใกล้ๆกับมัน
"แต่ยังไงกรูก็กลับมา เป็นเดือนเป็นปี กรูก็ต้องกลับ กรูไม่ได้ไปตายซะหน่อย" ผมยังคงอยากให้มันคิดในแง่ดีเข้าไว้
"เมิงคิดเหรอว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม" ผมอึ้ง
"เมิงจำวันแรกที่กรูคุยกับเมิงได้มั๊ย เมิงเห็นกรูแล้วทำหน้ายังกับเห็นไส้เดือนกิ้งกือ เมิงด่ากรูสารพัด จนมาวันนี้ เรามาไกลถึงจุดนี้ เมิงพูดดีกับกรู ยิ้มกับกรู บอกว่าห่วงกรู แล้วถ้าต้องห่างกัน กรูไม่กล้าคิดหรอกว่ามันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกรึป่าว ใจคนน่ะเมิงกรูเจอมาเยอะ เมิงตอบตัวเองให้ได้ก่อนเหอะว่าถ้าห่างกรูไปแล้ว เมิงยังจะรู้สึกแบบนี้กับกรูอีกมั๊ย สำหรับกรูนะ กรูไม่ไว้ใจเมิง กรูถึงอยากจะอยู่ใกล้เมิง อยากจะเอาชนะใจเมิงให้ได้ไง"
......โอ้ยยย ไอ่อ้อยยยย เมิงคิดอะไรของเมิง อนาคตใครจะไปรู้ว่ะ ผมนึกในใจ
..............................................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
Black๐Kitty
Administrator
Administrator
Black๐Kitty


Female
เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 382
อายุ : 42
Registration date : 01/06/2007

เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"   เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด" EmptyThu Jun 07, 2007 4:31 pm

"เมิงรู้ป่าวว่ามันยากแค่ไหนกว่าที่กรูจะมาไกลถึงขนาดนี้ กว่าที่กรูจะทำให้เมิงยอมพูดกับกรู ยิ้มกับกรู หัวเราะกับกรู ยอมให้กรูกอด ให้กรูสระผม ยอมนั่งร้องไห้เป็นเพื่อนกรู แล้วอยู่ดีๆทุกสิ่งอย่างที่กรูทำมันจะหายไป กรูเหนื่อยว่ะ เมิงเอี๊ย" มันเอาทีนเตะก้อนกรวด
"สาดดดนี่เมิงคิดอะไรของเมิงมากมาย กรูก็ลำบากใจนะเมิง เมิงเป็นผู้ชาย กรูเป็นผู้ชาย เราทั้งคู่ไม่ได้ถูกธรรมชาติสร้างมาให้คู่กัน แต่กรูกำลังฝืน ถึงแม้บางทีกรูก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าที่กรูฝืนนี่ มันเรียกว่า....เอ่อ อืม รักรึปล่าว กรูรู้แต่ว่าเมิงคือเพื่อนที่ดีที่สุด และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กรูมาหาเมิงงก็เพราะกรูไม่อยากจากเมิงไปโดยที่ไม่รู้ว่าเมิงเป็นยังไง " มันเอื้อมมือมาจับมือผม เหงื่อซึมในมือ
"แค่นี้กรูก็ดีใจแล้วหล่ะ " มันยิ้ม ผมกุมมือมันไว้แน่น
เราเงียบกันอยู่ครู่นึง ฟ้าเริ่มแดงๆ แต่ก็ยังหม่นๆอยู่ ฝนหยุดตกได้สัหพัก อากาศหนาวดีจัง


"เข้าไปนั่งในรถเหอะ ยุงกัดกรูลายไปทั้งตัวแล้ว" ผมเปิดประตูเข้าไปนั่ง
"ตกลงกรูถามเมิงคำเดียว เมิงจะโกรธกรูมั๊ยถ้ากรูไป" ที่ผ่านมามันยังไม่เครียร์สำหรับผม
มันอึ้งๆไปพักนึงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
"กรูไม่เคยโกรธเมิง ไปเหอะ กรูอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง" มันตบบ่าผมเบาๆ นี่แหละ คำที่ผมรอคอยมาแสนนานนนนนน


" หลังจากนี้เมิงไปอยู่ที่บ้านกับกรูนะ ไปอยู่ห้องกรู ห้องกรูไม่รกเหมือนห้องอ้อย แม่กรูคงดีใจที่เมิงจะไปอยู่ด้วยเพราะว่า ก่อนกรูมาแม่ยังฝากบอกเลยว่า ฝากเมิงด้วย " ผมพล่ามต่อไป เพราะตอนนั้นรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด หันไปมองไอ่อ้อย คอมันตกเหมือนไก่โดนหวัดนก
"เป็นอะไร"ผมถาม
"เมิงพูดต่อไปสิ กรูอยากฟัง" อะไรของมันว่ะ
"เรื่องงานนะ เดี๋ยวกรูไปขอพี่เต้ยให้ พี่เต้ยไม่ว่าอยู่แล้ว เพราะตอนนี้กำลังขาดคนพอดี เมิงก็ทำงานต่อที่นั่นได้นะเว้ย กรูกลับบ้าน เมิงก็ได้เจอกรู ทีนี้อย่ามาบ่นเบื่อกรูก็แล้วกัน" ผมพูดๆๆๆๆๆไปอย่างมีความสุข
"ฝากขอโทษแม่เมิงด้วยแล้วกัน" ผมหันไปมองมัน
"อะไร" ผมถาม




"ขอโทษที่ไปอยู่ด้วยไม่ได้ กรูบอกเมิงตรงๆว่ะ ว่ากรูเหมือนคนหลักลอย แล้วเมิงก็คือหลักของกรู กรูไม่รู้ว่าต่อไปกรูจะเป็นยังไง กรูไม่รู้เป้าหมายในชีวิตตัวเอง กรูไม่ใช่คนที่ใครๆฝากความหวังไว้เหมือนกับเมิง กรูไม่มีใครต้องทำให้เค้าภูมิใจ ไม่มีใครต้องให้เค้าฝากความหวัง กรูอยู่ก็เพราะเมิง" งงๆที่มันพูด แต่พอจับประเด็นได้ประมาณนี้
"เมิงอย่าเอาอนาคตมาผูกกับกรูสิวะ ชีวิตเมิง เมิงต้องดูแลเอง" ผมว่า
" กรูว่า..........................จะบวช" อยู่ดีๆมันก็พูดโพร่งขึ้นมา
"อะไรว่ะจะบวชเนี๊ยะนะ เมิงคิดบร้าอะไรของเมิง อกหักแล้วจะบวช" ผมหงุดหงิดทันที
"ไม่ใช่อกหักเว้ยยสาดด กรูแค่อยากพักมั่ง อย่างน้อยกรูอยากหาความสงบ หาความหมายที่แท้จริงของชีวิต" ผมฟังไปก็เคลิ้มไปกับมัน
"แล้วไงต่อ" ผมยังคงเป็นห่วงมันอยู่ดี


"ก่อนที่กรูมาอยู่ที่วัด ใจกรูทุรนทุราน หาที่ที่จะไป กรูอยากไปให้พ้นจากที่ที่กรูเคยอยู่ แต่กรูไม่รู้ว่าจะไปไหน กรูเลยมาที่วัด พอกรูมาถึง มันก็ดีขึ้นว่ะ กรูนั่งคิดหลายวันว่าที่ที่กรูอยู่จะสบายใจที่สุดคือที่นี่ ที่วัด เพราะฉะนั้นกรูจะบวชที่นี่.."
"แล้วหลังจากศึกหล่ะ เมิงจะทำอะไร" ผมใจหายวาบ บอกตรงๆตอนนั้นใจคิดอกุศล คือไม่อยากให้มันบวช เพราะถ้ามันบวช ความเป็นเพื่อนหรือมากกว่านั้นของเราจะต้องเปลี่ยนไปแน่นอน
"กรูยังไม่อยากคิดเรื่องสึกหรอก สึกไม่สึกมันก็มีค่าเท่ากันสำหรับกรู"
"เมิงจะไม่สึกเหรอ" ผมเริ่มลน ใจเริ่มแกว่งๆ บอกไม่ถูก ไม่อยากให้มันเปลี่ยนสถานะไป
มันไม่พูดอะไร ผมจอดรถเลยครับถนนมันแคบ ผมแมร่งไม่สนใจแล้ว ลงไปจอดเกือบตกคลอง
"กรูไม่ไปแล้ว ไอ่อ้อย กรูไม่ไปทำงานก็ได้ เมิงกลับมาเหมือนเดิมนะ" ผมหันไปเขย่าแขนมัน น้ำเสียงสั่นๆอ่ะ ยอมรับว่าตอนนั้นช๊อค เพราะตอนแรกที่เห็นพระหน้าเหมือนมันแล้วคิดว่ามันจะบวชก็ช๊อคเกือบแย่ นี่มารู้ว่ามันจะบวชเลยไปกันใหญ่
"ไอ่บร้า" มันหัวเราะ แต่เสียงสั่นๆ " เมิงไปเหอะ อนาคตเมิง เมิงมีแม่มีน้องอีกนะเว้ย กรูไม่เป็นไรจริงๆ " มันเอามือมาจับมือผมที่กุมแขนมันไว้
"แล้วทำไมเมิงต้องทำอย่างงี้ว่ะ ไอ่สาดดด กรูขอโทษก็ได้ เมิงจะปล้ำกรูก็ได้กรูยอมเมิงแล้ว ฮือๆๆ เมิงอย่าทำอย่างนั้นเลยนะกรูขอร้อง " อายจังถ้าจะบอกว่าตอนนั้นร้องไห้อีกแล้ว ความรู้สึกเหมือนตอน รร จัดงานเลี้ยงส่งตอน ป.6 หรือ ม.6 ประมาณนั้น เหมือนว่าจะไม่ได้เจอกันอีก แต่ความรู้สึกนี้มันแรงกว่า
"นะ เมิง เรากลับไปเหมือนเดิมก็ได้นะ กรูไปทำงานที่เดิมกับเมิงก็ได้นะเว้ย ฮือๆ" สะอื้นแหะๆ อายว่ะ
"ไอ่เอี๊ย ทำอย่างนั้นไม่ได้นะเว้ย แมร่ง " มันโผกอดผมแน่น ผมเลยปล่อยโฮซะเต็มที
"กรูให้เมิงบวชได้ 3เดือนเท่านั้นนะเว้ย" ผมยังคงเพ้อเจ้อ
..........................................................................
"เฮ้ยย เมิงหยุดร้องก่อน แล้วฟังกรู"
"มันไม่ใช่อย่างที่เมิงคิด ไม่ใช่เพราะเมิงที่ทำให้กรูตัดสินใจอย่างนี้ กรูเลือกมันเอง ฟังกรูนะ ไอ่เป็ด ไอ่เอี๊ย เมิงดีใจมั๊ยตอนที่เมิงรู้ว่าได้เป็นสจ๊วต" ผมพยักหน้า ผละจากอ้อมกอดมัน ปาดน้ำตา สายตาทอดยาวออกไป แสงอาทิตย์กำลังหายไป
"มันเป็นสิ่งที่เมิงรอคอย กรูรู้ กรูก็เหมือนกัน กรูมีความสุขที่ได้ตัดสินใจไปแบบนี้ เมิงจะมาทำลายความสุขอันน้อยนิดกรูได้ลงคอเหรอ" ผมหลับตาแค้นให้น้ำตาหยดสุดท้ายออกมาให้หมด
"เมิงเชื่อกรูนะว่า ต่อให้กรูจะต้องไปอยู่ที่ไหน ไกลกว่านี้สักเท่าไหร่ กรูก็จะคิดถึงเมิง" มันเอื้อมมือจับบ่าผมบีบแน่น
"หมายความว่าไง เมิงจะไปอยู่ไหน".........................
..........................................................................
ผมเข้าใจทุกอย่างแล้วครับ ตอนนี้ มันคงมาถึงทางตันสำหรับเราทั้งคู่แล้ว คงไม่มีอะไรไปมากกว่านี้แล้ว บางที มนุษย์ก็มักไม่เลือกที่จะเดินทางที่สุขสมหวังเสมอไป ผมตัดสินใจตอนนั้นว่า ผมจะไปแน่นอน มันก็ตัดสินใจว่ามันคงจะบวชแน่นอน ผมได้ร้องไห้ไปแล้ว ความรู้สึกโล่งขึ้น ยิ่งได้ฟังที่มันพูดว่า "กรูมีความสุขที่ได้ตัดสินใจไปแบบนี้ เมิงจะมาทำลายความสุขอันน้อยนิดกรูได้ลงคอเหรอ" ผมยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า สิ่งที่มันตัดสินใจลงไปนั้น มันคิดดีแล้ว ต่อไปมันจะเข้มแข็งขึ้น ผมคิดอีกที มันดีกว่าไม่ใช่เหรอกับการที่คนที่เรารักเลือกจะอยู่ในที่ที่เค้าคิดว่ามีความสุขโดยการตัดสินใจของเค้าเอง แทนที่เราจะผลักไสคนที่เรารักไปให้คนอื่น น้ำตาผมแห้งไปแล้วหล่ะ ผมถอยรถขึ้นมาจากขอบถนน มุ่งตรงไปยังวัดทันที ผมจอดรถไว้หน้าวัดเพราะข้างในกลับรถยาก
"กรูกลับก่อนนะ" ผมเอ่ยคำร่ำลา
"อืม"
เราทั้งคู่นั่งนิ่ง ผมไม่อยากให้มันก้าวเท้าออกไปจากรถเลย มันก็คงเช่นกัน
"กรูขอกอดเมิงอีกสักครั้งได้มั๊ย.............ครั้งสุดท้าย" มันขอ
ผมมองไม่เห็นใบหน้าของมันอีก เพราะความมืด แต่ผมก็รู้ดีว่าเราทั้งคู่ต่างรู้สึกยังไง รู้ได้ยังไงนะเหรอ ก็จากอ้อมกอดไง
มันโน้มตัวช้าๆ ลมหายใจปะทะใบหน้าผมอยุ่เบา แล้วอ้อมกอดจากมิตรภาพของมันก็สวมกอดผมไม่แน่นไม่เบา แต่รับรู้ได้ถึงความรักที่มันมีให้ ผมสนองความรักของมันด้วยกันโอบมันกลับอย่างแผ่วเบา มือของผมลูบหัวมันเบาๆ
"ผมเมิงก็สวยเหมือนกันนะ" ผมพูด...........
..........................................................................
ผมจะไม่ปล่อยอ้อมกอดผมจากมันก่อนเป็นอันขาด ผมคิดในใจ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ผมก็จะรอจนกว่ามันจะคลายมืออก ผมถึงจะปล่อย ผมจะไม่ทิ้งมันก่อนอีกแล้ว
มันค่อยๆคลายมืออกจากผม ลมหายใจแรงกว่าครั้งไหนๆ ผมรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นตุ๊บๆของหัวใจ การกล่าวลามันลำบากอย่างงี้นี่เอง แต่อย่างน้อยกรูก็ไม่ได้จากไปโดยไม่ร่ำลา......................................
มันเปิดประตูออกไปจากรถ ผมได้เห็นหน้ามันชัดๆอีกครั้ง ก่อนที่มันจะปิดประตู
"รอกรูเดี๋ยวนะ" แล้วมันก็วิ่งหายไป
ผมว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ความขัดแย้งต่างๆกรูเข้ามาในหัว ตกลงผมอยากไปจากมันหรือปล่าว ตกลงผมควรจะดีใจหรือเสียใจ แล้วตกลงผมรักมันแบบไหนกันแน่ มันวิ่งวนเวียนสลับกันไปสลับกันมา
"ก๊อกๆๆ" มันเคาะกระจก
"อ่ะ กรูให้เมิง ต่อไปเขียนเรื่องราวของเมิงแทนกรูด้วยนะ ถึงกรูจะเขียนสู้เมิงไม่ได้ แต่กรูอยากให้เมิงเก็บไว้" ผมรับสิ่งที่มันยื่นให้ สมุดบันทึกรูปเด็กผู้ชายนั่งสูบบุหรี่ เหมือนเมิงจริงๆ
"หมดเล่มเมื่อไหร่ฝากไว้ที่แม่เมิงนะ กรูมีโอกาสจะกลับไปเอา" มันว่า
"งั้นกรูส่งอีเมล หรือไม่ก็จดหมายหาเมิงได้มั๊ย" ผมถาม
"อย่าเลย เป็ด ขอเวลาให้กรูเถอะนะ กรูพร้อมเมื่อไหร่ เมื่อนั้น เมิงจะเห็นกรูคนเดิมเอง" ผมไม่เข้ามันจริงๆ แต่ตอนนั้นผมไม่อยากจะเซ้าซี้อะไรอีกแล้ว
"โชคดีนะ.......ที่รัก" มันอมยิ้ม ผมจะจำรอยยิ้มครั้งนี้ไปตลอดชีวิต
"อืมมม" ผมถอยรถออกมา มองผ่านกระจกหลัง มันยังคงยืนอยู่ตรงนั้น โบกมือให้ ผมใจหาย คิดในใจ ต่อไปเราจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วเหรอ จะไม่มีใครมากวนส้นทีน ไม่มีใครมาคอยแทะโลม ไม่มีใครมาคอยอยู่เป็นเพื่นให่อุ่นใจ ไม่มีใครวิ่งไล่ปล้ำ ไม่มีใครเอาหนวดมาถูที่คอ ไม่มีใครให้ด่า และที่สำคัญ ไม่มีใครกอดผมด้วยความรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว คิดแล้ว น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ภาพของมันค่อนๆจางหายไปกับความมืดดดดดดดดด..........................................
..........................................................................
ผมกลับรถมาถึงบ้านเล่าให้แม่ฟังเรื่องที่อ้อยจะบวช
"แม่รู้นะว่าอ้อยคิดยังไงกับลูกน่ะ แล้วลูกหล่ะ" แม่ถาม แปลกใจที่ผมไม่ตกใจเลย
"หนูไม่รู้เหมือนกันแม่ หนูรู้ว่าหนูห่วงมัน แต่หนูไม่รู้ว่าหนูรักแบบไหน เพราะหนูไม่เคยรักผู้ชาย หนูเลยไม่เข้าใจว่าที่หนูรู้สึกอยู่ตอนนี้ คือรักรึป่าว" แม่พยักหน้า
"แม่สงสารอ้อยนะลูก" แม่พูดมาคำเดียว ทำให้ผมเข้าใจอะไรได้มากมาย ถ้าผมจะรักกับอ้อยจริงๆแม่ก็คงไม่ว่า....แต่มันเป็นไปไม่ได้
"อ้อยมันจะบวชวัน.....นี้นะแม่ หนูเลยขอให้แม่เป็นเจ้าภาพ มันไม่มีใคร เราคงต้องไปกันแค่นี้แหละ แต่เดี๋ยวหนูว่าจะลองไปบอกบุญกับพ่อมันก่อน ยังไงแม่ช่วยเตรียมของให้ด้วยนะ บวชเสร็จเห็นมันว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง หนูก็ไม่รู้ แต่มันสัญญาว่ามันจะมาเยี่ยมแม่นะ" ผมเล่าให้แม่ฟัง
"แล้วลูกว่าไงหล่ะ"
"หนูจะว่าไงได้แม่ หนูก็อนุโมธนาสาธุกับมัน หนูห่วงมัน ห่วงมันมาก แต่ถ้ามันได้ครองผ้าเหลืองแล้ว หนูก็คงไม่ต้องห่วงมันอีกแล้ว" แม่ยิ้ม ผมก้มหน้าหลบสายตาแม่
"ลูกไม่เป็นไรนะ" แม่จับมือผม แม่รู้เสมอว่าผมรู้สึกยังไง เพราะแม่คือแม่ของผม...
..........................................................................
เมื่อวานที่ผมบอกว่าจะคุยกับแม่เรื่องอ้อย ก็เป็นเรื่องเตรียมงานบวชให้มัน แล้วที่จะหายไป 3-4 วันเป็นงานบวชมันเหมือนกัน
..........................................................................
มาถึงตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกมันมากขึ้น จากไดอารี่ของมัน ทำให้ผมได้คิดว่า ความรักมันเกิดขึ้นได้เสมอ ความรักไม่มีเพศ คนเราต่างหากที่ไปกำหนดเพศให้มัน ทุกคนมีสิทธิ์รัก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รักไว้ครอบครอง(เอามาจากส่วนนึงของไดอารี่เด็กขี้ยา) ผมยังคงอ่านไดอารี่ของมันวันละตอนได้เห็นภาพครั้งแรกที่มันเจอผม ได้คุยกับผม ได้ไปทำไฟล์ด้วยกัน ทุกอย่างที่มันเขียนผมเพิ่งรับรู้เมื่อวัน 2 วันนี่เอง อ่านไปก็รู้ว่าตัวเองมีค่าขนาดนี้เลยเหรอ ผมอ่านมันอย่างช้าๆ ด้วยไม่อยากให้มันจบเร็ว อย่างน้อย ผมจะได้รู้สึกว่ามันอยู่ข้างๆ คอยส่งน้ำเต้าหู้ให้เสมอ
ต่อจากนี้ไปอีกเดือนกว่าๆ ผมจะใช้ชีวิตกับแม่กับน้องให้คุ้มค่าที่สุด ผมไปถึงที่นั่นเมื่อไหร่ ผมจะเขียนไดอารี่เล่มนี้ทันที กรูสัญญา เมิงจะรู้ทุกเรื่องราวที่กรูเป็น และกรูจะรอวันที่ไอ่อ้อยคนเดิมกลับมา กรูจะรอ


....................THE END...................................
..........................................................................
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://jigsaw.forumotion.com
 
เรื่องของ"คุณเซ็งเป็ด"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 1 เธˆเธฒเธ 1
 Similar topics
-
» "??หญิง?????ัก" ?ับ "????อง???"
» ?????? " ?ัด??? " ???าค????วด???????หญิง???

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
 :: For Guest :: เข้ามาคุยกันได้เลย-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: